โหรกับการโกหกในการเมืองไทย

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

ในระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องโหรทำนายชะตาของบ้านเมืองครั้งใด ก็มักจะถือกันว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเรื่องหนึ่ง และสะท้อนถึงความล้าหลังในทางความคิดทางการเมืองของไทย พวกโหรทั้งหลายมักจะหาเรื่องโกหกพกลมมานำเสนอให้เหมือนจริงเพื่อสร้างความเชื่อถือ แต่สุดท้ายก็ไร้สาระหาเนื้อหาอะไรไม่ได้ แต่ก็ต้องแปลกใจในรายงานข่าวล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นว่า โหรเข้ามามีบทบาทในการเมืองไทยปัจจุบันมากกว่าที่คิด

ทั้งนี้มาจากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับคณะ เช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการกองทัพบก นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ได้เดินทางไปเป็นร่วมพิธีห่มผ้าพระเจ้าพิชิตมาร ที่ข่วงพระเจ้าล้านนา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสำนักแห่งใหม่ของนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ผู้อ้างตัวเป็นโหรคนสำคัญ ซึ่งที่รับใช้ฝ่ายทหารมาตั้งแต่ครั้งรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ.2549 จนได้ฉายาว่า “โหร คมช.”

ในโอกาสนี้ นายวารินทร์ได้เสนอคำทำนายว่า การเลือกตั้งที่ฝ่าย คสช.แถลงว่าจะมีขึ้นใน พ.ศ.2559 นั้น จะต้องเลื่อน และไม่เป็นไปตามโรดแมป เพราะปัญหาบ้านเมืองยังไม่คลี่คลาย ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูยาวนาน และอธิบายว่า สำหรับชะตาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงมี “ดวงหน้าที่” ต้องทำงานเพื่อชาติไปอีก 2-3 ปี ไม่มีใครขวางได้ ทั้งยังอธิบายว่า ตั้งแต่นี้ไปบ้านเมืองไทยจะดีขึ้น แต่คงมีแตกแยกเนื่องจากผู้เสียประโยชน์ไม่ยอม ในที่สุดบทสรุปก็คือ “ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ”

ตามประวัติเล่าว่า นายวารินทร์เป็นชาวเชียงใหม่ เกิดเมื่อ พ.ศ.2504 เคยรับราชการเป็นครูอยู่ในประชาบาล พื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังลาออกมาประกอบธุรกิจ นายวารินทร์อธิบายตนเองว่า เริ่มสนใจด้านพลังจิตมาตั้งแต่ 9 ขวบ จนเมื่ออายุ 35 ปี เขาได้ประสบการณ์ "ตายแล้วฟื้น" จากนั้นได้เริ่มพยากรณ์มาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เขาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหมอดู ไม่ได้ดูดวง แต่ดูเรื่องเวรกรรมเป็นสำคัญ และอ้างว่า เขานับถือหลวงปู่เกวาลัน แห่งยอดเขาหิมะลัย อายุกว่า 3,000 ปี เป็นอาจารย์องค์ประทับ บ้างก็ว่าเขาใช้ครุฑเป็นองค์ประทับ บางทีก็ใช้การเพ่งกระแสจิต ตรวจสอบดวงชะตา ไม่มีการประทับร่างทรง

เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงปู่เกวาลันจะเป็นเรื่องที่ยกเมฆขึ้นมาทั้งหมด ไม่มีทางหลักฐานใดมายืนยันได้ แต่กระนั้น หลังจากที่นายวารินทร์เปลี่ยนชีวิตเป็นโหร กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในโหรยอดนิยมของบุคคลสำคัญในประเทศ เขาได้ตั้งสำนักสุขิโต ที่เชียงใหม่ ซึ่งกลายเป็นแหล่งที่ทหารและนักการเมืองสำคัญมาเยือนประจำ โดยเฉพาะใน พ.ศ.2549 พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็มาพบกับนายวารินทร์ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่จะมาเป็นผู้นำก่อการรัฐประหาร เล่ากันว่า นายวารินทร์นี้เองเป็นคนดูฤกษ์ให้ พล.อ.สนธิทำการยึดอำนาจ

