ศาลปกครองรับคำฟ้อง 351 ชาวบ้านไทยพลัดถิ่น จ.ตาก กรณีมหาดไทยไม่รับรองสถานะ

11 มิ.ย. 2558 ศาลปกครองกลางได้แจ้งเป็นหนังสือ ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2558 ถึงผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นคนไทยพลัดถิ่น อำเภอแม่สอดและอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก รวม 351 ราย ที่ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและพวกที่ออกคำสั่งไม่รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น โดยศาลปกครองกลางระบุว่า ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2558

คดีนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องจากกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น จาก อ.แม่ระมาด และอ.แม่สอด จ.ตาก เข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์  และสภาทนายความได้ให้รับเรื่องร้องเรียนให้การช่วยเหลือ จนเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2558 จึงได้ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,คณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ,ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาพิจารณาไม่รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 351 คน โดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2555 และไม่ถูกต้องชอบธรรมกับประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่แม่สอด-เมียวดี จ.ตาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิในสถานะบุคคลของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทยในพื้นที่ จ.ตาก ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 คำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลบังคับในขณะที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ยังมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย

ผู้ฟ้องทั้ง 351 รายจึงขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2557 ที่มีมติให้กลุ่มผู้ฟ้องคดีมีคุณสมบัติไม่เป็นคนไทยพลัดถิ่นตามกฎหมาย และขอให้ผู้ฟ้องคดีและคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อไทยในพื้นที่ จ.ตาก ทั้งหมดเป็นคนไทยพลัดถิ่นทำให้ส่งผลประทบต่อกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นพื้นที่ ที่ต้องถูกตัดสิทธิโดยชอบธรรมทางกฎหมายอย่างไม่ถูกต้อง

กรณีดังกล่าวเกิดจากกรมการปกครองได้มีหนังสือแจ้งมติของคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นไม่รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นโดยอ้างว่าไม่มีคุณสมบัติเนื่องจากไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของราชอาณาจักรในอดีตที่ทำให้พวกเขาอยู่ในเงื่อนไขต้องได้รับสัญชาติไทย

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า จากการลงพื้นที่พบว่าในสมัยก่อนดินแดนที่คนไทยพลัดถิ่นกลุ่มนี้อยู่เป็นดินแดนของไทย มีวัฒนธรรมไทย พูดภาษาไทย จากนั้นในช่วงใดช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์รัฐไทยได้เสียดินแดนตรงนั้นไป ทำให้ผู้คนเหล่านั้นอยู่ในการปกครองดูแลของประเทศอื่น  แล้วเขาก็ย้ายกลับมาเพราะญาติพี่น้องอยู่ฝั่งไทย พอกลับมารัฐไม่ยอมรับการมีสัญชาติไทย เขาขอคืนสัญชาติไทยที่แม่สอด คณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นเขาบอกว่า ไม่มีหลักฐานว่าเกิดการเสียดินแดนไปเมื่อไร อย่างไร จึงตัดสิทธิ์ชาวบ้าน ชาวบ้านที่ไปฟ้องศาลบอกว่ามีหลักฐานการเสียดินแดนจริง และเรียกร้องว่าเขาเป็นคนไทย สมัยก่อนดินแดนที่เขาอยู่ฝั่งพม่าแถวเมียวดี ห้วยส้าน เป็นดินแดนไทย ฝั่งแม่น้ำเมยทั้งสองฝั่งเป็นดินแดนของไทยหมด เพิ่งมีการเอาแม่น้ำเมยมาแบ่งเมื่อปีพ.ศ. 2411 ทำให้ดินแดนที่เขาเคยอยู่กลายเป็นดินแดนพม่าไป เขาย้ายกลับมาเข้าตามเงื่อนไขทุกอย่าง มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ งานวิชาการ งานวิจัย มายืนยันว่าดินแดนที่เขาอยู่เคยเป็นดินแดนของไทย ไม่ใช่ดินแดนพม่าตั้งแต่แรกและมีการถูกแบ่งไปในช่วงหลัง  โดยหวังว่าศาลปกครองจะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นเหล่านี้

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท