คสช.เตือน ฟังสื่อวิเคราะห์เหตุระเบิดอาจคลาดเคลื่อน ควรฟังราชการเท่านั้น

ศูนย์ติตดามสถานการณ์ คสช. แถลงว่าได้ติดต่อครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์รวม 20 ราย เพื่อขอรับความช่วยเหลือแล้ว พร้อมเตือนประชาชนรับฟังสื่อ-นักวิเคราะห์ไทยเทศ อาจมีการชี้นำและคาดเคลื่อน เพราะสืบค้นเอง แหล่งอ้างอิงไม่ครบ จึงต้องติดตามข้อมูลจากทางราชการเท่านั้น

27 ส.ค. 2558 - เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ ศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงความคืบหน้าปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายหลังเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์-สาทร โดยมี ร.ต.หญิง ปริยา เนตรวิเชียร แถลงเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนพงศ์พิสุทธิ์ วงศ์วีรสิน แถลงเป็นภาษาจีน (รับชมคลิปทาง ThaiPBS)

พ.อ.วินธัย อ้างว่าเป็นที่น่ายินดีว่าองค์การท่องเที่ยวโลก ได้ออกมาแสดงความชื่นชมรัฐบาลและภาคเอกชนของไทยที่สามารถจัดการต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเช่นเดิม

ด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ สำหรับในด้านการสืบสวนทางคดี พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ขอยืนยันว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด และด้วยสาเหตุใด เนื่องจากต้องการให้การสืบสวนครอบคลุมในทุกมิติ

ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิต เมื่อวานนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดให้มีการประชุมหารือกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตกับเหตุการณ์ที่แยกราชประสงค์ให้มีความเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยในชั้นต้นที่ประชุมมีมติให้นำข้อมูลอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากหลายๆ ประเทศมาประกอบการพิจารณา

โดยยึดหลักการสำคัญคือ ต้องให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและรวดเร็วภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ ที่ประชุมกำหนดให้มีการหารือกันอีกครั้ง ในวันศุกร์นี้ (28 ส.ค.)

สำหรับผลความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจำนวน 20 รายนั้น ปัจจุบันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือจำนวน 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร มูลนิธิสิริวัฒนภักดี สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว และเงินพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย ได้รับการติดต่อเพื่อมาขอรับเงินตามสิทธิที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบันประชาชนยังคงให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ในหลายมุมมอง รวมถึงจัดทำสื่อเผยแพร่ในลักษณะของแผนผังหรือคลิปวีดีโอเหตุการณ์จำลอง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าว มักถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานความคิดเห็นส่วนบุคคลและการสืบค้นข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีแหล่งอ้างอิงไม่ครบถ้วน ก่อให้เกิดการชี้นำหรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลที่ถูกเผยแพร่โดยหน่วยงานของทางราชการเท่านั้น พ.อ.วินธัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้เนื้อหาการแถลงของ คสช. วันนี้ เกิดขึ้นหลังจากสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ต่างๆ นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ รวมทั้งหลักฐานที่พบจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ได้จัดเสวนาหัวข้อ "ระเบิดในกรุงเทพฯ: ที่จริงแล้วเรารู้อะไรบ้าง" (The Bangkok Bombing: What do we really know?) โดยเชิญแอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์ประจำประเทศไทยของนิตยสาร IHS Jane's Intelligence Review

โดยแอนโทนี่ ให้ความสนใจกับรูปแบบของระเบิดที่ใช้ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบอุตสาหกรรม (industrial type) คือใช้เทคโนโลยีสูง และเทคนิคที่ใช้ไม่ได้เป็นแบบภาคใต้ และเขาให้ความสนใจกับกลุ่ม "Grey Wolves" ซึ่งเป็นกลุ่มเชื้อชาติเติร์กนิยมสุดโต่ง และเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงในหลายประเทศ และมีบทบาทสนับสนุนการโจมตีสถานทูตไทยในตุรกีหลังเหตุการณ์ส่งกลับชาวอุยกูร์ไปประเทศจีน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท