Skip to main content
sharethis
รายการคืนความสุข 'ประยุทธ์' หวังผลการประชุมช่วยแก้ไขปัญหารการอพยพของชาวโรฮิงญา พร้อมให้ กห.จัดตั้งฐานปฏิบัติการทางน้ำเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ระบุรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องรักษาสมดุลอำนาจ 3 ฝ่าย ไม่ก่อให้เกิคความขัดแย้ง พร้อมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์
 
 
29 พ.ค. 2558 เว็บไซต์ Thai PBS รายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวใน "รายการคืนความสุขให้คนในชาติ" ประจำวันที่ 29 พ.ค.2558 โดยมีเนื้อหาว่า รัฐบาลยังคงเร่งแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา และหวังว่าผลของการประชุมจะช่วยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ซึ่งจะชี้แจงผลการประชุมในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ได้สั่งตั้งฐานปฏิบัติการทางน้ำเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพแล้ว พร้อมระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องรักษาสมดุลอำนาจ 3 ฝ่าย และไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต พร้อมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์
 
ในวันที่ 1 มิถุนายนที่กำลังจะมาถึงเป็น “วันวิสาขบูชา” ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนา เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน โดยองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศรับรองให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก จึงนับว่ามีความสำคัญกับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทั้งนี้ถือเป็นอันโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมกิจกรรมสืบทอดพระพุทธศาสนา น้อมรำลึกถึงพระพุทธองค์ และนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน  ร่วมประดับธงชาติและธงธรรมจักร เพื่อแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เข้าวัด ทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข ทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา และน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ โดยพร้อมเพรียงกันนะครับ รัฐบาลจะร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด คณะสงฆ์ และองค์กรเครือข่ายชุมชนคุณธรรม “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน ได้เตรียมการจัดกิจกรรมทางศาสนาทั้งในส่วนกลาง ณ ท้องสนามหลวง และส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด ทั่วประเทศเพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วไปได้ร่วมงานนะครับนอกจากจะเสริมสร้างสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมมะอีกด้วยครับ
 
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานหลายงานนะครับ ทำให้มีโอกาสได้พบปะ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และรับฟังปัญหาจากตัวแทนภาคประชาชนในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มตัวแทนหอการค้าจากทั่วประเทศ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่ผมได้พบส่วนใหญ่นั้นให้ความสนใจ เข้าใจ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในส่วนของการวางรากฐาน ในการพัฒนาประเทศในระยะต่อไปเพื่ออนาคตของเขาเองนะครับ ผมก็ได้ขอบคุณขอให้ทุกคนช่วยกันกลับไปสื่อสารและสานทำความเข้าใจ และช่วยสานต่อสิ่งที่ผมได้พูด ได้ทำไปแล้วในขณะนี้ซึ่งบางอย่างนั้นอาจจะยังไม่เสร็จเรียบร้อยนะครับ บางอย่างก็เสร็จไปแล้วบางอย่างกำลังเตรียมการจะกระทำอยู่ ถ้าเข้าใจกันวันนี้ ก็เดินหน้าไปได้ด้วยดีนะครับลดความขัดแย้ง นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนั้น ตอนนี้ออกไปมากมาย นะครับ ก็ผมอยากให้ไปถึงชุมชนและถึงคนทุกระดับ ทุกพื้นที่นะครับ ได้ทำความเข้าใจ เพราะเราจำเป็นต้องเดินหน้าไปด้วยกันนะครับ ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจแล้วก็พื้นฐาน ตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานไว้แล้วว่า ทุกอย่างจะพัฒนาไปได้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็คือ เราต้องมีความรู้และคุณธรรมนะครับ 


ย้ำรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาความแตกแยก-ขอทุกฝ่ายร่วมปฏิรูปประเทศ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังกังวลอยู่ก็คือเรื่องการเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยนะครับ ผมก็ได้พูดไปหลายครั้งแล้ว วันนี้ก็อยากเอาส่วนหนึ่งของการบรรยายพิเศษของศาสตราจารย์ มิเชล โทเปอร์ จากมหาวิทยาลัยปารีสที่ 10 ของฝรั่งเศสที่ได้มาบรรยายที่บ้านเราและให้ข้อคิดที่ว่า การรัฐประหารนั้นก็อาจไม่ใช่การทำลายประชาธิปไตยเสมอไป เพราะบางครั้งการรัฐประหารในหลายประเทศ ก็เป็นการทำเพื่อเตรียมไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในอนาคตนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่า ดี หรือ ไม่ดีนะครับเข้าใจผมด้วย เพราะหลายประเทศก็ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาเกือบทั้งสิ้นนะครับ อยากให้คนไทยทุกคนตระหนักว่าที่ผ่านมา 10 กว่าปีนั้น ประเทศไทยมีปัญหามาโดยตลอด ประชาชนแตกแยก ไม่มีความสุข รัฐบาลทุกรัฐบาลพร้อมที่จะใช้กำลังเพื่อจะให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ยุติทั้งด้วยกฎหมาย ด้วยการคลี่คลายสถานการณ์นะครับ แต่มันก็ไม่ยุติ ประเทศไทยของเรานั้นต้องหยุดอยู่กับที่มาเป็นเวลานาน เพื่อนบ้านรอบบ้านต่างเร่งเดินหน้าพัฒนาประเทศกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในเร็ววันนี้นะครับ ปลายปีนี้ ถ้าปล่อยไว้โดยเราไม่ทำอะไรเลย ประเทศก็พังพินาศ เสียหายนะครับ ลูกหลานเราก็ไม่มีอนาคต สำหรับผู้ที่ถูกเลือกเข้ามาในการบริหารประเทศนั้น ก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้นะครับ อย่าให้คนไทยต้องหันมาต่อสู้ทำร้ายกันเองอีก สังคมแตกแยกขาดความเป็นระเบียบ กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ด้อยโอกาสถูกเอารัดเอาเปรียบ มีความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม ประเทศชาติอ่อนแอ

รัฐบาลนี้เข้ามาตอนที่ประเทศไทยเป็นแบบนั้นจริงๆนะครับ กำลังจะไปไม่รอดอยู่แล้ว เมื่อเข้ามาแล้วนี่ผมต้องการให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิมๆ นะครับ แล้วก็เดินหน้าต่อเรามีศักยภาพอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ใช้ศักยภาพเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่นะครับ ผมต้องการให้คนไทยมีศักดิ์ศรี มีอนาคต ผมไม่เคยคิดว่าทุกอย่างจะง่าย แต่ก็เชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมมือกัน มองข้ามผลประโยชน์ส่วนตัว แล้วก็ยอมรับว่าประเทศชาติเราต้องปฏิรูปนะครับ หันมามองผลประโยชน์ส่วนรวม ลดอัตตาตัวเองลงไป ผมคิดว่าเราทำได้ครับทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนทุกคน การที่ คสช. และรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศครั้งนี้เราน่าจะสามารถวางรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศไทยของเราเพื่อเตรียมไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ในอนาคตนะครับ จะได้หรือไม่ได้อยู่ที่พวกเราทุกคนนะครับ แล้วผมอยากจะกราบเรียนว่าคงไม่ใช่เฉพาะพวกเราการวางอนาคตเหล่านั้นเป็นการวางอนาคตให้กับคนรุ่นหลังของเราลูกหลาน ผมอยากจะใช้คำว่าคนไทยที่ยังไม่ได้เกิดมาก็มีอีกเยอะแยะนะครับ วันหน้าก็มีเกิดมาเพิ่มเติมเราต้องวางพื้นฐานให้เขาตรงนั้นด้วย ไม่ใช่วันนี้เราใช้ทุกอย่างสิ้นเปลือง ทรัพยากรก็หมดไปนะครับ ความเข้มแข็งก็ไม่มี วันหน้าประเทศไทยจะอยู่ตรงไหนครับ แล้วเขาเกิดมาต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างไร คิดอย่างนั้นนะครับ ทุกคนที่จะเข้ามาสู่การเมือง หรือคนที่จะเป็นข้าราชการคงต้องคิดแบบที่ผมคิดนี่ ถึงจะแก้ปัญหาสำเร็จนะครับ 

