ปล่อย 14 นักกิจกรรม-นักศึกษาแล้ว

ปล่อยตัว 14 นักศึกษานักกิจกรรมแล้ว หลังศาลทหารไม่อนุมัติคำร้องฝากของพนักงานสอบสวน ลุ้นต่ออัยการศาลทหารส่งฟ้องหรือไม่ แม่ชลธิชา น.ศ.หญิงคนเดียวในกลุ่มเผย จนท.พาลูกไปส่งที่บ้าน ไม่ปล่อยหน้าเรือนจำ


ภาพจากช่างภาพอาสา

 

8 ก.ค. 2558 เวลา 05.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 14 คน มารอรับที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ทั้ง 14 คนกำลังอยู่ระหว่างการทำเอกสารปล่อยตัว 

หน้าเรือนจำฯ มีครอบครัว เพื่อน และผู้สื่อข่าวมารอเป็นจำนวนมาก

เวลา 5.30 น. 13 นักศึกษา-นักกิจกรรมชายได้รับการปล่อยตัว ขณะที่ไม่พบ ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด นักศึกษาหญิงคนเดียวในกลุ่ม

ด้านรังสิมันต์ โรม นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ. แถลงว่า เรือนจำดูแลดี ไม่ถูกทำร้าย ยืนยันสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และการนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหารขาดความชอบธรรม พร้อมประกาศสู้ต่อ

ด้านรัฐพล ศุภโสภณ หรือบาส นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. ให้สัมภาษณ์พร้อมกับโอบกอด เรวดี สิทธิสุราษฎร์ ผู้เป็นแม่ โดยเขาระบุว่า ยังยืนยันสู้ด้วยหลักการของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 5 ข้อ พร้อมยืนยันว่ากลุ่มยึดหลักสันติวิธีและต้องรับฟังความเห็นต่าง

ลมูล แจ้งเร็ว แม่ของ ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด นักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้ปล่อยตัวที่เรือนจำตามที่ได้นัดหมาย แต่ได้แยกนำตัวลูกเกดไปส่งที่บ้าน ตั้งแต่เวลา 5.00น. ขณะที่ครอบครัวได้มารอรับตัวที่เรือนจำ ทำให้ไม่ได้พบกัน และเมื่อแม่และทนายความได้ติดต่อให้นำตัวเธอมาส่งให้ครอบครัวที่เรือนจำ ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ

พะเยาว์ อัคฮาด หรือแม่ของกมนเกด อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามฯ ระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 กล่าวว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งไม่สมควร สิ่งที่ถูกควรจะเป็นการนำนักศึกษามาปล่อยตัวให้สาธารณะได้รับรู้พร้อมๆ กัน

หนึ่งชั่วโมงถัดมา ญาติของลูกเกดได้พาลูกเกดเดินทางมาพบกับกลุ่มเพื่อนที่หน้าเรือนจำอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ 14 นักศึกษานักกิจกรรม กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ถูกควบคุมตัวตามหมายจับด้วยความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.และมาตรา 116 กฎหมายอาญา จากการทำกิจกรรมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยถูกนำตัวไปที่ สน.พระราชวังในช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย. จากนั้นถูกนำตัวส่งศาลทหารในเวลา 21.30 น. ก่อนจะเสร็จสิ้นกระบวนการในศาลทหาร เวลาประมาณ 00.30 น. (อ่านข่าวที่นี่)

ทั้งนี้ แม้จะไม่มีการฝากขังนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 14 คน แต่กระบวนการยุติธรรมยังคงดำเนินต่อไป เมื่อครบกำหนดหากอัยการทหารส่งฟ้องต่อศาลทหารก็ต้องมีการพิจารณาคดีตามที่ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง 3/2558 ที่ออกโดยมาตรา 44 และมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

นอกจากนี้ ทั้ง 14 คนยังเป็นผู้ต้องหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. จากการทำกิจกรรมเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 แบ่งเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพฯ 7 คน (ไม่รวม นัชชชา กองอุดม และธัชพงศ์ แกดำ ถูกอัยการศาลทหารสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้) และกลุ่มดาวดินอีก 7 คนจากการชูป้ายผ้าที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น

