Skip to main content
sharethis

ผู้นำศาสนา 8 องค์กร ประชาชนชายแดนใต้นับ 10,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตขอพรให้เดือนรอมฎอน ปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 เกิดความสันติสุข ปราศจากความรุนแรง พร้อมหนุนเสริมการพูดคุยสันติภาพ

วันที่ 8 มิถุนายน 2558 ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ผู้นำศาสนาจาก 8 องค์กรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สภาอุลามาอฺฟาฎอนีย์ดารุสสลามมูลนิธิ สถาบันศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และชมรมมุสลิมภารดรภาพ พร้อมประชาชนกว่า 10,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตเพื่อขอพรให้พระอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ประทานความสงบสุขปราศจากเหตุร้ายรุนแรง ขอให้ศาสนิกได้ปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสดาในเดือนรอมฎอนอย่างเคร่งครัด โดยมี นายอับดุลการีม นาคนาวา ประธานสภาอุลามาอฺฟาฎอนีดารุสลามมูลนิธิ กล่าวต้อนรับ นำละหมาดฮายัต และขอดูอาในครั้งนี้

จากนั้น นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นผู้อ่านสาส์นผู้นำศาสนาภาษาไทย และนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส อ่านสาส์นผู้นำศาสนาภาษามลายู แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของคณะผู้นำศาสนา 8 องค์กร ที่อยากเห็นเดือนรอมฎอมเป็นเดือนแห่งความสันติสุข ยุติการก่อเหตุวามรุนแรงจากทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้ที่ถือศีลอดร่วมกันทำความดี และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของศาสนาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือคนอื่นให้รอดพ้นจากความทุกข์ และความยากลำบาก พร้อมทั้งยังสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และการพูดคุยสันติภาพ เพื่อสร้างความสงบสุข สันติสุขแก่สังคมและประเทศชาติต่อไป

ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4สน.) พร้อมด้วยนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี (มฟน.) และ ดร.วิสุทธ์ บินลาเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ “รอมฎอนสันติสุข คืนความสุขสู่ชายแดนใต้” โดยมีนายอาหามัดรอดี บินเจ๊ะหะ นักสื่อสารมวลชน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในวงเสวนา ผศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดี มฟน. ได้กล่าวถึงเดือนรอมฎอนแห่งสันติว่า ที่จริงแล้วสันติภาพไม่ใช่มีแค่เดือนรอมฏอนเท่าแต่ต้องมีทุกเดือน โดยมี 4 เดือนตามปฏิทินอิสลามที่ศาสนาห้ามการทำสงคราม ในขณะที่ ดร.วิสุทธ์ บินลาเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวแนวทางสายกลางซึ่งชาวมุสลิมทุกคนต้องดำรงตนอยู่ในทางสายกลาง ไม่ใช้ความรุนแรง ส่วนพล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงโครงการพาคนกลับบ้านว่า ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้คนที่มีหมายต่างๆ รวมทั้งที่หวาดกลัวได้กลับมาบ้านโดยจะได้รับการคุ้มครอง ซึ่งขณะมีคนเข้าร่วมโครงการนี้รวมแล้วประมาณ 1,400 คน และนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวถึงการรองรับคนที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านว่า ทางศอ.บต.ได้ดำเนินการหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านอาชีพ เป็นต้น

ขณะที่ทาง กอ.รมน.ภาค4 สน.ได้แจ้งว่า ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ต้องการให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบศาสนกิจอย่างเต็มที่ ไม่มีเหตุรุนแรง เกิดกระแสพาคนกลับบ้านที่จะช่วยหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการกำหนดมาตรการในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการเดินทางไปประกอบศาสนกิจของพี่น้องประชาชน ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในการประกอบศาสนกิจ

โดยทาง กอ.รมน.ภาค4 สน.เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติตามคำแนะจำของผู้นำศาสนา เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกคำสั่งห้ามจำหน่าย แจกจ่ายประทัด และเครื่องเทียมระเบิดโดยเด็ดขาดเพื่อไม่ให้รบกวนต่อการปฏิบัติศาสนกิจช่วงเดือนรอมฎอน โดยคาดหวังว่ารอมฎอนในปีนี้ เป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่ปลายทางแห่งสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net