ปัญหาที่สะสมมายาวนานก็ต้องช่วยกันแก้นะครับ อย่าโยนภาระให้กับรัฐบาล ให้ คสช. ใช้อำนาจอย่างเดียวมันไปไม่สำเร็จหรอกครับ วันหน้าก็เกิดขึ้นมาใหม่ อยู่ที่การร่วมแรงร่วมใจของทุกคนนะครับ ความสมัครใจ การที่จะปรองดองกันนะครับ เรื่องกฎหมายก็คือกฎหมาย คนละเรื่องกันนะครับ ปรองดองก็คือปรองดองกันให้ได้ก่อน แล้วจะต้องไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีกนะครับ ในสถานการณ์ต่อจากนี้ไป

เร่งแก้โรฮิงญา พร้อมช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม

เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ด้วยความเร่งด่วนนะครับ ก็เรื่องชาวโรฮิงญานะครับ รัฐบาลไทยได้มีความชัดเจนในการกำหนดความช่วยเหลือชาวโรฮนจาตามหลักมนุษยธรรมนะครับ ประเทศไทย คนไทยไม่เคยแล้งน้ำใจนะครับ เราได้ให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มิตรประเทศมาโดยตลอด ปัจจุบันก็ยังทำอยู่นะครับตามแนวชายแดน และรวมทั้งเหตุการณ์ซึนามิในญี่ปุ่น อุทกภัยในประเทศอินเดีย หรือล่าสุดประเทศที่เนปาล เราก็เป็นประเทศแรก ๆ นะครับ ที่เข้าไปช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็พร้อมและยินดีที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือมิตรของเราในยามลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มนุษย์นะครับ คุณค่าความเป็นมนุษย์นะครับ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ เราก็ช่วงตามขีดความสามารถของเรา สำหรับปัญหาชาวโรฮิงญาก็เช่นกัน ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของทุกประเทศองค์กรระหว่างประเทศต้องช่วยกันในการดูแลมนุษยชาติ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่จำเป็นต้องกำหนดหลักการช่วยเหลือให้ชัดเจน ทั้งในเรื่องของการดูแลรักษาพยาบาล น้ำ อาหาร และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ปลอดภัยนะครับ ไปประเทศปลายทางตามความสมัครใจนะครับ ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นเพียง “ทางผ่าน” ไม่ใช่ประเทศเป้าหมายของชาวโรฮิงญา

ผมได้สั่งการให้ กระทรวงกลาโหม จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้กับผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย” มีหน้าที่ในการลาดตระเวน ทั้งทางบก – ทะเล ทางอากาศ โดยความร่วมมือทั้งทหารเรือ ทหารอากาศ โดยทหารอากาศเป็นผู้ควบคุม  ได้มีการจัดตั้งฐานปฏิบัติการลอยน้ำ เพื่อให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้แก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติด้วยนะครับ ตามหลักสากลก็ขึ้นอยู่กับกองทัพเรือนะครับ และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

หวังประชุมแก้ปัญหาโรฮิงญาช่วยแก้ปัญหาได้

วันนี้กระทรวงการต่างประเทศก็ได้จัดการประชุมว่าด้วย “การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย” เพื่อเป็นเวทีให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องนะครับ ได้หารืออย่างสร้างสรรค์เพื่อแสวงหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมและให้เกิดความยั่งยืนนะครับ ก็มี 16 ประเทศเข้าร่วม อาทิเช่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และบังกลาเทศ รวมทั้งประเทศผู้สังเกตการณ์ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และ สหรัฐฯ และผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เป้าหมายหลักของการประชุมครั้งนี้ ก็เร่งผลักดันในประเด็นที่ต้องร่วมกันแก้ไข ทั้งประเทศต้นทาง กลางทาง และปลายทางนะครับ ใช้หลักการร่วมแบ่งปันระหว่างประเทศ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับประเทศต้นทางและกับประเทศปลายทาง รวมทั้งประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ด้วย

สำหรับผลการประชุมกระทรวงต่างประเทศนั้น ผมจะเสนอให้ทราบในโอกาสต่อไปครับ ผมคิดว่าคงได้คำตอบในทุกประเด็นนะครับ ต้องการให้เกิดการปฏิบัติให้ได้ หลังจากการประชุมไปแล้ว ระยะกลางจะทำยังไง ระยะยาวจะทำยังไงนะครับ ระยะแรกต้องร่วมมือกันตรงไหน งบประมาณใช้จากที่ไหนนะครับ แล้วใครจะเป็นผู้อำนวยการปฏิบัติ หรือแต่ละปฏิบัติ จะแยกกันเอง ก็ต้องไปหาคำตอบกันในที่ประชุมนะครับ ผมได้สั่งการลงรายละเอียดไปแล้วนะครับ ก็ขึ้นอยู่กับในที่ประชุมจะมีมติว่าอย่างไรนะครับ เราไปบังคับใครมากก็ไม่ได้อยู่แล้วนะครับ เป็นสิทธิของแต่ละประเทศ แล้วเราเป็นอาเซียนด้วยกัน ก็ไม่อยากให้เสนอข่าวเรืองต่างๆที่เป็นความขัดแย้ง จะทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในอาเซียนนั้นที่กำลังดีอยู่ ที่กำลังเข้มแข็งอยู่นั้นต้องเสียหายไปนะครับ ปัญหามีทุกประเทศนั่นแหละ ถ้าเราร่วมมือกันทำ ร่วมมือกันแก้ ก็ได้นะครับ แล้วก็ไม่ไปโทษกันไปกันมานะครับ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรืองของมนุษย์นะครับ ชีวิตทุกคนมีค่าทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ศาสนาใดก็ตามนะครับเขามีสิทธิในการดำรงชีวิตอยู่ทั้งสิ้นนะครับ

ในเรื่อง IUU นั้นรัฐบาลได้ดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย” ศปมผ. ซึ่งเป็นศูนย์เฉพาะกิจขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้นหน่วยงานต่างๆ ของรัฐได้เร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหา ได้กำหนดให้ศูนย์อำนวยการการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศรชล. นะครับ เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน กรมประมง และกรมเจ้าท่า ในการจัดทำแผนการตรวจตราการประมงระดับชาติ (National Inspection Plan) สำหรับการดำเนินงานวางระบบในการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการประมงภายในประเทศ ปัจจุบันมีการออก พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2558 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ IUU นะครับ ที่เข้ามาเพื่อจะมาดูการปฏิบัติของเราในช่วงเร็วๆนี้นะครับ เราจำเป็นที่จะต้องทำให้สามารถดำเนินการกับการจัดการทรัพยากรประมง ให้ได้ รวมทั้งจะต้องมีการเร่งพิจารณากฎหมายลูกอีกไม่น้อยกว่า 17 ฉบับนะครับ สำหรับการปรับปรุงภายนอกประเทศ คือ ต้องมีการจัดทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศในการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และเป็นไปตามหลักวิชาการด้านการประมงนะครับ

ขอบคุณอินโดฯช่วยลูกเรือประมงไทย

สำหรับเรื่องแรงงานประมงนั้น เราไม่ได้นิ่งนอนใจเลยนะครับ การช่วยเหลือเพื่อส่งตัวลูกเรือประมงไทยที่ตกค้างอยู่ที่เกาะอำบน และเกาะอื่น ๆ ด้วย ในอินโดนีเซียตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 - 25 พฤษภาคม 2558 กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา และกรมการกงสุล ได้ดำเนินการส่งตัวลูกเรือประมงกลับไทยแล้ว ทั้งสิ้น 618 คน ล่าสุดเป็นลูกเรือจากเกาะ เบนจินาจำนวน 29 คน ที่ได้เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ตามด้วยลูกเรือจากเกาะเบนจินา 29 คน เกาะตาเร็มปา 5 คน และเกาะอำบนอีก 5 คน ในวันที่ 26 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนั้น มีลูกเรือจากเกาะอำบนที่ได้ดำเนินการออกหนังสือรับรองสัญชาติ (Certificate of Identity – C.I.) และอยู่ระหว่างการรอส่งกลับอีก 80 คน และจากเกาะเบนจินาอีก 327 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างรอการสอบสวน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานฝ่ายอินโดนีเซียขอให้ลดขั้นตอนการพิจารณาเพื่อที่จะส่งลูกเรือเหล่านี้กลับได้ในโอกาสแรกนะครับ

