เอ็ด มิลิแบนด์ หัวหน้าพรรคแรงงาน พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ยอมรับความพ่ายแพ้และประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค หลังเลือกตั้งแพ้พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน นอกจากนี้อังกฤษยังได้ ส.ส.อายุน้อยที่สุดในรอบ 348 ปี

 

8 พ.ค. 2558 นายเอ็ด มิลิแบนด์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ยอมรับความพ่ายแพ้และประกาศลาออกจากตำแหน่งพรรคในวันนี้ หลังจากพรรคของเขาพ่ายแพ้พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ในขณะเดียวกัน พรรคอนุรักษ์นิยมก็ได้เก้าอี้มากพอที่จะครองเสียงข้างมากในรัฐสภา

 

นายมิลิแบนด์ กล่าวว่า อังกฤษต้องการพรรคแรงงานที่แข็งแกร่งและต้องการพรรคแรงงานที่สามารถสร้างตัวเองอีกครั้งหลังประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเพื่อที่ว่าจะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาลที่ต่อสู้เพื่อประชาชนคนทำงานได้อีกครั้ง และตอนนี้ถึงเวลาที่ใครสักคนจะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำพรรคแรงงานต่อไป ส่วนตัวเขาเองได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและมีผลในทันที โดยนางแฮเรียต เฮอร์แมน รองหัวหน้าพรรคจะทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่

 

ในขณะเดียวกับผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไป ปรากฏว่า พรรคอนุรักษ์นิยมได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาแน่นอนแล้ว โดยที่การนับคะแนนยังเหลืออีก 7 ที่นั่ง แต่พรรคอนุรักษ์นิยมได้ไปแล้ว 326 ที่นั่งเกินครึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา 650 ที่นั่งแล้ว ซึ่งจะเปิดทางให้พรรคอนุรักษ์นิยมได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวบริหารประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องหาพรรคเล็กมาร่วมรัฐบาลเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม

 

 

ผลการเลือกตั้งในประเทศอังกฤษแม้จะยังนับคะแนนกันอยู่ แต่เอ็กซิทโพลทั้งหลายทำนายตรงกันว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน จะมาแรงเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนเสียงชนะขาด ไม่มีคำว่าสูสีเหมือนที่โพลหลายสำนักทำนายก่อนหน้านั้น ซึ่งถ้าหากเป็นจริงตามเอ็กซิทโพลนี้นั่นหมายความว่า โอกาสที่นายเดวิด คาเมรอน จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อังกฤษสมัย 2 มีความเป็นไปได้สูงมาก

 

ชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมอีกสมัยจะส่งผลให้อังกฤษต้องเผชิญหน้ากับสหภาพยุโรปหรืออียู เนื่องจากนายคาเมรอนได้ให้สัญญาไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งว่าหากเขาได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งเขาจะจัดให้มีการลงประชามติว่าอังกฤษควรจะเป็นสมาชิกอียูต่อไปหรือไม่ โดยการลงประชามติจะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้คาเมรอนยังเคยให้สัญญาด้วยว่าจะจัดให้มีการลงประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นเอกราชของสกอตแลนด์ใหม่อีกครั้งหลังการลงประชามติครั้งแรก ปรากฏว่าชาวสกอตส่วนใหญ่ยังคงต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป

 

นายคาเมรอนกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่านี่คือคืนแห่งความแข็งแกร่งของพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาแต่ก็ต้องอดใจรอฟังผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต่อไปว่าจะออกมาตรงตามเอ็กซิทโพลหรือไม่

 

 

การเลือกตั้งอังกฤษในครั้งนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เมื่อ น.ส.มารี แบล็ค นักศึกษาสาววัยเพียง 20 ปีที่ยังคงเรียนหนังสืออยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยกลายเป็น ส.ส.สหราชอาณาจักร ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดในรอบ 348 ปี หลังเอาชนะแชมป์เก่าจากพรรคแรงงานในเขตเลือกตั้งสกอตแลนด์ไปได้อย่างขาดลอย

 

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นในเขตเลือกตั้งเพสลีย์และเขตเรนฟริวเชียร์ใต้ในสกอตแลนด์เมื่อ น.ส.มารี แบล็ค ผู้แทนจากพรรคชาตินิยมสกอตแลนด์หรือ SNP สามารถพลิกเอาชนะคู่แข่งจากพรรคแรงงานคือนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ ด้วยคะแนนสนับสนุน 23,548 ต่อ 17,864 คะแนน หรือชนะขาดถึง 6,000 คะแนน ทั้งนี้ความนิยมของชาวสกอตที่มีต่อพรรค SNP เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชของสกอตแลนด์เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว

 

สำหรับประวัติคร่าวๆ ของ ส.ส.หญิงวัย 20 ปีของอังกฤษผู้นี้ น.ส.แบล็คเกิดและโตในเขตเพสลีย์ที่เธอชนะเลือกตั้งซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในแถบตะวันตกของสกอตแลนด์เมื่อครั้งที่มีการลงประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นเอกราชของสกอตแลนด์เมื่อปีที่แล้วแน่นอนที่สุดเธอหนุนเอกราชของสกอตแลนด์อย่างเต็มตัว มารี แบล็คบอกว่าเธอเป็นผู้ที่ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับคนยากจนและคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในสังคมของสกอตแลนด์จนจุดประกายให้เธออยากเข้าสู่วงการเมืองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวสกอตและวันนี้เธอก็ทำมันได้สำเร็จแล้ว