Skip to main content
sharethis

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ในคดีเผาศาลากลางจังหวัดในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง 19 พฤษภาคม 2553 โดยมีคำสั่งให้ลดโทษจำคุกของจำเลยลง 1 ใน 4 คงเหลือจำคุกคนละ 15 ปี จากเดิมที่ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกจำเลยทั้ง 13 คนๆ ละ 20 ปี

ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลดโทษโดยให้ความเห็นว่าจำเลยทั้งหมดได้ให้การนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา โดยยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงตามที่ปรากฎในหลักฐานภาพถ่าย แม้ว่าจะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการเผาสถานที่ราชการตามข้อกล่าวหาของโจทก์ 

นายอานนท์ นำภา ทนายความระบุว่า ทีมทนายกำลังติดต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอหลักทรัพย์มาประกันตัวจำเลยซึ่งมีฐานะยากจนเพื่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ในวันพิพากษา มีจำเลยมาฟังคำพิพากษาเพียง 3 คน ได้แก่ นายวิชัย อุสุพันธ์ นายสมัคร ลุนรีลา และนายณัฐวุฒิ พิกุลศรี ส่วนนายประคอง ทองน้อย ผู้ต้องหาหนึ่งใน 13 คน ได้เสียชีวิตไปในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี ขณะที่นายดวง คนยืน นายทวีศักดิ์ แข็งแรง นายณัฐวุฒิ พิกุลศรี นายไมตรี พันธ์คูน นายวิชิต อินตะ นายพนม กันนอก นายวินัย ปิ่นศิลปชัย  นายแก่น หนองพุดสา นายทินวัฒน์ เมืองโคตร รวม  9 คน ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาตามหมายศาล

เหตุการณ์การเผาศาลากลาง จ.มุกดาหารเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 19 พ.ค. 2553 หลังจากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.บริเวณแยกราชประสงค์ ทำให้คนเสื้อแดงในภาคอีสานเกิดความโกรธแค้น และรวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางหลายจังหวัด และต่อมามีการเผาศาลากลางและสถานที่ราชการในภาคอีสาน 4 แห่ง ได้แก่ อุบลราชธานี, อุดรธานี, ขอนแก่นและมุกดาหาร

ในกรณีการเผาสถานที่ราชการ จ.มุกดาหาร โดยเบื้องต้นได้มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 29 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 1 คน ต่อมาวันที่ 27 ต.ค.2554 ศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้เอาผิดจำเลยเพียง 13 คน  โดยให้จำคุกคนละ 20 ปี ส่วนที่เหลืออีก 16 คนศาลยกฟ้อง และอัยการไม่ได้ยื่นอุทธรณ์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ต้องขัง 13 คนก็ประกันตัวและได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษหลักสี่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2555 หลังถูกขังมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี โดยใช้งบประมาณจากกองทุนยุติธรรมจำนวน 26 ล้านบาทเป็นหลักทรัพย์ เฉลี่ยแล้วรายละ 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ เหตุผลที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้ง 13 รายนั้นพิจารณาจากภาพถ่ายที่โจทก์นำสืบทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลยช่วยกันขนยางเข้าไปในศาลากลาง มีการวางแผนและแบ่งหน้าที่กัน จึงให้จำคุกดังกล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net