รัฐบาลขอขอบคุณรัฐบาลอินโดนีเซียและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนนะครับ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ได้พยายามร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ถูกมองข้ามมาเป็นเวลายาวนานเหล่านี้ด้วยนะครับ ก็ต้องคัดแยกให้ดี ว่าอันไหนเป็นเหยื่อ อันไหนเป็นค้ามนุษย์นะครับ อันไหนเกี่ยวข้องกระบวนการและอันไหนเป็นสัญชาติของไทยก็ต้องพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อย แล้วก็ส่งกลับไปนะครับ มาตรการทั้งกฎหมาย และวิธีการปฏิบัติ และมาตรการในการดูแลเหยื่อนะครับทั้งหมดจะต้องครบถ้าวน ตามข้อบังคับ หรือกติกาของประชาคมโลกนะครับ   ผมเชื่อว่าประเทศไทยนั้น มีคนดีมากกว่าคนไม่ดี เราทุกคนก็ต้องช่วยกันทำให้ทุกคนเป็นคนดี ลงโทษคนไม่ดีอย่างเป็นธรรมด้วยกระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลานเราเห็น ประเทศเราจะได้ก้าวหน้าพัฒนาต่อไป ลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ ประชาชน ในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายนะครับ

ส่งออกขยายตัวเล็กน้อย

เรื่องเศรษฐกิจ ในเรื่องเศรษฐกิจของประเทศนั้น ทุกคนก็ทราบกันอยู่แล้วว่าประเทศไทยยังคงพึ่งพาการหารายได้จากภาคการส่งออกอยู่มากนะครับ ซึ่งการส่งออกของบ้านเรานั้น ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญนะครับ  โดยเฉพาะในตลาดสหภาพยุโรปและเอเชีย เช่น จีน ที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว  อย่างไรก็ตาม  ผมได้รับรายงานสถานการณ์การส่งออกล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์นะครับ ว่าการส่งออกของไทยเริ่มมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น โดยในเดือน เมษายน 2558  มูลค่าการส่งออกหากไม่นับรวมในส่วนของน้ำมันและทองคำ พบว่า มีการขยายตัว เป็นบวกที่ร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว   

ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น  สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ได้เปิดเผยถึงผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสถาบัน IMD ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  โดยในปี 2558 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 30 จากจำนวน 61 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ลดลง 1 อันดับ จากปี 2557 เนื่องจากผลการประเมินด้าน “สมรรถนะทางเศรษฐกิจ” ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งมีการพิจารณาจากการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งเศรษฐกิจของไทยยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอยู่นะครับ เราต้องสร้างความเข้มแข็ง สร้างนวัตกรรม แล้วก็ดูแลธุรกิจ SMEs ให้ได้นะครับ SMEs ที่อยู่ในภาคการส่งออก อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในด้านอื่นๆ อาทิ การประเมินในด้าน “ประสิทธิภาพของภาครัฐ” มีการปรับตัวดีขึ้น ทั้งด้านการเงินภาครัฐ  จากอันดับที่ 19 ในปี 2557 เป็นอันดับที่ 14 ในปัจจุบันนะครับ ด้านกรอบการบริหารภาครัฐ จาก อันดับที่ 39 เป็นอันดับที่ 34 และกรอบดำเนินการด้านสังคม จากอันดับที่ 55 เป็นอันดับที่ 45 รวมไปถึง การประเมินด้าน “โครงสร้างพื้นฐาน” ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากอันดับที่ 48 เป็นอันดับที่ 46 คิดว่าน่าจะดีขึ้นต่อไปนะครับ เพราะว่าเราก็มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกมากพอสมควรนะครับ แต่เป็นระยะยาวนะครับ 

ภาครัฐจะพยายามอย่างเต็มที่นะครับ ในการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ   ทั้งในเรื่องของโลจิสติกส์ การขนส่งคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค  การเปิดตลาดใหม่หาช่องทางการจัดจำหน่าย ขับเคลื่อนประเทศในด้านต่างๆ เหล่านี้จะต้องดำเนินไปควบคู่กันกับการพัฒนาของผู้ประกอบการในประเทศด้วย ผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับในเรื่องของคุณภาพสินค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ  ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการปฏิบัตตามนโยบายในเรื่องของการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย  SME นะครับ เช่นพี่จูงน้อง เพื่อนจูงพื่อน อะไรก็แล้วแต่ ดูแลผู้ค้ารายย่อย ดูแลเกษตรกรภาคการผลิตนำไปสู่กระบวนการเพื่อจะแปรรูป และนำขายเพื่อให้ราคาสูงขึ้นนะครับ ต้องเอาประชาชน เอาเกษตรกรมาอยู่ในห่วงโซ่ตัวนี้ด้วย เพราะจะทำให้เกิดกระบวนการต่างๆ ขึ้นมาแล้วก็จะดูแลซึ่งกันและกัน จะได้ไม่ไปพึงธุรกิจสีเทานะครับ ค้าขายผิดกฎหมายหรือที่ทำในเรื่องไม่ถูกต้อง ขายของผิดที่ หรือกิจการใดๆ ที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ที่ผ่านมาเหล่านี้ทำให้เกิดเงินเป็นจำนวนมาก ในระดับล่างนะครับ ที่ประชาชนมีการใช้จ่ายวันนี้ เมื่อตรงนี้หายไป เงินตรงนี้หายไปนะครับ เป็นจำนวนมากพอสมควร คนเดือดร้อนแน่นอน คนที่เคยใช้จากตรงนี้ ที่เป็นห่วงโซ่ แล้วเราจะยอมให้ห่วงโซ่เหล่านี้ เกิดขึ้นต่อไปหรือไม่ มันทำให้เกิดความเป็นธรรมหรือไม่ กับการที่ทำผิดกฎหมายแล้วคนกลุ่มหนึ่งได้ผลประโยชน์ แต่ที่เหลือไม่ได้ เกิดความขัดแย้งนะครับ แล้วก็ทำให้เสื่อมเสียต่อประเทศโดยรวมนะครับ ชื่อเสียงประเทศก็เสียหาย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ไม่มี คนมาเที่ยว ท่องเที่ยว ก็ไม่เกิด ไม่ชื่นชม วันนี้การท่องเที่ยวมากเหลือเกินนะครับ คาดว่าน่าจะเกิด 2.3 ล้านคนในปีนี้นะครับ จากการที่รัฐบาลได้ปรับนโยบายเรื่อการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวหลายๆคลัสเตอร์ นะครับ แล้วก็มีการเชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วย แล้วมีการจัดการท่องเที่ยวทั้งปี มีหลายๆ เซ็กเตอร์ด้วยกัน วันนี้เราจะต้องพัฒนาทุกอย่างให้เกิดเป็นกระบวนการให้ได้นะครับ ทุกอย่างที่มีการผลิตนั้นจะต้องรองรับทั้ง ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในการผลิต  และ ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ   หากทุกฝ่ายร่วมมือกันเช่นนี้แล้ว ผมว่า เศรษฐกิจของไทยจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนะครับ  ก็อย่าไปฟังบางคนออกมาพูดโน่นพูดนี่ ทุกวันไปนะครับ ทั้งๆที่ก็เคยเป็นรัฐบาลมาแล้วแต่วันนี้ไม่เข้าใจอีกนะครับ ก็แสดงว่าความรู้พื้นฐานไม่มีนะ ก็มาตำหนิติเตียนเรื่องโน้นเรื่องนี้ มาโทษรัฐบาลนี้นะครับ ความเข้มแข็ง มันไม่เกิด มันไม่มี มันไม่สร้างห่วงโซ่กันไว้ ช่องว่างคนรวยคนจนก็ห่างกันมาก คนจนก็ยิ่งจนลง คนรวยก็รวยขึ้นไป การทุจริตผิดกฎหมายก็มี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องแก้ไขทั้งหมดนะครับ แล้วเราในระหว่างนี้ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ คือเศรษฐกิจอาจจะ เงินหมุนเวียนหายไป มันขาดไป รัฐบาลก็ไม่สามารถจะเอาเงินไปให้ได้ นอกจากสร้างความเข้มแข็งแล้วทุกคนก็เข้ามาอยู่ในห่วงโซ่ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน คนรวยช่วยคนจนนะครับ ก็จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ อย่ามัวแต่ตำหนิติติง 

