Skip to main content
sharethis

วันนี้ 17 มิ.ย.58 ประมาณ 10.00 น. ณ ศาลจังหวัดสกลนคร ผู้ได้รับผลกระทบในที่ดินทำกิน ในนามเครือข่ายไทบ้านไร้สิทธิสกลนคร เดินทางมาร่วมให้กำลังใจพี่น้องชาวบ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร กรณีถูกกล่าวหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าดงชมภูพาน-ดงกะเฌอ จำนวน 1 ราย

ชัย ทองดีนอก วัย 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ ม.6 บ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร สมาชิกเครือข่ายไทบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร บอกว่า ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ 2618/57 คดีระหว่าง พนักงานอัยการ โจทก์ นายสิน เงินภักดี จำเลย ซึ่งเป็น 1 ในจำนวน 31ราย ที่ถูกจับกุมดำเนินคดี สำหรับคดีในวันนี้จำเลย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวนฯ ไม่รับสารภาพ อีกทั้งสืบพยานโจทก์ได้เพียงสิบปาก และได้หมดเวลาราชการก่อน ศาลจึงเลื่อนสืบพยานโจทก์ต่อในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.58) เริ่มแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

สมาชิกเครือข่ายไทบ้านผู้ไร้สิทธิฯ เผยต่อไปว่า นอกจากการมาร่วมให้กำลังใจครั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านพร้อมผู้ถูกดำเนินคดี นัดหมายจะเดินทางมาศาลกันอย่างต่อเนื่องถึงวันที่ 19 มิ.ย.58 เพราะแน่นอนว่าเมื่อพวกเรากลายเป็นผู้ถูกกระทำ ถึงจะได้รับความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางมายังศาล แต่เพื่อเป็นการร่วมใจกันมาปกป้องสิทธิที่ถูกความล้มเหลวจากนโยบายทวงคืนผืนป่าให้กลับคืนมาสู่ความเป็นธรรม แม้หลายครอบครัวต่างเป็นหนี้สินต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาล เช่น นางจันทร์จิรา ดียา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.58 ศาลพิพากษา ปรับ 35.000 บาท จำคุก 2 ปี จำเลยรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 12 เดือน ปรับ 17.500 บาท ซึ่งพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับจำเลยไม่มีพฤติกรรมร้ายแรง ไม่เคยต้องคดีอาญามาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.58 ศาลจังหวัดสกลนคร นัดฟังคำพิพากษา นายภักดี ศรีสวัสดิ์ โดยพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี

ชัย บอกอีกว่า สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขาจากยุทธการทวงคืนผืนป่า ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนอย่างมาก บางครอบครัวแม่กับพ่อต้องติดคุก ปล่อยให้หลาน 3 คน อยู่กับยาย และยายก็ตายเมื่อไม่นาน เนื่องจากความเครียด วิตกกังวล อย่างกรณีของผม ซึ่งมีที่ดินประมาณ 20 ไร่ ปลูกยางพารา และยางก็พอจะได้กรีดแล้ว แต่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดนับแต่เมื่อวันที่ 13 ส.ค.57 นายอำเภอภูพาน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และป่าไม้ ได้ลงไปที่สวนยาง บอกจะต้องตัดฟันยางพารา ตามยุทธการทวงคืนผืนป่า โดยเจ้าหน้าที่บอกให้เซ็นยินยอม และให้ยอมรับการบุกรุก นับแต่นั้นก็ถูกจับกุมและต้องขึ้นศาลสกลนคร พร้อมกับพี่น้องร่วมชะตากรรมในหมู่บ้านอีก 30 ราย หลังจากนั้นชีวิตครอบครัวก็เปลี่ยนไป ภรรยาเกิดความเครียด กลายเป็นโรคประสาท หลานชายที่เรียนหนังสืออยู่ไม่สามารถเรียนต่อได้คิดมากต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์

“พวกผมต้องพร้อมใจกันมาขึ้นศาล ทวงความเป็นธรรมในสิทธิที่ดินทำกินกันมาหลายครั้ง หลายเดือนแล้ว และนับแต่วันนี้ต้องมาขึ้นศาล 3 วันติดต่อกันถึงวันที่ 19 มิ.ย.ทุกครั้งมันคือค่าใช้จ่าย เป็นภาระที่เพิ่มขึ้น ที่ดินทำกินของพวกเราก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ รัฐบาลบอกว่าจะจัดการกับนายทุน ที่มี่ที่ดินเยอะๆ แล้วทำไมกลับกลายว่ามาทำแบบนี้กับชาวบ้านอย่างพวกผม ถึงแม้ว่า คสช.จะมีคำสั่งที่ 66/57  แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้ลดผลกระทบต่อชาวบ้านที่ส่วนใหญ่มีความยากจนแม้แต่น้อยเลย หนักซ้ำเติมไปกว่านั้นชาวบ้านกลับถูกขับไล่ ยึดที่ดิน ไม่มีพื้นที่ทำกิน ถูกตัดยาง และต้องมาถูกดำเนินคดีอีก” ชัย กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net