Skip to main content
sharethis
'กลุ่มอีสานใหม่' ออกแถลงการณ์ "มาตรา 44 ไม่ยั่งยืน สองมือสองเท้าของประชาชนยั่งยืนกว่า" ระบุกรณีมีข่าว 'ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์' ขอให้นายกใช้อำนาจตาม ม. 44 เพื่อยกเลิกเหมืองทองคำทั่วประเทศนั้น เป็นพวกที่อยู่ส่วนบนส่วนใหญ่ของขบวนการประชาชนในสังคมไทย และสนับสนุนให้เกิดรัฐประหารทั้งสองครั้ง
 
20 ก.ย. 2558 กลุ่มอีสานใหม่ ออกแถลงการณ์ "มาตรา 44 ไม่ยั่งยืน สองมือสองเท้าของประชาชนยั่งยืนกว่า" ระบุกรณีมีข่าว 'ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์' ขอให้นายกใช้อำนาจตาม ม. 44 เพื่อยกเลิกเหมืองทองคำทั่วประเทศ คือพวกที่อยู่ส่วนบนส่วนใหญ่ของขบวนการประชาชนในสังคมไทย สนับสนุนให้เกิดรัฐประหารทั้งสองครั้ง โดยมีรายละเอียดทั้งหมดของแถลงการณ์ดังนี้
 
แถลงการณ์
มาตรา 44 ไม่ยั่งยืน สองมือสองเท้าของประชาชนยั่งยืนกว่า
 
จากการเคลื่อนไหวของภาคปะชาชนตั้งโต๊ะล่า 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อยื่นกับรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. ให้ยกเลิกร่างนโยบายการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีการนัดรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อให้แก่พลเอกประยุทธ์ในวันที่ 22 กันยายน 2558 นี้ ขบวนการอีสานใหม่ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับภาคประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ออกมาร่วมแรงร่วมใจเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ เพราะการทำเหมืองแร่ทองคำมีปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาวะอนามัยของประชาชนที่อยู่รายรอบเหมืองรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
 
ในเบื้องต้น พลังของภาคประชาชนที่ประโคมข่าว แชร์ข้อมูลต่อ ๆ กันไปทางสื่อสังคมออนไลน์ได้ส่งผลให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ยอมถอยด้วยการยกเลิกการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างนโยบายฯดังกล่าวเมื่อกลางเดือนกันยายน 2558 ออกไปก่อนชั่วคราว เพราะเห็นว่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ขออนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำยังไม่ได้รับทราบข้อมูลทั่วถึงและเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
 
นับว่าเป็นโอกาสดีที่พลังประชาชนในบรรยากาศรัฐประหารยังมีคุณค่าต่อสังคม จึงทำให้อย่างน้อยร่างนโยบายฯ ดังกล่าวยังไม่ถูกประกาศใช้ ส่งผลให้อย่างน้อย 12 จังหวัดทั่วประเทศที่ 13 บริษัทเอกชนยื่นขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำเอาไว้แล้วหยุดชะงักเอาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว ไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการขอสัมปทานสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำต่อไปได้
 
และยิ่งเป็นโอกาสดียิ่งขึ้นที่พลังประชาชนได้นัดหมายรวมตัวกันในวันที่ 22 กันยายน 2558 ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือพร้อมสองหมื่นรายชื่อคัดค้านให้ยกเลิกร่างนโยบายฯดังกล่าวให้เด็ดขาดเป็นการถาวรยิ่งขึ้นไป
 
แต่ในระหว่างนี้กลับมีข่าวที่บ่อนทำลายขบวนการเคลื่อนไหวของประชาชนให้มีพลังลดลงไปโดยการเสนอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ยุติเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ดังหัวข้อข่าวเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2558 “ดร.อาทิตย์ หนุนนายกฯใช้มาตรา 44 ยุติเหมืองแร่ทองคำทั่ว ปท.” ที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา
 
ขบวนการอีสานใหม่เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นทัศนะของคนมีการศึกษาที่เห็นแก่ตัว ซึ่งจะทำให้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จและครอบจักรวาลเช่นมาตรา 44 อยู่เหนือกฎหมายปกติทั่วไปมากเกินไป และอยู่นานเกินไปในสังคมไทย ซึ่งจะเป็นผลเสียหายในระยะยาวต่อบ้านเมือง เพราะยิ่งจะทำให้กฎหมายที่มีอยู่และการตรากฎหมายใหม่ ๆ ขึ้นมาใช้บังคับห่างจากการยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
 