ต่อมา วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2551 เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี นายวารินทร์ก็ทำนายว่า บ้านเมืองจะไม่สงบ เพราะนายสมัครมาเป็นนายกรัฐมนตรีจากกระแสบุญของผู้อื่น สีเขียวจะต้องเข้ามาดูแลบ้านเมือง และอ้างว่า ได้เคยทำนายล่วงหน้าแล้วว่า พล.อ.สนธิจะมาเป็นผู้ถือธงนำชัยสู่บ้านเมือง เขาจึงสร้างพระปางพิชิตมาร โดยอาศัยพลังจากผู้ที่มีอำนาจมาสร้างคือทหาร เพราะทหารถือเป็นเสาหลักของบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเข้มแข็ง แต่ถ้าหากบ้านเมืองไม่มีผู้ที่ปกป้องแล้วก็จะพังเลย ทหารจึงเป็นเสมือนเป็นสัญลักษณ์ เอกลักษณ์ของบ้านเมือง ดังนั้น นายวารินทร์จึงทำนายชะตาของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า ดวงพุ่งขึ้นสูงจนมีโอกาสถึงขั้นได้เป็น “นายกรัฐมนตรี”คนต่อไป ในครั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ได้ตอบโต้ผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ว่า “ทำไมหมอดูคนนี้ ต้องมาเคลื่อนไหว ทำไมถึงต้องกำหนดอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมต้องออกข่าวทำพิธีต่อชะตาอย่างโน้นอย่างนี้” และในครั้งนี้เองที่ประชาชนฝ่ายนิยมนายสมัคร ได้เดินขบวนประท้วงหมอวารินทร์ที่หน้าหมู่บ้านสุขิโต พร้อมทั้งชูป้ายว่า “บ้านเมืองนี้ดูแลรักษาโดยพระสยามเทวาธิราช ไม่ใช่อำนาจหมอผี”

ต่อมา ได้มีการรวบรวมคำทำนายหลายครั้งที่ผิดพลาดของนายวารินทร์ในอดีต เช่น

ช่วงก่อนรัฐประหาร พ.ศ.2549 นายวารินทร์ทำนายว่า นายกคนใหม่ต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะชื่อ “ส.” ซึ่งส่อนัยยะว่า จะเป็น พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน แต่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ตัวจริงเป็น “ส.” คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

พ.ศ.2553 นายวารินทร์พยากรณ์ว่า จะเกิดสึนามิครั้งใหญ่ทั้งด้านอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สร้างความเสียหายแก่ประเทศไทยหนักกว่าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคำทำนายที่ขัดหลักธรณีวิทยา เพราะโอกาสจะเกิดสึนามิฝั่งอ่าวไทยเป็นไปได้ยากมาก และรายงานทางอุตินิยมวิทยาในปีนั้น ก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดสึนามิในเขตทะเลจีนใต้ ในที่สุด คำทำนายนี้ก็ผิดพลาด

ใน พ.ศ.2554 ก่อนการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม นายวารินทร์ทำนายว่า นายกฯคนต่อจากนายอภิสิทธิ์ มีอักษร ย่อ "ป." และยังไม่ถึงเวลาของนายกรัฐมนตรีหญิง และยังทำนายว่า นายวีระ สมความคิด และพวกที่ถูกขังอยู่ในคุกเขมร ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ก็จะได้กลับมาประเทศไทย ซึ่งเป็นการทำนายที่ผิดพลาดหมด

มาถึงสมัยนี้ นายวารินทร์ได้ชื่อว่า เป็นโหรประจำตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นผู้ย้ำเสมอว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอัศวินม้าขาว “ผู้กอบกู้แผ่นดิน และราชบัลลังก์" นายวารินทร์เคยอธิบายว่า พล.อ.ประยุทธ์เชื่อว่า ตนเองในชาติปางก่อน ได้เกิดมาเป็นทหารเอกพระนเรศวรมหาราช "ชาตินี้เกิดมาเป็นทหาร ก็แสดงว่าชาติก่อนก็ต้องเป็นทหาร" พล.อ.ประยุทธ์จึงให้ความเคารพนับถือสมเด็จพระนเรศวรฯ อย่างมาก และส่งผลให้หน่วยทหารบกในภาคเหนือ หันมาสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรฯ กันอีกด้วย

ข้อสรุปจากกรณีนายวารินทร์ก็คือ ในฐานะที่เป็นโหรรับใช้ทหารก็จะเสนอคำทำนายที่สร้างความชอบธรรมแก่ฝ่ายทหารเสมอ นายวารินทร์มีทัศนะที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำนายเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 ว่า เขาได้ภาพนิมิตรผ่านหลวงปู่ฤาษีเกาวาลันว่า คนในตระกูลชินวัตร หมดเวลา หมดหน้าที่ในประเทศไทยแล้ว แม้กระทั่งบริวาร คนเหล่านี้จะโดนคดี และไม่เกินกลางปีนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องหนีออกนอกประเทศแบบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย เพราะเป็นไปตามกรรมที่ก่อไว้ จึงต้องชดใช้กรรม

ด้วยทัศนะที่ต่อต้านประชาธิปไตยนี้ โหรอย่างนายวารินทร์จึงไม่เคยแสดงความเชื่อถือว่า ประชาชนจะมีบทบาทมากขึ้น และประเทศไทยจะก้าวไปสู่ประชาธิปไตยแบบนานาประเทศ คำทำนายของนายวารินทร์จึงสอดคล้องกับเงื่อนไขทางการเมืองของฝ่ายจารีตนิยมกระแสหลักเสมอ

จึงสรุปได้ว่า คำทำนายแบบโหรผู้นี้ ก็เป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระเช่นเคย และคงไร้สาระเท่ากับนายทหารที่ควบคุมประเทศในขณะนี้

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: โลกวันนี้วันสุข ฉบับ 510 วันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2558

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท