พระสุเทพสึกแล้ว หลังบวชหนึ่งปี ประกาศเดินหน้าผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศ 6 ข้อ ตามที่กลุ่ม กปปส.เคยเรียกร้อง เตรียมแถลงข่าววันที่ 30 ก.ค.นี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำบุญตักบาตรหลังลาสิกขาที่วัดไตรธรรมาราม จ.สุราษฎร์ธานี (ที่มา: เฟซบุ๊คเอกนัฏ พร้อมพันธุ์)
28 ก.ค. 2558 - เมื่อเวลา 05.19 น. พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมด้วยพระชินวรณ์ จันทสาโร พระเชน เทือกสุบรรณ และพระธีรภัทร พริ้งศุลกะ อดีต ส.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมพิธีลาสิกขาที่วัดไตรธรรมาราม อ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 เป็นพระอุปัชฌาย์ทำพิธีลาสิกขาให้ ท่ามกลางอดีตแกนนำ กปปส. และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม
โดยหลังจากลาสิกขาแล้วอดีตพระสุเทพได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายจุดสีฟ้า บริเวณหน้าอกด้านขวาปักธงชาติ ด้านซ้ายสัญลักษณ์ กปปส. สวมกางเกงขายาวสีครีม
เมื่อเสร็จพิธีลาสิกขา นายสุเทพ และคณะ ได้เดินทางไปยังสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมทำบุญตักบาตรพระบวชใหม่และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ที่วัดท่าไทร อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นวัดที่มีพระครูพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าอาวาส และทำพิธีอุปสมบทให้พระสุเทพ เมื่อปีที่แล้ว และหลังจากนี้ นายสุเทพจะอยู่ที่วัดเป็นเวลา 3 วัน และจะเดินทางกลับไปแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่ กทม.ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้
สุเทพ กล่าวหลังลาสิกขาว่า ที่ลาสิกขาครั้งนี้เพราะมีภารกิจที่ต้องดำเนินการต่อ โดยจะดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย และเคลื่อนไหวในภาคประชาชนตามที่เคยระบุ คือ เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศ 6 ข้อ ที่กลุ่ม กปปส.เคยเรียกร้องให้มีการดำเนินการ
เขากล่าวถึงสิ่งที่ได้จากการบวชพระ 1 ปีที่ผ่านมาว่า การบวชพระในครั้งนี้ได้หลายด้านทั้งการใช้ชีวิตแบบสมถะ ตามหลักพระพุทธศาสนา การมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น รวมถึงการฝึกสมาธิเพื่อให้เกิดสติ ใช้ชีวิตหลังจากนี้ เพื่อการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยในรูปแบบภาคประชาชน รวมถึงการต่อสู้คดีที่มีอยู่จำนวนมาก
สุเทพ ระบุว่า ที่ผ่านมาก็ได้เดินทางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง แม้จะบวชเป็นพระไม่ได้บวชพระเพื่อหนีคดีแต่อย่างใด สำหรับทุกคดี มีความพร้อมขึ้นมากที่จะต่อสู้ แต่ก็มีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และไม่อยากให้มีการนิรโทษกรรมให้กับตนเองเกิดขึ้น แม้คดีของตนเองในบางข้อกล่าวหามีโทษสูงถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ตาม รวมถึงผู้ที่โดนคดีหมิ่นเบื้องสูงและคดีร้ายแรงอย่างอื่น ก็ไม่ควรนิรโทษกรรม ควรให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่สำหรับประชาชนทั่วไปที่ร่วมดำเนินการต่อสู้ทางการเมือง ควรนิรโทษกรรมให้บุคคลเหล่านี้
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จะมีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันที่ 30 ก.ค. นี้ โดยเชื่อว่า ตามแนวทางการปฏิบัติเดิม ของ คสช. ทาง นายสุเทพ คงจะได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาทราบในรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาหรือข้อมูลต่างๆ ที่จะมีการนำเสนอ ซึ่งก็คงเป็นไปตามแนวทางเดิมที่ทาง คสช. เคยขอความร่วมมือไว้กับหลายๆ บุคคลหรือหลายๆ กลุ่มเหมือนในห้วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เท่าที่ได้ทราบในเบื้องต้นจากสื่อเห็นว่า จะเป็นเรื่องในทางสังคมเกี่ยวกับมูลนิธิฯ และเรื่องของอนาคตสังคมไทยเชิงสร้างสรรค์ และยังไม่ได้รับข้อมูลว่าจะมีแนวทางการให้ข้อมูลไปในลักษณะไปกระทบความขัดแย้ง หรือเป็นเรื่องของการเมือง แต่ทั้งนี้ อาจต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมกับหน่วยในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
ที่มา: มติชนออนไลน์, เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ และไอเอ็นเอ็น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)