ในขณะที่ด้านหนึ่งประชาชนเรียกร้องโหยหาสิทธิและเสรีภาพจากการที่รัฐประหารได้ลิดรอนมันไปจากร่างกายและชีวิตจิตใจเรา พวกเขาเหล่านั้นได้เสียสละต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรมเพื่อทำให้สังคมทั้งสังคม ประชาชนทั้งปวงได้สิทธิและเสรีภาพกลับคืนมา สิทธิและเสรีภาพที่จะพูด เขียน คิด แสดงออก สิทธิและเสรีภาพที่จะชุมนุมต่อต้านรัฐและนายทุน เพื่อเป็นหลักประกันพื้นฐานให้ประชาชนทุกคนมีความเท่าเทียมกัน แต่กลับถูกจับกุมคุมขัง กดขี่ข่มเหงห้ามแสดงออกใด ๆ ต่อการท้าทายอำนาจรัฐและนายทุน แต่เรากลับนิ่งเฉยไม่เรียกร้องต่อสู้ให้กับคนที่ถูกจับกุมคุมขังเหล่านั้น ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นเรียกร้องต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพให้กับพวกเรา
 
แต่กลับมีคนมีการศึกษาไม่กี่คนที่อยู่ส่วนบนของขบวนการประชาชนสยบยอม สมยอม เชิญชวน ยินดีปรีดาให้ใช้อำนาจรัฐประหารขึ้นในบ้านเมือง เหยียบย่ำสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั่วไปเสียจนไม่ใยดี แต่กลับมาเรียกร้องให้แก้ปัญหาเฉพาะประเด็นของตนเอง
 
ทัศนคติของพวกที่อยู่ส่วนบนของขบวนการประชาชนเป็นทัศนคติที่ทำลายพลังประชาชน ทำให้ประชาชนเสพติดนิยมชมชอบคนมีอำนาจ ไม่เชื่อมั่นในพลังของตนเองที่ชูเป็นคำขวัญหลอกลวงสังคมมาอย่างยาวนานว่า “ประชาชนต้องกำหนดอนาคตตนเอง”
 
หากมาตรา 44 เป็นอำนาจพิเศษทำให้นายกรัฐมนตรีเป็นยอดมนุษย์ผู้มีบุญญาบารมีได้ นอกจากขอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ยุติเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศแล้ว ก็น่าที่จะให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ยกเลิกโครงการพัฒนาที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อประชาชนให้หมดสิ้นไปด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ผลักดันประเด็นของตัวเองอย่างเห็นแก่ตัวเช่นนี้
 
สิ่งที่สังคมไทยต้องจดจำเอาไว้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นบทเรียนคล้าย ๆ กันกับกรณีนี้ที่ขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อยกเลิกเหมืองทองคำทั่วประเทศ ก็คือพวกที่อยู่ส่วนบนส่วนใหญ่ของขบวนการประชาชนในสังคมไทยสนับสนุนให้เกิดรัฐประหารทั้งสองครั้ง เพราะเห็นว่าพวกเขาใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจหรือสามารถต่อท่อกับอำนาจรัฐประหารได้เพื่อที่จะนำประเด็น/พื้นที่/กรณีปัญหาที่ตัวเองทำงานอยู่ได้รับการแก้ไข เช่น หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าหากล้มรัฐบาลทักษิณและยิ่งลักษณ์จะทำให้หยุดยั้งแผนพัฒนาภาคใต้เอาไว้ได้ หรือล่าสุดเคลื่อนไหวเพื่อหยุดยั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เป็นต้น แต่สิ่งที่ได้มาเพื่อแลกกับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เหล่านั้นนั่นคือรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. ออกกฎหมายห้ามชุมนุม ส่งผลให้ประชาชนทั่วประเทศที่ต้องต่อสู้คัดค้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่หมดสิ้นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมไปโดยพลัน
 
อย่าได้ร้องขออำนาจที่ไม่ชอบธรรมใด ๆ อีกเพียงเพื่อขอให้แก้ไขแต่ประเด็นที่พวกที่อยู่ส่วนบนของขบวนการประชาชนให้ความสนใจ โดยเหยียบย่ำประชาชนส่วนที่เหลืออีกส่วนใหญ่ให้จมดิน
 
ด้วยความเคารพ
ขบวนการอีสานใหม่
20 กันยายน 2558
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net