Skip to main content
sharethis

ชาวมุสลิมสายบุรีร่วมละหมาดฮายัตขอความสงบสุขกลับคืน ด้านเครือข่ายชาวพุทธขอคืนวิถีพุทธชายแดนใต้ ไม่เห็นด้วยสั่งพระงดบิณฑบาต ขอเข้าพรรษาเป็นเดือน “เข้าพรรษาเพื่อสันติ”


มุสลิมร่วมพันละหมาดฮายัตขอสงบสุขกลับคืน

เช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ที่สนามหน้าที่ว่าการ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้นำศาสนา นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และประชาชนในพื้นที่ ประมาณ 1,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตเพื่อขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว พร้อมถือป้ายผ้าที่มีข้อความประณามการก่อเหตุความรุนแรง โดยเฉพาะต่อผู้นำศาสนาและประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการความรุนแรงทุกรูปแบบ

การละหมาดฮายัตครั้งนี้ มีขึ้นหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองพระภิกษุเมื่อเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 3 ราย พระภิกษุมรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บอีก 1 รูป ชาวบ้านบาดเจ็บอีก 2 ราย


ภาพโดย Tuwaedaniya Meringing


เรียกร้องขอคืนวิถีพุทธชายแดนใต้

ขณะที่เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพได้ออกแถลงการณ์“ขอคืนวิถีพุทธ” โดยระบุว่า ตามที่แม่ทัพภาค 4 ส่งหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการให้พระสงฆ์งดบิณฑบาตตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป อันเป็นผลเนื่องมาจากเกิดการณ์ที่สายบุรีนั้นเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ และกลุ่มองค์กรภาคี อันประกอบด้วยเครือข่ายชุมชนเพื่อสันติชายแดนใต้ (31 ชุมชน), ชมรมพุทธรักษาจังหวัดชายแดนใต้ และเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ร่วมกันเสนอข้อเรียกร้องไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ดังต่อไปนี้

1. เนื่องจากการบิณฑบาต เป็นกิจของสงฆ์ ที่จะต้องเดินโปรดสัตว์และรับบิณฑบาตจากชาวบ้าน จึงขอเรียกร้องให้กองกำลัง 3 ฝ่าย ดูแลเส้นทางของการเดินบิณฑบาต เพื่อความปลอดภัยของพระภิกษุสงฆ์ มากกว่าการให้พระภิกษุสงฆ์งดการบิณฑบาต

2. เนื่องจากเดือนสิงหาคม เป็นเดือนแห่งการเข้าพรรษา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอเรียกร้องให้จัดกำลังเพื่อดูแลพระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน อย่างเคร่งครัด

3. ให้ถือว่า เดือนแห่งการเข้าพรรษา เป็น “เข้าพรรษาเพื่อสันติ”

4. ขอให้คืนวิถีพุทธ โดยการให้ปฏิบัติศาสนากิจ และทำนุบำรุงศาสนาตามวันและเวลาตามวิถีดั้งเดิม

นายรักษ์ชาติ สุวรรณ จากเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพเปิดเผยว่า คำสั่งให้พระภิกษุงดบิณฑบาตนั้นทำให้คนไทยพุทธในพื้นที่รับไม่ได้ เพราะทำให้วิถีพุทธในพื้นที่ยิ่งเปลี่ยนแปลงไป

“เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพและเครือข่ายจึงขอเรียกร้องให้ประเพณีต่างๆ ที่คนไทยพุทธปฏิบัตินั้น สามารถกลับมาปฏิบัติได้ตามเดิม ส่วนการดูแลความปลอดภัยนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว ที่จะต้องดูแลตามความสมเหมาะของแต่ละพื้นที่” นายรักษ์ชาติ กล่าว


10 ปีวิถีพุทธที่ต้องเปลี่ยนไป

นายรักษ์ชาติ เปิดเผยด้วยว่าตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ส่งผลให้การปฏิบัติตามวิถีพุทธหรือประเพณีของคนไทยพุทธในพื้นที่ต้องเปลี่ยนไป เช่น ต้องเปลี่ยนเวลาเวียนเทียนช่วงก่อนเข้าพรรษาจาก 19.00 น.ไปเป็นช่วงเย็น พิธีรดน้ำศพจากเดิม 19.00 น.ไปเป็นช่วงกลางวัน รวมถึงงานเลี้ยงแต่งงานของคนไทยพุทธก็ต้องทำช่วงกลางวันด้วยเพราะกลัวความไม่ปลอดภัยของแขกที่มาร่วมงาน

นายรักษ์ชาติ เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้กิจกรรมต่างๆ ในชุมชนที่คนไทยพุทธกับคนมุสลิมอาศัยอยู่ร่วมกันก็หายไปด้วย เช่น การเกี่ยวข้าวร่วมกัน เป็นต้น

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net