ท่านทุกคนต้องรักชาตินะครับ รักประเทศ วิธีการในการแก้ปัญหาเราก็ฟังจากทุกที่ ทุกพวกทุกฝ่ายนะครับ ทั้งนักเศรษฐศาสตร์ด้วย ทั้งจากประชาชน ทั้งจากนักวิชาการ ผมคิดว่าเราทำหมดแล้วนะครับ ปัญหาก็คือเราควบคุมปัจจัยภายนอกไม่ได้ แล้วก็ปัจจัยภายในของเราก็ยังไม่พร้อมเพียงพอต้องใช้เวลาอีก ระยะหนึ่งนะครับในการลดต้อนทุนการผลิตถ้าราคาสินค้านี่ มันสูงขึ้นสูงขึ้น ไปเรื่อยๆ มันก็ โอเค ไม่เป็นไร ค่าแรงก็สูงตามไปให้ได้ แต่ถ้าราคาสินค้าลดลงไปเรื่อยๆ แล้วค่าแรงยังสูงอยู่ หรือจะสูงต่อไปอีกมันจะทำยังไง มันก็ยิ่งขายไม่ได้กว่าเดิมใช่ไหมครับ ต้นทุนผลิตแล้วมันแพงกว่าปกติ แพงกว่าเพื่อนบ้าน 2 อย่าง บวกเข้าไป ต้นทุนการผลิตแพงนะครับ ปลูกข้าวก็แพง สองก็คืออะไร สองก็ต้องไปบวกกับค่าแรง ถ้าสมมติเป็นใช้แรงงาน โรงงานต่างๆ ค่าแรงก็บวกเข้าไปอีก ต้นทุนก็แพง ค่าแรงก็แพง ราคาขายก็ตก แล้วจะทำยังไง นี่มันต้องมามองทั้งระบบนะครับ อย่าไปมองทางใดทางหนึ่ง แล้วก็แก้ปัญหาผิดวิธีมาตลอดนะครับ บิดเบือนราคา บิดเบือนระบบการเงินการคลัง ของประเทศไม่ได้นะครับ อย่ามองข้ามความสำคัญ ของความคิดเห็นอื่นๆ ของโลก เช่น GNH index หรือดัชนีความสุขอันนี้ก็เป็นตัวกำหนดเหมือนกันนะครับ  ว่าในโลกนี้ ความสุขจะอยู่ที่ไหนกัน ประเทศไหนมีความสุขมากความสุขน้อย ประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีควาสุขมากนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีสตางค์มากนัก เรายังยากจนอยู่นะ เราต้องอยู่ด้วยความพอเพียงนะครับ ลูกหลานก็อย่ารบกวนพ่อแม่มากนัก ต้องมีสติของตัวเองว่า เอ๊ะ เรามีแค่นี้นะ พ่อแม่เราลำบาก พ่อแม่เราเป็นเกษตรกร พ่อแม่เรามีรายได้จากรับจ้าง เราก็อย่าไปใช้ของแพงนะ พ่อแม่ให้เราเรียนหนังสือ อันนี้ถือว่าเป็นทรัพย์สมบัติที่ให้กับเราแล้วนะครับ เป็นมรดกของพ่อแม่เราแล้ว อย่าไปหัวว่าเออจะต้องรอได้รับเงินโน่น เงินนี่ พ่อแม่จะต้องมีของยกให้นะ วันหน้าต่อไป ทุกคนก็เลยไปขวนขวายหาเงินหาทองกันหมด เพื่อจะดูแลลูกหลานนะครับ เราต้องย้อนกลับไปดูสมัยที่ผ่านมานี่ เราทุกคนนี่ ผู้ใหญ่วันนี้ ก็ลำบากมาทั้งสิ้นนะครับ กว่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กว่าจะร่ำรวยขนาดนี้ก็เสี่ยงหลายๆ อย่างมา มีมาตรการต่างๆที่จะ ปรับตัวให้ตามกระแสโลกมา ก็มีความเสี่ยงที่จะล้มละลาย มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเยอะแยะไป แต่วันนี้เมื่อสำเร็จแล้ว เราก็ต้องดูแลคนข้างหลังนะครับ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หลักการของผมคือ ประชานทุกคนมีสิทธิ มีเสียงในประเทศไทยนะครับ แต่ต้องหาช่องทางที่ถูกต้องนะครับ ว่าจะพูดกันยังไง    

ในเรื่องของพลังงานไฟฟ้า นี่เป็นประเด็นสำคัญนะครับ เป็นประเด็นของพลังงานที่เรากำลังมีปัญหาอยู่ขณะนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทยตอนนี้ก็ยังสร้างไม่ได้นะครับ มีความขัดแย้งมาก แต่ผมอยากจะเรียนว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินนั้นเป็นโรงไฟฟ้าที่ถูกที่สุดนะครับในการลงทุน ในเรื่องของวัสดุที่จะใช้นะครับคือถ่านหินเพียงแต่ว่าเราต้องหาเทคโนโลยีโรงงานที่ทันสมัย ที่ขจัดสิ่งที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมนะครับแล้วก็ดูแล เยียวยาประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ทำให้ดิน ให้น้ำเสียหายนะครับ การปลูกพืช การอุปโภค บริโภค อะไรก็แล้วแต่ วันนี้เขาทำได้แล้ว เทคโนโลยีสมัยปัจจุบัน ผมอยากให้ดูตัวอย่างวันก่อนผมเห็นในทีวีช่องหนึ่งนะ เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศลาว เพิ่งสร้างเสร็จนะครับ แล้วก็คนไทยด้วยซ้ำไป ไปสร้างนะ ก็เริ่มมีการผลิตแล้วนะครับ แล้วก็ตามข้อตกลง เขาต้องขายพลังงานไฟฟ้าส่วนนี้กลับมาประเทศไทยได้อีก นี้ไงครับ เราก็จำเป็นต้องซื้อเขา เพราะว่าแหล่งผลิตในประเทศไทย ลดลงๆ ไปเรื่อยๆ พลังงานหมุนเวียน พลังงานทดแทน มันก็ยังไม่ทันการนะครับ มันต้องตามต่อไปด้วยอะไร ด้วยสายส่งเข้าไปอีกนะ การบำรุงสายส่งนี่เป็นหมื่นๆ ล้านนะครับ เป็นแสนล้าน ในการที่จะเดินสายส่งแต่ละเส้น แต่ละช่วงไปนี่ มันไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้ที่มีสายส่งวันนี้ กี่สิบปีมาแล้วล่ะนะ ก็ได้แค่นี้ ก็ยังไปไม่ทั่วถึง เพราะทุกคนหวังจะขายเข้าระบบสายส่งยังเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดนะครับ

แล้วก็การผลิตแบ็ตเตอรี่อะไรต่างๆ ในเรื่องของการเก็บพลังงานไฟฟ้าทดแทน เราก็ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอนะ ครับ ต้องซื้อทั้งหมด ต้นทุนการผลิตก็แพง ก็สูง การขจัดวัสดุที่ใช้แล้วจากแผงโซล่าเซล ที่หมดอายุแล้ว อะไรเหล่านี้ เป็นขยะทางอิเล็กทรอนิกส์นะครับ มันมีอันตราย วันนี้ก็รัฐบาลก็ออกกฎหมาย ออก พ.ร.บ. ไปว่าใครที่จะมาลงทุนกับเราก็ต้องมีแผนในเรื่องของการกำจัดขยะเหล่านี้ให้เราด้วยนะครับ ก็จะเป็นให้มีสิทธิประโยชน์อะไรต่างๆ ในการทำ BOI อะไรก็แล้วแต่นะครับ วันนี้ถ้าเรายังคิดไม่ตรงกันอยู่ คือคิดแต่เพียงว่า เราต้องรักษาทุกอย่างให้เหมือนเดิม ประชาชนทุกคนก็มีส่วนที่จะต้องกำหนดการใช้จ่ายทรัพยากรทั้งหมด แต่อย่าลืมว่าเราต้องดูแลประเทศชาติกันด้วยนะครับ ถ้ามันไม่ได้ ดูซิจะไปทำได้ที่ไหน ถ้าทุกที่ปฏิเสธกันหมดมันทำไม่ได้ ผลิตไม่ได้ ก็ไม่มีไฟฟ้าใช้นะครับ ซื้อใครก็ไม่อยากให้ซื้อ ก็ซื้อไม่ได้อีก แล้ววันหน้าถ้าความมั่นคง ด้านความมั่นคงมีปัญหากัน เขาไม่ส่ง เขาไม่ส่งแก๊ส ไม่ส่งไฟฟ้า จะทำยังไง ช่วยผมคิดหน่อยนะ การคัดค้านอะไรผมไม่ว่าหรอก เพียงแต่ว่าต้องฟังเหตุฟังผลหน่อย ถ้าเราเข้มแข็งเพียงพอแล้ว เราผลิตทุกอย่างได้เองแล้ว ผมคิดว่าเราค่อยเป็นเสียงที่ดังพอ ที่คนอื่นเขาฟังเรานะ วันนี้เขาไม่ฟังล่ะ นะเพราะเรายังไม่เข้มแข็งพอ แล้วเราก็ยังมีความขัดแย้งสูงนะครับ ในสังคมไทยในปัจจุบันนะครับ ลดลงมาบ้างแต่ก็ยังไม่ทั้งหมดหรอกนะครับ

เพราะฉะนั้นปัจจัยสำคัญของประเทศก็คือพลังงานไฟฟ้านะครับ จะมาจากไหน ก็ไปคุยกันต่อไปแล้วกันนะ ใช้ในการอุปโภคบริโภคแล้วก็เกิดการผลิต การอุตสาหกรรมต่อเนื่องนะครับ ไม่ใช่ไฟฟ้า แล้วไปใช้ ไม่ใช่ มันก็ต้องไปต่อโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจ SMEs อะไรก็แล้วแต่ วันนี้เราใช้น้ำมันกับแก๊สนะครับ ผลิตไฟฟ้าถึง 70% ถ้าเรายังไม่ลดตรงนี้ไปโดยไม่ใช้วัสดุอื่นๆ มาเป็นต้นทุนนะครับ ในการที่จะเกิดพลังงานขึ้นมานี่ เช่นถ่านหินหรืออะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ก็ถ่านหิน ราคาถูกที่สุดนะ เพราะงั้นวันหน้าต้องซื้อเขา แล้ววันหน้า หรือยังต้องใช้ แก๊ส น้ำมัน พอราคามันขึ้นไปอีก ค่าไฟฟ้าก็ขึ้นแน่นอนนะครับ ท่านเรียกร้องใครไม่ได้แล้ว ผมพูดด้วยเหตุด้วยผลให้ท่านฟังนะ อยากให้ประชาชนช่วยคือ หาจุดสมดุลนะครับ แล้วก็เชื่อมั่นในเทคโนโลยี และรัฐบาลจะทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดนะครับ หลายประเทศในโลกเกือบทุกประเทศนะครับก็ยังมีใช้อยู่ทั้งหมด เพียงแต่ว่าของเก่าเขาเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีใหม่ เครื่องจักรใหม่ ก็ดีขึ้นนะครับ 

ใช้มาตรา 44 หนุนปฏิรูป 

เรื่องการปฏิรูปประเทศนั้นผมอยากจะเรียนว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนะครับ หลายท่านมีความตั้งใจที่ดีมีเจตนารมณ์ที่ดีนะครับ อยากจะทำโน่นทำนี่ให้เสร็จในเวลาอันสั้นนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่ผมยังอยู่นี่ แล้วก็ใช้อำนาจผมที่มีอำนาจตามมาตรา 44 ในวันนี้ จริงๆแล้วผมอยากจะเรียนว่ามันมีหลายกิจกรรมนะครับ ในแต่ละเรื่องในการปฏิรูปมันมีหลายเรื่องด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญต้องนึกถึงว่าในการบริหาราชการแผ่นดินในปัจจุบัน การปฏิบัติงานในปัจจุบัน ประสิทธิภาพในปัจจุบัน แล้วเรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์ นี่ จะทำยังไงที่จะต้องแก้ปัญหาที่ผมพูดมาทั้งหมดเมื่อกี้นี้ ผมต้องใช้คนเหล่านี้ทำก่อน ทำให้มีประสิทธิภาพนะครับ กรุ๊ปปิ้ง  ใช้บูรณาการ ใช้มาตรา 44 ทั้งหมดเพื่อให้เกิดงาน ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว อย่างที่ท่านต้องการ ในการปรับโครงสร้างทั้งหมด ถ้าท่านรื้อทั้งหมดที่เดียวนี่ มันก็ทำงานไม่ได้ ในขณะนี้นะครับ ผมคิดว่าการที่จะรื้อใหญ่ๆ ไว้ตรงโน้น แต่ท่านก็ต้องจัดระเบียบเสียตั้งแต่ตรงนี้ ว่าท่านจะทำอะไรตรงไหน การปฏิรูปนี่มี 3 ระยะด้วยกัน ผมเคยบอกไว้แล้วนะครับ  ระยะ 1 , 2 , 3 ของ คสช. หรือของรัฐบาล 1 , 2 นี่คือของ คสช. กับรัฐบาล พอ 3 ของผมนี่ จะส่งไปโน่น ไปรัฐบาลใหม่ ก็จะเขียนไป 1-2-3 นะครับ 1 นั้นก็อาจจะ 4 ปี 5 ปี อะไรก็แล้วแต่  5 5 5 นั่นแหละ ระยะ 1-2-3 เขาไปทางโน้น

เพราะงั้น เรื่องของโครงสร้างอะไรต่าง ๆ นี่ ถ้าผมทำได้ ผมก็จะทำ ในเรื่องของอะไรล่ะ เช่นตำรวจ ก็ต้องแยกมา เรื่องการสอบสวนจะทำยังไง ทดลองดูก่อนไหมตรงนี้ ทำได้ไหม? ว่าจะอยู่ตรงไหนกันบ้าง มาจากไหน ใครจะทำ เรื่องคดีความจะทำยังไง ตำรวจท้องที่ ตำรวจส่วนกลางทำยังไงเอาทุกอย่างคลี่ออกมาที่ละอัน ทีละอัน แล้วก็ส่วนหนึ่งทำไปนะ คู่ขนาน อีกส่วนก็ต้องปฏิบัติราชการต่อไป แก้ปัญหาให้ผม ทำงาน เพราะวันนี้ปัญหามันเยอะแยะ ก็ต้องรื้อ ต้องใช้คน ใช้ตำรวจ วันนี้ก็มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะ อันนี้คือผมปฏิรูปแล้วนะ

ระยะแรกนะครับ วางพื้นฐาน ลดขั้นตอน ให้การบริการประชาชน แล้วก็ได้รับความเชื่อถือจากสังคม จากประชาชน ไม่งั้นที่ผ่านมา ตำรวจก็ถูกตำหนิติเตียนเยอะแยะไปหมด มันอยู่ที่ว่าเราจะบริหารเขายังไงนะครับ ให้ความเป็นธรรมเขาอย่างไร วันนี้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจก็ดีขึ้นผมก็กำลังดูอยู่ว่าเรื่องของการที่จะตั้งสภามาแต่งตั้งข้าราชการระดับกระทรวง มันเป็นไปได้ไหมผมก็อยากใช้แนวทางในส่วนของทหารนี่นะครับ ไม่ใช่ว่าทหารนี่จะดื้อดึงขัดขืนใครได้ ไม่ใช่นะครับ ที่ผ่านมารัฐมนตรี ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้ อย่างกองทัพก็จะมี พ.ร.บ. ทหาร พ.ร.บ.กลาโหมนะครับ ก็เพียงแต่ว่าทุกหน่วยงานในกระทรวงกลาโหมก็เสนอคนของเขาขึ้นมา เข้าที่ประชุมนะ สมมติว่าที่ประชุม เอาสมมตินะครับ 10 คนถ้าเกิน 2 ใน 3 ถ้าตกลงกันได้ทุกคนเอาขึ้นมาตามแท่งของตัวเองแล้วก็ไม่มีใครขัดแย้งก็อนุมัติไปตามนั้นนะครับ มีรัฐมนตรีกลาโหมเป็นหัวหน้า เป็นประธานกรรมการตรงนี้ นั่นน่ะเขาเสนอมาตามแท่งของเขา ถ้าจะแก้ปรับเป็นตามความเหมาะสมก็ทักท้วงกันตอนนั้นถ้าไม่เห็นด้วย ถ้าเห็นด้วยก็ตั้งเลย ไม่เห็นด้วยก็ประชุมใหม่ ไปหามาใหม่ หรือเสนอคนใหม่เข้ามา 2 ใน 3 ก็ผ่านนั่นแหละเป็นอย่างนั้น

ผมอยากให้ข้าราชการทั้งตำรวจ ทั้งข้าราชการ อยากให้เป็นอย่างนี้นะ ตอนนี้ก็มี กตร. อะไรอยู่แล้วนะ กตช. แต่ทำอย่างที่ทหารทำหรือเปล่า จะได้ได้คนมาที่โตมาในแท่งของเขาในพื้นที่ของเขา แล้วนายเขาก็เป็นคนเลือกของเขามา พอนายเขาเลือกมาก็จะเป็นไปตามขั้นตอนไปตามอาวุโสบ้างตามความรู้ความสามารถบ้างหรือจะเป็นฟาสแทรกเพื่ออนาคตบ้างมันต้องมีคนทั้ง 3 อย่าง สัดส่วนที่เหมาะสมอยู่ตรงนั้น เมื่อขึ้นมาแล้วสมมติว่าเป็นกระทรวงนะครับ ก็จะมีรัฐมนตรีกระทรวงนั้นเป็นประธานคณะกรรมการ แล้วก็ในส่วนของอธิบดี รองอะไร ปลัดกระทรวงรองปลัด อธิบดีก็อยู่ในคณะกรรมการ ก็แต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมา ตรงนั้นจะเป็นสรุปออกมาแล้ว และส่งมาอาจจะมี กพร. หรือ กพ. ครับ ที่ทำอยู่ตอนนี้เข้าไปเป็นเลขาคณะนี้ก็ได้

ผมเสนอแนวคิดไปเฉยๆ นะ มันก็จะเกิดความเป็นธรรมชัดเจนขึ้น ตำรวจก็เหมือนกัน นะถ้าตั้งขึ้นมาอย่างนี้ มันก็เป็นสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ไม่ใช่พวกใคร ขึ้นมาด้วยความชอบธรรม นายตัวเองต้องรู้ว่าลูกน้องตัวเองดีหรือไม่ดี มันจะได้ไม่ข้ามไปข้ามมา วิ่งเต้นกันเยอะแยะไปหมด ทหารวิ่งเต้นอย่างนี้ไม่ได้นะครับ เสียเงินก็ไม่มีนะ เพราะงั้นก็ต้องเป็นไปตามนี้ถึงจะรบได้ ถึงทำงานได้ไง ไม่งั้นใครขึ้นมาก็ครอบได้หมดทุกอัน ทั้งข้าราชการ ทั้งตำรวจ ก็เป็นแบบเดิมอีก ไปแก้แบบนี้ ตั้งใครมาสักกลุ่มหนึ่ง แล้วมีอำนาจตั้งทุกคนท่านจะรู้ไหมว่าแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานเขามีใคร เขาทำงานกันมาอย่างไร รู้ไหม ผมเป็นข้อเสนอแนะเท่านั้น แต่ถ้าเราจะเอาอย่างนั้นก็ตามใจนะครับ แล้วแต่ท่าน 

เพราะงั้นในส่วนของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายนี่ มันจำเป็นนะครับ ต้องลงรายละเอียดนะครับ ใช้กฎหมาย ใช้อาวุธ เหล่านี้ ต้องมีมาตรการที่เพียงพอ แล้วก็ให้อิสระในการทำงานพอสมควรแก่เขา แต่อยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้กระบวนการยุติธรรมให้เกิดความชัดเจนและรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบนะครับ ในการสั่งงาน ในการอะไรก็แล้วแต่ มันผิด มันถูก ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นคนสั่งให้เขาทำนะ ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้ได้นะครับ ผมสรุปแล้วปัญหาใหญ่ๆ เรื่องใหญ่นั้นที่ยังค้างอยู่ในระยะที่ 2 ของผมนี่ ผมจะส่งไประยะที่ 3 ของผม คือรัฐบาลใหม่ แล้วรัฐบาลใหม่ก็ไปกำหนด 1-2-3 ทำก็แล้วกัน คงเข้าใจตามนี้นะครับ หรือถ้าหากทุกคนเกรงว่าจะไม่ทำ สภาปฏิรูปกำหนดไว้ ก็อาจจะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญได้ไหม หรือกฎหมายลูกหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมไม่มีความรู้ทางกฎหมายมากนักนะครับ แต่ท่านไปทำให้เขาทำได้แล้วกัน ว่าทำอย่างไรกลไปเหล่านี้จะทำต่อ ทำยังไงรัฐบาลจะทำได้ ถ้าไม่ยอมกันอยู่แบบนี้ มันก็ไป เดินหน้าไม่ได้นะครับ วันนี้เราทำทุกอย่างตามขั้นตอนทั้งหมด ตาม Road Map ทั้งหมด Road Map ที่ว่าก็คือ มีรัฐธรรมนูญ นะวันนี้ขอให้มีประชามติ ผมก็ให้ทำประชามติได้เลย พอทำประชามติแล้วก็มีเลือกตั้งแต่ท่านไม่เคยมีใครถามผมเลยว่า เอ๊ะ ถ้ามันเลือกตั้ง ก่อนเลือกตั้งวุ่นวาย ทุกคนไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญกันอีก จะทำยังไง อ้าว.. มีมาตรการอะไรไหม สองก็คือเลือกตั้งแล้วนรัฐบาลปกครองไม่ได้ขึ้นมาอีก อีกพวกก็ต่อต้านทำไง นี่ ผมห่วงตรงนั้นมากกว่า ผมไม่ห่วงรัฐธรรมนูญ ไม่ห่วงอย่างอื่นเท่าไร ห่วงตรงนี้ คสช. จะรับผิดชอบตรงนี้ด้วย นะครับ รัฐบาลจะดูสถานการณ์ตรงนี้ด้วย แต่ทุกอย่างผมยืนยันว่า ทุกอย่างผมทำตาม Road Map เว้นแต่มีใครทำให้ Road Map ผมเปลี่ยนแปลงนะครับ

รัฐธรรมนูญรักษาสมดุลอำนาจ 3 ฝ่าย-ต้องไม่สร้างความขัดแย้ง

รัฐธรรมนูญ วันนี้ผมบอกว่าจะต้องไม่เป็นรัฐธรรมนูญของความขัดแย้งในอนาคตนะครับ ผมฟังจากผู้บรรยายทั้งหมดที่มาจาก เยอรมัน, ฝรั่งเศส ก็ได้บรรยายถึงความเป็นไปเป็นมาของรัฐธรรมนูญประเทศเขานะครับว่ามันจะเป็นยังไง เขาก็บอกว่าเป็นกฎหมายที่น่าจะไม่ต้องให้มีการตีความมากนักนะครับ  คนไทย รัฐบาล ฝ่ายค้าน  เราก็ต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญในทางที่ถูกเราจะต้องเป็นคนที่เจริญแล้ว ไม่เอากฎหมายไม่เอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะเบาะแว้งกันอีก นะครับ นักการเมืองก็ต้องมีธรรมาภิบาล  เรามีประสบการณ์มากมายนะครับรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีหลายฉบับ แก้ไปแก้มาก็จะกลับไปที่เดิมอีกแล้วนะครับ ทุกคนก็ต้องการของเดิม คนนั้นก็ว่าดี คนนี้ก็ว่าไม่ดี พรรคการเมืองโน้น พรรคการเมืองนี้ นักการเมือง ผมถามว่า ถาม ประชาชนเขาหรือยัง เขาต้องการอะไร เขาต้องการให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่าเดิม หรือต้องการให้บ้านเมืองเป็นเหมือนเดิม  หรือต้องการให้บ้านเมืองแย่กว่าเดิม อันนี้เป็นความรับผิดชอบของนักการเมืองต่อไปด้วยนะครับ ผมก็พยายามทำเต็มที่แล้ว 

รัฐธรรมนูญใหม่นั้นก็น่าที่จะต้องสร้างความสมดุลระหว่าง 3 อำนาจให้ได้นะครับ แล้วก็มีประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจ 3 อำนาจดังกล่าวนั้นประชาชนจะต้องเป็นศูนย์กลาง เพราะงั้นที่ผ่านมาบอกว่าประชาชน ต้องเป็นอย่างโน้น เป็นอย่างนี้ มีอำนาจโน้น อำนาจนี้ ไม่ใช่  ประชาชนไม่ใช่เป็นกลุ่มอำนาจที่ 4 นะครับ มี 3 อำนาจที่ คือบริหาร นิติบัญญัติ แล้วก็ตุลาการ ใช่ไหมครับ ประชาชนนั้นเป็นผู้ใช้อำนาจ 3 อำนาจนั้นผ่านการเลือกผู้แทนของท่าน นั่นแหละคืออำนาจของท่านอยู่แล้ว ท่านเลือกคนเข้ามา ท่านเลือกไม่ดี นั่นแหละ ท่านใช้อำนาจในทางที่ผิด ถ้าท่านเลือกดี เขาก็ดูแลท่านดี บ้านเมืองก็เจริญไปข้างหน้า นั่นแหละคือการใช้อำนาจ ตามหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง อีกอันก็คืออะไร การลงประชามติ ใช่ไหม ไม่ว่าเขาจะทำอะไร การลงประชามติเห็นชอบ ไม่เห็นชอบก็แล้วแต่ เขามีสิทธิให้ท่านไปลงประชามติของประชาชนได้อีกทีหนึ่ง โดยรัฐบาลเป็นคนกำหนดออกมานะครับ ที่ผ่านมานี่มันตีกันไป ตีกันมา พันกันไปหมดนะ แล้วประชาชนก็ถูกปลุกระดม กลายเป็นว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจทั้งหมด เพราะงั้นต้องเหนือกว่าทุกคน เหนือกว่ารัฐบาล เหนือกว่าเจ้าหน้าที่ นี่แหละครับ มันก็ตีกันอยู่แบบนี้แหละ เพราะงั้นต้องอธิบายประชาชนให้เข้าใจด้วยว่า ท่านใช้อำนาจของท่านผ่านผู้แทนของท่านผ่านสภา อะไรก็แล้วแต่นะครับ เพราะงั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างความเข้าใจ อย่าให้ใครเขามาบิดเบือนท่านอีก นักการเมืองที่ไม่ดี พรรคอะไรที่ไม่ดีก็แล้วแต่ อย่าไปมองเฉพาะเรื่องนโยบายพรรคอย่างเดียว ต้องมองว่านโยบายของพรรคการเมืองเหล่านั้นวางยุทธศาสตร์ของชาติไว้อย่างไร เดินหน้า 5 ปี 10 ปี อย่างไร ใครเข้ามาตรงนี้ก็ต้องทำต่อนะครับ ในส่วนของพรรคก็ว่ากันไป จะสร้างคะแนนนินมอะไร ตรงไหนก็ว่าไป แต่ประเทศชาติ ต้องไม่เสียหาย แล้วเดินไปข้างหน้าได้ ทุกประเทศเขาเป็นอย่างนี้หมด เขาเลิกทะเลาะกันโดยเอาประชาชนมาเป็นตัวประกันอยู่แล้ว เพราะเขาใช้ประชาชน ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านสภา ผู้แทนของเขา หรือลงประชามติ แล้วก็เสนอสิ่งที่เขาต้องการ สิ่งที่เขาไม่เห็นด้วย ผ่าน ส.ส.ของท่านยังไง ที่ผ่านมาเขาทำหรือเปล่าเล่า ทำตรงนี้ไหม ถ้าไม่ทำก็ไปหาทางให้เขาทำวันหน้านะครับ ในส่วนของรัฐบาลนี่ เมื่อมันเกิดเหตุการณ์ใดๆ ในประเทศก็ตามต้องรับผิดชอบทุกเรื่องนะครับ

วันนี้ผมก็รับผิดชอบเรื่องเศรษฐกิจ ความมั่นคง จิตวิทยา สังคมวิทยา การต่างประเทศ อะไรล่ะ ในเรื่องของกฎหมายทำทุกอย่างจะปฏิเสธอันใดอันหนึ่งไม่ได้ หรือจะปฏิเสธประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลทุกรัฐบาลนะครับ ผมอยากจะใช้คำว่าต้องดูแลคนวันนี้ แล้ววันหน้าด้วยนะครับ วันหน้าอย่างที่ผมเรียนไปแล้วเมื่อกี้นี้นะ คนไทยที่ยังไม่เกิดมาอีกเยอะแยะไปหมดนะ นึกถึงเขาด้วยนะครับ     

ย้ำโรดแมปกำหนดโดยปชช.

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้ ขอให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57  กำหนดไว้  ตาม Roadmap อะไรไปได้ก็ไป ไปตามนั้นผมไม่เคยเป็นคนเลื่อน  Roadmap เพราะงั้น Roadmap ถูกกำหนดโดยประชาชนโดยสถานการณ์ไม่ว่าจะเรืองการทำประชามติ หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ให้ทำได้ อะไรก็แล้วแต่ ผมไม่เคยขัดขวางอะไรทั้งสิ้น ผมอยากให้ประเทศชาติเดินหน้า นะ ด้วยความยั่งยืนนะครับ ก็เป็นเรื่องของประชาชนแล้วกันนะ ช่วยกันแสดงความคิดเห็นแต่อย่าขัดแย้งนะ ทุกคนต้องยอมรับกันนะครับ เว้นแต่สถานการณ์ ถ้ามันไม่เรียบร้อย ไม่รู้จะทำยังไงนั่น คอยบอกผมก็แล้วกัน ถ้ามันเลือกไม่ได้ เป็นรัฐบาลไม่ได้แล้วจะทำยังไง หาทางออกมาให้ผม ผมใช้อำนาจอย่างเดียวมันก็ไม่ไหวนะ ผมพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่นะครับ เพราะงั้นสิ่งที่เราคาดหวังวันนี้คือการปฏิรูปนะ การปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน อาจจะใช้เวลาหลายปี ผมก็ไม่ได้มุ่งหวังว่าผมจะทำเองทั้งหมด แล้วอยู่หลายๆ ปี ไม่ใช่ ก็เป็นเรื่องที่ผมต้องส่งต่อ ผมไม่มีโอกาส ผมก็ส่งรัฐบาลใหม่ ที่ท่านเลือกมา ท่านใช้อำนาจประชาชนเลือกมานะ ไปทำมานะครับ ประชาชนเรียกร้องมาตลอด รัฐบาลก็เรียกร้องทุกรัฐบาล 2 รัฐบาลที่แล้วผมจำได้ เรียกร้องการปฏิรูปก่อน ปฏิรูปหลังอะไรก็แล้วแต่ ทำไม่ได้ซักรัฐบาลหนึ่ง วันนี้เราเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วจะหยุดไปที่เดิม แล้วกลับไปที่เก่ากันอีกหรือ ก็แล้วแต่ท่านนะ อำนาจอยู่ที่ท่าน อย่างนี้ ใช้ในทางที่ถูกต้องแล้วกัน เข้าช่องทางมานะ วันนี้ก็หลายคนก็ไปทำงานอยู่แล้ว กมธ. สปช. สนช. ทุกคนหวังดีกับประเทศไทยทั้งนั้นน่ะนะครับ แต่เพียงแต่ว่ามันเหมาะสมกับสถานการณ์อย่างไร แค่ไหน จะเอาแค่ไหนกันนะ ต้องเป็นการทำข้อตกลงกับคนทั้งประเทศด้วย ไม่ใช่เอากลุ่มนี้มารบกลุ่มนี้  กลุ่มนี้เห็นด้วย กลุ่มนี้ไม่เห็นด้วย แล้วก็ตีกันต่อไปในอนาคต แล้วมันจะทำไปทำไม จะปฏิรูปกันทำไม ผมจะมายืนอย่างนี้ทำไม เข้าใจตรงนี้ด้วยนะครับ ผมขอร้องแล้วกัน ขออีกครั้งหนึ่งนะ

ในเรื่องอื่นๆนะครับ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของ “เทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ” ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนและผู้บริโภคเป็นอย่างดีนะครับ ยอดจำหน่ายถึงวันที่ 26 พฤษภาคม นี้  เกือบ 20 ล้านนะครับ แล้วต่อไปก็จะจัดเป็น "งานไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงาม" จัดต่อนะครับ 5-28 มิถุนายน ภายในงานมีทั้งการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดแสดงปลาสวยงาม และการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมือง มีการตกแต่งอะไรก็แล้วแต่ ทำให้มูลค่าของดอกไม้มันสูงขึ้น จัดตู้ปลา อะไรต่างๆ มีหมดนะครับ ราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันนะ ก็อันนี้เป็นสินค้าที่จะขายออกต่างประเทศได้เลยนะครับ แล้วก็จะมีการจำหน่ายด้วยให้ความรู้ด้วย การเลี้ยงปลา ดูแลต้นไม้ ปลาสวยงามที่วันนี้เป็นรายได้หลักเลยนะครับของเกษตรกร บางส่วนเขาเปลี่ยนนะครับ ไปเลี้ยงปลากัดบ้าง ปลากัดไทย ปลากัดจีน ไปเลี้ยงปลาเงินปลาทอง อะไรทำนองนี้ ดอกไม้ก็เอามาจัดใส่พานใส่โหลแก้วนะ ให้งดงามเหมือนดอกไม้ของต่างประเทศนะ แต่เราเป็นแบบไทยๆ ไงไปดูแล้วกันนะครับ มีการบรรยาย มีการสาธิตทุกเรื่อง มีวิทยากรมืออาชีพ มีคำแนะนำการปลูกและดูแลรักษาจากนักวิชาการและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการนะครับ มีการให้คำแนะนำหรือแบบแปลนการจัดสวนในลักษณะต่าง ๆ มีนักจัดสวนมืออาชีพมาด้วยนะครับ ระหว่างวันที่ 25 - 31 พฤษภาคมนี้ ก็ยังมีอีกงานนะครับที่จัดขึ้นในขณะนี้คือ “OTOP วิถีไทยจากร้อยสู่ล้าน” ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี อันนี้ก็เกี่ยวพันเรื่อง Value Chain ไงครับ ถ้าอันนี้มันเกิดขึ้นได้ เราก็ต้องไปดูว่าการผลิตเขาเป็นยังไง ประชาชนผลิตได้ไหม ที่ผ่านมาทำดีหมดคนสั่งซื้อผลิตไม่ได้ ผลิตไม่ทัน เพราะว่าไม่พร้อม แต่ทำได้ เป็นชิ้นๆ น่ะได้ สวย พอสั่งเป็นร้อยอัน พันอัน ทำไม่ได้ นี่ต้องไปส่งเสริมข้างล่างภาคการผลิต ทำยังไง เครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือควรมีไหม จะตั้งสหกรณ์กันยังไง ไม่ใช่เอาของมา ใครทำดี เอามาขายแล้วเวลาเราต้องการการสั่งซื้อ ออเดอร์ จากต่างประเทศ ไม่ใช่หรือครับขายคนไทยมันจะขายอะไรพอเพียงล่ะ มันต้องขายต่างประเทศ พอเข้าสั่งมา10ชิ้น ได้ 100 ชิ้น เริ่มไม่ได้แล้ว 1,000 ชิ้น ยิ่งไม่ได้ใหญ่ นี่มันล้มเหลวของ OTOP เหมือนกันนะ ผมว่าต้องไปดูตั้งแต่กระบวนการผลิต แล้วก็ให้มันสอดคล้องกับ ซัพพลาย ด้วยนะ ดีมาน-ซัพพลาย ต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ใช่เขาไม่ต้องการอะไร ก็ผลิตอยู่นั่นแหละ จะไปขายใครเล่า นะ เลิกไปทำอย่างอื่น แล้วก็ไปสู่การเป็นธุรกิจ SMEs  ใช้แนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะครับ ที่พระองค์รับสั่งไว้แล้วเรื่องความพอเพียง ทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่ต้องใช้จ่ายเงินได้ก็ดี พอกินพออยู่ ถ้าเหลือก็แบ่งปันเพื่อนบ้าน ถ้าเหลือมากกว่านั้นก็ขาย แลกเปลี่ยน แล้วต่อจากนั้นก็ตั้งธุรกิจขึ้นมา ทำร้านค้า เปิดเป็นบริษัท ก็ต้องพัฒนาไปอย่างนั้น ก็มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้ ด้วยนะครับ ต้องรับฟังด้วยนะ หลายๆ กระทรวงเขาออกมาแล้ว ใน  App ในโทรศัพท์น่ะ เรื่องการเกษตร ราคาสินค้า การเพาะปลูกพืช การใช้น้ำมีหมด ไปเปิดดูนะ   

ให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์

ในวันพุธที่ผ่านมาผมได้พบกับเจ้าหน้าที่และนักกีฬาที่เตรียมจะเดินทางไปร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 – 16 มิถุนายนนี้ครับ ผม ในนามของรัฐบาลและพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนขอแสดงความยินดีและชื่นชมนักกีฬาที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลอย่างเต็มที่นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้เต็มความสามารถของตนเอง มีน้ำใจเป็นนักกีฬา เคารพกฎกติกา และระลึกอยู่เสมอว่าท่านเป็นตัวแทนคนไทยและประเทศไทย ในการ ที่จะสร้างภาพลักษณ์ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนไทย เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดนะครับ

วันนี้กีฬาต้องแข่งขันกันด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา แข่งขันกันด้วยร่างกาย จิตใจ สามัญสำนึก และความรักชาติ ทั้งนี้ก็จะต้องคำนึงถึงประชาคม อาเซี่ยน ด้วยกันด้วย เราขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้วนะครับ ผมก็เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศพร้อมเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกท่าน ขอให้ท่านทำให้ดีที่สุดนะครับ  จะแพ้ ชนะ ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเตรียมการไป ถ้ามันไม่ได้ก็ต้องมาพัฒนาใหม่นะครับ ผมยืนยันว่าเราจะต้องพัฒนาการกีฬาให้ดีขึ้นในอนาคตให้ได้นะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ ตามจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ เพื่อจะนำชื่อเสียงและชัยชนะมาสู่ประเทศไทยถ้าไม่ได้ เอาเพื่อนกลับมานะตรับ นั่นสำคัญที่สุด พ่อแม่ภูมิใจ แล้วพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ใหม่นะครับ มันไม่มีใครบังคับได้นอกจากตัวเราเองนะครับ เรืองกีฬาก็ไม่ต้องกลัว ผมขอโทษรบกวนเวลาท่านพอสมควรนะ วันไหนมีกีฬาผมก็จะเลื่อนให้แล้วกันนะ พูดให้สั้นๆ ลงตอนนี้ก็ปรับเรื่องการออกอากาศไปแล้วนะครับในวันศุกร์นี่ผมพูดคนเดียวแล้วกัน แค่สักครึ่งชั่วโมงนิดหน่อย ทำนองนี้นะ ในส่วนของรองนายก กับรัฐมนตรีก็ไปออกตอนเย็นวันธรรมดา เวลา 18.00 น. แล้วกันนะครับ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง 20-30 นาที นะมันจะได้ เขาเรียกเผื่อแผ่แบ่งปันไงครับนะ เผื่อแผ่แบ่งปัน ฟังผมบ้างตอนนี้ก็อะไร ป้าแย้มก็ไม่อยู่แล้วซิไหม ก็รอป้าคนใหม่แล้วกันนะ แต่ผมยังอยู่นะ ก็ขอเวลาพบกับท่านไปก่อนแล้วกันนะครับ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net