Skip to main content
sharethis

‘สุภิญญา’ กสทช. ลงพื้นที่กาญจนบุรี รับปัญหาคูปองทีวีดิจิตอล มีการตกค้าง พบการกระจุกตัวโดยมิชอบ รับจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป


รถตรวจสอบสัญญาณที่ตำบลวังด้ง 


คูปองที่ชาวบ้านผู้ร้องเรียนได้รับจากผู้นำชุมชน

10 ก.ค. 2558 สุภิญญา กลางณรงค์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากคณะกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมไปรษณีย์ไทย ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบสัญญาณทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน พร้อมทั้งตรวจสอบสถานการณ์และรับฟังปัญหาการแจกคูปองทีวีดิจิตอล ณ ตำบลลาดหญ้า, ตำบลวังด้ง และตำบลท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

การตรวจสอบสถานการณ์ครั้งนี้สืบเนื่องจากมีองค์กรชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแจกคูปองทีวีดิจิตอลว่ามีคูปองที่เหลือตกค้าง มีการกระจุกตัวกันของคูปองโดยมิชอบโดยกลุ่มผู้นำชุมชน และมีการนำคูปองเพื่อไปแลกอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่เครื่องรับสัญญาณเกิดขึ้น

ภายหลังการรับฟังปัญหาในพื้นที่ตำบลท่าเสา พบว่าสาเหตุหลักของการตกค้างของคูปองเกิดจากการที่เมื่อบุรุษไปรษณีย์นำคูปองไปแจกที่บ้าน เจ้าของบ้านไม่อยู่ หรือไม่มีผู้อยู่อาศัย ในบางกรณีพบว่าเป็นบ้านเช่า ซึ่งผู้อยู่อาศัยไม่ใช่เจ้าบ้านจึงไม่มีอำนาจในการเซ็นรับคูปอง ซึ่งสุภิญญาได้เสนอทางแก้ไขว่าควรมีการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ให้เช่ามอบกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าบ้านสามารถรับคูปองได้ เพื่อให้ได้นำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์  พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นข้อดีของการใช้ทีวีดิจิตอล 

สุภิญญาเปิดเผยว่า จำนวนคูปองที่ยังตกค้างอยู่ทั่วประเทศราวร้อยละ 8 – 10  ซึ่งทาง กสทช.จะรับไปพิจารณาเป็นโจทย์ว่าจะมีการเก็บคืน หรือมีการยืดขยายเวลาหรือไม่

ในพื้นที่ชุมชนท่าเสา ตำบลท่าเสา มีผู้ร้องเรียนว่า ไม่มีการแจกคูปองตามบ้าน แต่ให้ไปรับที่ผู้นำชุมชน มีผู้นำชุมชนที่รวบรวมคูปองไว้กับตัว เมื่อชาวบ้านไปขอรับคูปองที่บ้านของผู้นำชุมชน ก็จะได้รับเครื่องรับสัญญาณแทน ซึ่งผู้นำชุมชนปฏิเสธที่จะให้เปลี่ยนเครื่อง  ส่วนตัวคูปองถูกเปิดและถูกฉีกส่วนที่มีมูลค่า 690 บาท ออกเหลือแต่ต้นขั้ว  ชาวบ้านผู้ร้องเรียนกล่าวว่า ไม่เคยเซ็นรับคูปองด้วยตัวเองแต่อย่างใด

เมื่อสอบถามไปยังบุรุษไปรษณีย์ในพื้นที่ บุรุษไปรษณีย์ยืนยันว่า ตนได้ทำการแจกตามบ้านจริง และหากบ้านไหนที่ไม่ได้รับก็ได้ออกหมายแจ้งให้มารับที่ที่ทำการไปรษณีย์แล้ว แต่ประสบปัญหาเนื่องจากในพื้นที่ตำบลท่าเสามีการออกคูปองซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากทะเบียนราษฎรขององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กับเทศบาลทับซ้อนกัน จึงได้แจ้งให้มารับที่ทำการไปรษณีย์แทน บุรุษไปรษณีย์ยืนยันว่าแจกคูปองถึงมือของเจ้าบ้านแต่ละคนจริง หากไม่เช่นนั้นก็จะเป็นญาติที่มีบ้านติดกันที่ไหว้วานกันมารับ

สำหรับกรณีการออกคูปองทับซ้อน ทาง กสทช.พบว่าเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคูปองล็อตแรก อย่างไรก็ดี บุรุษไปรษณีย์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าต้องแจ้ง จึงนำคูปองที่เหลือตกค้างส่งคืนกลับให้ไปรษณีย์ต้นสังกัดแทน

เมื่อสอบถามไปยังผู้นำชุมชนในพื้นที่ ผู้นำชุมชนกล่าวว่า ได้ใช้ระบบเสียงตามสายแจ้งข่าวให้ไปรับคูปองที่ไปรษณีย์ และไม่ได้ให้มารับที่บ้านตนเองแต่อย่างใด  และหากมีการรับเครื่องรับสัญญาณจากตนเอง ก็จะเป็นการที่ชาวบ้านในความดูแลฝากคูปองเพื่อไปแลกกล่องรับสัญญาณในเมืองเท่านั้น เพราะผู้นำชุมชนเข้าเมืองบ่อยและชาวบ้านในพื้นที่ก็เป็นผู้สูงอายุที่เดินทางลำบาก ส่วนประเด็นการกระจุกตัวของคูปอง ตัวผู้นำชุมชนเองไม่เคยทราบเรื่อง และเท่าที่ทราบจากการทำสื่อวิทยุท้องถิ่นในพื้นที่นี้ก็ไม่มีการกระจุกตัวเช่นนั้น

ภายหลังรับทราบข้อมูลทั้งหมด สุภิญญาได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กรมไปรษณีย์จังหวัด ให้มีการตรวจสอบการทำงานของบุรุษไปรษณีย์อีกครั้ง หากพบว่ามีความผิดจริงต้องมีการลงโทษตามวินัย สุภิญญายังกล่าวด้วยว่า กสทช.อาจต้องมีการประสานงานเชิงนโยบายเพื่อให้มีการบีบบังคับผู้นำชุมชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ให้สามารถหาประโยชน์ได้อีกทางหนึ่ง และอาจต้องมีการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยลงมาตรวจตราในพื้นที่อีกด้วย พร้อมทั้งฝากประสานงานกับหน่วยงานองค์กรชาวบ้านเพื่อคอยเป็นหูเป็นตาต่อไป

อย่างไรก็ดี  เมื่อทำการตรวจสอบสัญญาณ พบว่ายังไม่มาถึงพื้นที่ในตำบลท่าเสา สุภิญญายอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของกสทช.ที่แจกคูปองไปในพื้นที่ที่สัญญาณยังมาไม่ถึง ซึ่งก็จะพิจารณาต่อไปว่าจะมีการยืดเวลาการแลกคูปองเพื่อชดเชยหรือไม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net