ด้าน อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. และ ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยลูกศิษย์ที่ถูกคุมขัง แถลงเรียกร้อง คสช.ยุติการดำเนินคดีและคุกคามนักศึกษา ครอบครัว เพื่อน นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้อง

เนื้อหามีดังนี้ 

0000

แถลงการณ์เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง
ฉบับที่  5
ขอบคุณประชาชนทุกฝ่าย

เนื่องจากศาลทหารได้มีคำสั่งยกคำร้องของพนักงานสอบสวน ที่ให้ฝากขังนักศึกษาทั้ง 14 คนอีกหนึ่งผลัด เป็นผลให้นักศึกษาทั้ง 14 คนได้รับการปล่อยตัว คณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ขอแสดงความขอบคุณต่อนักศึกษา นักคิด นักเขียน กวี นักแปล ศิลปิน นักเคลื่อนไหวองค์กรพัฒนาเอกชนและประชาชนจำนวนมากมายที่ให้การสนับสนุนแก่นักศึกษาทั้ง 14 คนและได้ร่วมกันเรียกร้องให้ปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ปราศจากการผลักดันของท่านเหล่านี้แล้ว นักศึกษาทั้ง 14 คนก็คงจะต้องถูกคุมขัง สูญเสียอิสรภาพต่อไปอีก

ยิ่งกว่านั้น ประสบการณ์รูปธรรมที่เราได้พบจากการร่วมกันช่วยเหลือนักศึกษาในครั้งนี้ทำให้เราเล็งเห็นความเป็นไปได้ที่ พลังสังคมฝ่ายต่าง ๆ ที่อาจมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันจะก้าวข้ามความแตกต่างนั้นมาร่วมมือร่วมใจกัน บนพื้นฐานหลักการอันถูกต้องดีงามและฉันทามติในการปกป้องผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน  ปรากฏการณ์ อันทรงคุณค่าที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในท่ามกลางความแตกต่างขัดแย้งทางการเมืองในระยะที่ผ่านมานี้น่าจะเป็นพื้นฐาน ให้สร้างเสริมการสัมพันธ์แลกเปลี่ยนและร่วมมือร่วมใจกันผลักดันสิ่งที่ถูกต้องดีงามเพื่อส่วนรวมต่อไปในภายหน้า

อย่างไรตาม เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังคงไว้ซึ่งข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทั้งในคดีนี้และคดีอื่นก่อนหน้า จึงยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการนำเอาคดีการเมืองเหล่านี้ขึ้นมาดำเนินการกับนักศึกษาทั้ง 14 คนอีกเมื่อใดก็ได้ อีกทั้งยังอาจมีการคุกคามสวัสดิภาพของนักศึกษาด้วยวิธีการอื่นๆ อีก คณาจารย์จะยังคงรวมตัวกันในเครือข่ายเพื่อเฝ้าติดตามสวัสดิภาพของนักศึกษาต่อไป

พวกเราขอเรียกร้องให้ยุติการคุกคามนักกิจกรรมและเครือข่ายโดยเฉพาะการออกหมายเรียกตัวนายบารมี ชัยรัตน์และผู้จัดการสวนเงินมีมาในข้อหากระทำการขัดต่อความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการกล่าวหาเกินจริงและเป็นการคุกคามในลักษณะหนึ่ง

นอกจากนั้น จนถึงบัดนี้ยังมีการคุกคามคณาจารย์ในต่างจังหวัดในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ เข้าพบสอบถาม หรือกระทั่งขอนัดประชุมกับคณาจารย์ที่ร่วมลงชื่อและรณรงค์กับพวกเรา เครือข่ายคณาจารย์จึงขอย้ำว่า ให้ฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ยุติการกระทำดังกล่าวโดยทันที

คณาจารย์ขอยืนยันว่า เราเป็นเพียงอาจารย์ที่รวมตัวกันด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจในศิษย์ที่เคลื่อนไหวโดยเปิดเผย บริสุทธิ์ใจ และชอบธรรม ตามสิทธิเสรีภาพอันพึงมีและเรายินดีที่จะสื่อสารแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างกันในเงื่อนไขที่เปิดเผย รับฟัง จริงใจ

ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และเสมอภาค
เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง
8 กรกฎาคม 2558

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท