Skip to main content
sharethis

1 ก.ค.2558 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่รายงาน เบื้องหลังครม.สัญจรเชียงใหม่: ทหารเข้าบล็อกชาวบ้านหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจศูนย์ฯ โดยระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ผ่านพ้นไป รายงานข่าวทั้งหมดระบุว่าไม่ปรากฏมีความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มใดๆ เข้าไปในที่ประชุม โดยมีเพียงกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่งที่เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ของศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งมีการจัดตั้งไว้ด้านหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ สถานที่ประชุม

แต่จากการตรวจสอบของศูนย์ทนายความฯ พบว่าในช่วงก่อนหน้า และระหว่างการประชุม นอกจากเหนือจากการติดตามพูดคุยกับอาจารย์ นักศึกษา นักกิจกรรมหลายกลุ่มภายในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว (http://prachatai.org/journal/2015/06/60047) เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในหลายจังหวัดทางภาคเหนือยังได้มีการดำเนินการเข้าติดตามพูดคุยกับเครือข่ายชาวบ้านและเอ็นจีโอในประเด็นปัญหาต่างๆ โดยมีความพยายามปิดกั้นไม่ให้มีการเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องหรือกดดันการแก้ไขปัญหาในประเด็นของตนเอง

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบราว 10 นาย เดินทางเข้าไปที่ “โฮงเฮียนน้ำของ” อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิชุมชนและการอนุรักษ์แม่น้ำโขง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถามคนทำงานถึงกิจกรรมหรือการเคลื่อนไหวในช่วงครม.สัญจร ว่าจะมีการเข้าไปยื่นจดหมาย หรือนำชาวบ้านไปจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ พร้อมมีการถ่ายรูปบริเวณโฮงเฮียนน้ำของไว้ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ทหารยังได้มีการติดต่อเชิญตัวเครือข่ายเกษตรกรที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 5 ราย เข้าไปพูดคุยภายในค่ายเม็งรายมหาราช โดยมีการพยายามห้ามปรามไม่ให้มีการเคลื่อนไหว และการนำเกษตรกรเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. โดยเตือนว่าอาจมีการจับกุมถ้ายังมีการดำเนินการนำชาวบ้านเข้าไป

ในวันเดียวกัน ที่จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการส่งจดหมายเชิญตัวกำนันตำบลสะเนียน ซึ่งเป็นแกนนำสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ของจังหวัดน่าน เข้าไปพูดคุยภายในค่ายสุริยพงษ์ โดยมีการขอร้องไม่ให้นำชาวบ้านเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันยังมีการพูดคุยเจรจาเรื่องการขอคืนพื้นที่ทำกินบางส่วนในตำบลสะเนียนตามแนวนโยบายทวงคืนผืนป่าอีกด้วย

ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้เข้าติดตามแกนนำชาวบ้านบ้านวังตะเคียน ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกิดการเวนคืนที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในพื้นที่

ตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลว่าช่วงวันที่ 29 และ 30 มิ.ย.ได้มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเดินทางไปพบที่บ้าน โดยมีการสอบถามว่าจะไปไหนหรือไม่ และพยายามห้ามไม่ให้มีการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันที่ 30 มิ.ย.ซึ่งมีการประชุมครม. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินทางไปพบที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ 6.30 น.เพื่อตรวจเช็คว่าไม่ได้มีการเดินทางไปที่ไหน

ทางแกนนำสกน.ในจังหวัดเชียงใหม่เอง ก็ได้ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ทหารไม่ให้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องในการนำประเด็นปัญหาชาวบ้านเข้าสู่วาระการประชุมครม.

นอกเหนือจากการติดตามเรียกตัวพูดคุยก่อนหน้าการประชุม เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ขณะแกนนำสกน.และกลุ่มชาวบ้านได้เข้าสอบถามความคืบหน้ากับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทางทหารก็ได้มีการเข้าเจรจาตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าไป โดยกำหนดให้มีการส่งตัวแทนเข้าไปพบผู้ว่าฯ ที่หน้าศาลากลางได้เพียง 5 คน และห้ามไม่ให้มีการถือป้ายใดๆ ส่วนชาวบ้านที่เหลือให้รออยู่รอบนอก

ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงเบื้องต้นเท่าที่สามารถตรวจสอบได้ แต่ก็พอให้ภาพเป็นคำตอบได้ว่า “ความสงบเรียบร้อย” ในการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ดังที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net