Skip to main content
sharethis

20 ต.ค. 2558 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. วันนี้ (20 ต.ค.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ความมั่นคงแห่งชาติ ที่เสนอโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีสาระสำคัญ ให้มีการปรับปรุง พ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2502 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และการแจ้งเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้อธิบายในที่ประชุมเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาความมั่นคงแห่งชาติที่ใช้มาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมระยะเวลากว่า 56 ปี โดยมีการปรับแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่วันนี้มิติด้านความมั่นคงเปลี่ยนแปลงไป จึงมีการปรับแก้ไขให้มีความทันสมัยกับสถานการณ์ อาทิ การแก้ไขโครงสร้างความมั่นคงที่ผ่านมามีแต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างเดียว แต่จะเพิ่มคณะกรรมการที่เป็นฝ่ายนักวิชาการ ฝ่ายเศรษฐกิจเข้าไปด้วย เพราะปัจจุบันมิติความมั่นคงเกี่ยวข้องกับสังคม การเมือง เศรษฐกิจและภาควิชาการ

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า จะมีการจัดตั้งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อจะทำแผนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงนำเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และครม.ออกมาเป็นแผนลักษณะเหมือนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องนำแผนดังกล่าวไปดำเนินการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินด้วยซึ่งในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขดังกล่าว

ทั้งนี้ กำหนดให้มีสภาความมั่นคงแห่งชาติจะประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธาน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)  ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  และผู้ทรงคุณวุฒิอีก 3 คนที่ ครม.แต่งตั้ง ร่วมเป็นกรรมการ  ให้สามารถเสนอแนะ และให้ความเห็นในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติในมิติด้านความมั่นคง

นอกจากนี้ ให้จัดทำนโยบายความมั่นคงเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ครม. และเสนอต่อสภาฯ ให้เห็นชอบ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติการกำหนดแผนบริหารราชการแผ่นดิน โดยให้มีแผนงานและโครงการรองรับ และให้สำนักงบประมาณจัดงบสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายความมั่นคงแห่งชาติด้วย 

 

ที่มา สำนักข่าวไทย และมติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net