Skip to main content
sharethis

กลุ่มไม่ทราบฝ่ายได้โพสต์แถลงการณ์ค้านรัฐบาลไทยทำซิงเกิลเกตเวย์ ต่อจากนั้นมีการรีทวีตโดยกลุ่มนิรนาม 3 กลุ่ม รวมทั้ง @F5CyberArmy ซึ่งต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ในไทยด้วย - ขณะที่เพจระดมกด F5 อ้างความสำเร็จถล่มเว็บกรมการเงินทหาร บก.สส. จนชะงัก 3 ชั่วโมง พร้อมนัดกด F5 อีกรอบ 27 ต.ค.

แถลงการณ์ หัวข้อ "Anonymousasia #OpsingleGateway" ซึ่งถูกโพสต์ในเว็บไซต์ pastebin.com

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 15.17 น. ตามเวลา CDT หรือวันที่ 22 ตุลาคม เวลา 03.17 น. ตามเวลาประเทศไทย มีกลุ่มไม่ทราบฝ่ายโพสต์แถลงการณ์ หัวข้อ "Anonymousasia #OpsingleGateway" ลงในเว็บไซต์ pastebin.com โดยใช้บัญชีว่า "guest" โดยเว็บดังกล่าว เป็นเว็บที่ให้บริการโพสต์ข้อความเปล่าแบบไม่ได้จัดรูปแบบ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ส่งซอร์สโค้ดของโปรแกรมเมอร์ โดยข้อความที่โพสต์ในเว็บดังกล่าวจะลบตัวเองอัตโนมัติภายในเวลา 30 วัน

หลังจากนั้นเวลา 03.32 น. วันที่ 22 ตุลาคม ตามเวลาประเทศไทย ทวิตเตอร์บัญชี @LatestAnonNews ซึ่งมีผู้ติดตาม 46.1 หมื่นบัญชี ได้รีทวีตแถลงการณ์ดังกล่าว

 

และในเวลาไล่เลี่ยกันมีทวิตเตอร์บัญชี @anonymousAsia และ @F5CyberArmy ได้รีทวีตแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งกลุ่ม @F5CyberArmy เป็นกลุ่มที่่ประกาศต่อต้านโครงการซิงเกิลเกตเวย์ในไทย

ทั้งนี้มีเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ในไทยบางฉบับ ระบุว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นของกลุ่ม Anonymous แฮกเกอร์นิรนามที่เคยเจาะระบบของหน่วยงานของรัฐและบรรษัทในสหรัฐอเมริกา และภาคพื้นยุโรป อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นแถลงการณ์ของแฮกเกอร์กลุ่ม Anonymous

ขณะที่ทวิตเตอร์บัญชี @LatestAnonNews ที่เริ่มรีทวีตแถลงการณ์ดังกล่าวนั้น นิยามตัวเองไว้ว่า "เป็นนักสู้เพื่อเสรีภาพทั่วโลก ข่าวด่วน ขบวนการยึดครอง (occupy movements) และปฏิบัติการของฝ่ายนิรนาม (Anonymous) จะถูกรายงาน"

ขณะทีโพสต์รีทวีตของ @LatestAnonNews มีผู้ถามทวิตเตอร์ @F5CyberArmy ว่า "ใช่ผลงานคุณหรือไม่" โดย @F5CyberArmy ตอบว่า "Anonymous เป็นครอบครัวหนึ่ง, การเซ็นเซอร์หรือการกดขี่ใดๆ จะอยู่ในความสนใจของพวกเรา"

ขณะที่ทวิตเตอร์ของ @YourAnonNews ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.46 ล้านบัญชี ได้รีทวิตแถลงการณ์ดังกล่าวเมื่อเวลา 23.00 น. เศษ ของวันที่ 22 ต.ค. 58 ตามเวลาในประเทศไทย หรือ 20 ชั่วโมงหลังจากที่แถลงการณ์ดังกล่าวถูกรีทวีตโดย @LatestAnonNews  

 

แถลงการณ์ระบุไม่มีระบบดักข้อมูลใดหยุดภัยคุกคามความมั่นคงได้
มีแต่จะอำนวยให้รัฐบาลและบรรษัททำกำไร และเสรีภาพประชาชนจะลดน้อยลง

ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ "Anonymousasia #OpsingleGateway" ระบุว่า "เราติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา, ซึ่งมีการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น, การประท้วง และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานต่อใครก็ตามที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาลทหารไทย"

"โครงการล่าสุดของรัฐบาลทหารคือการเตรียมนำ 'ซิงเกิลเกตเวย์' มาใช้ เพื่อควบคุม ดักข้อมูล และจับกุมใครก็ตามที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลทหารและสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าศีลธรรมอันดี"

"ไม่มีระบบดักข้อมูลแบบใดที่จะหยุดการโจมตีของผู้ก่อการร้าย หรือภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ ไม่น่าจะเป็นประเทศในเอเชียหรือตะวันตก มีแต่จะอำนวยให้รัฐบาลจอมละโมบและบริษัทขนาดใหญ่ทำกำไรมากขึ้น และทำให้เสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนในประเทศนี้ลดน้อยลง"

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า "ดินแดนแห่งรอยยิ้ม" จะเป็นเหมือนจีน เกาหลีเหนือหรือประเทศเผด็จการในเร็วๆ นี้ ที่ใช้เครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ในการจารกรรมและดำเนินคดีต่อพลเมืองที่คิดต่าง

แถลงการณ์ยังประณามการตั้งคนของกองทัพไปควบคุมการบริหารงานของผู้ดำเนินการกิจการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศ โดยระบุว่า "เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" พร้อมขู่ว่าบริษัทหรือบุคคลใดที่ช่วยเหลือผลักดันซิงเกิลเกตเวย์อาจตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ไม่ได้ต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์เท่านั้น แต่จะยังเปิดโปงภาวะขาดความสามารถของรัฐบาล ที่ซึ่งมีการทุจริตและผลประโยชน์ส่วนตนปรากฏอยู่ นอกจากนี้ตอนท้ายยังวิจารณ์การแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 6 พันราย โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณจะหยุดเหตุก่อการร้ายรายวันที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่หางบประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐที่จะเซ็นเซอร์พลเมืองของตัวเอง และกล่าวว่า "พี่น้องชาวไทยของพวกเรา" จะเข้าใจว่า "ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย" มีความหมายว่าอะไร โดยในแถลงการณ์ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษนี้ ได้ใช้อักษรไทยเฉพาะถ้อยคำดังกล่าว

 

รอบครึ่งปีหลังเว็บราชการถูกถล่มบ่อย ทั้งแฮกเกอร์ตูนิเซีย และล่าสุดการถล่มด้วย F5

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในรอบครึ่งปีหลังนี้ ระบบอินเทอร์เน็ตของราชการไทยถูกโจมตีบ่อยครั้ง จากหลายกลุ่ม ทั้งการแฮกโดยกลุ่มแฮกเกอร์ต่างชาติ และจากการระดมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจำนวนมากเข้าไปชมเว็บและกดปุ่ม F5 เพื่อระดมเรียกดูข้อมูลจนทำให้เกินขีดความสามารถรองรับได้ของเว็บไซต์

โดยเมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมามีเว็บไซต์ของส่วนราชการ และหน่วยงาน อย่างน้อย 3 แห่งถูกแฮก โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่าฟาลากาทีม (Fallaga Team) ระบุว่ามาจากตูนิเซีย โดยกลุ่มนี้มีการโพสต์ข้อความและภาพระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการฆ่าชาวมุสลิมในพม่า (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)

ขณะที่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. มีการนัดหมายโดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย เข้าไปเรียกอ่านหน้าเว็บกระทรวงไอซีทีและกด F5 ในเวลา 22.00 น. แต่ปรากฏว่าเว็บไซต์กระทรวงไอซีทีล่มตั้งแต่ก่อนเวลา 18.00 น.

นอกจากนี้มีเว็บที่ล่มต่อมา คือ เว็บ กสท www.cattelecom.com, เว็บกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) http://center.isocthai.go.th/, เว็บทำเนียบรัฐบาล http://www.thaigov.go.th/, เว็บสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม http://opsd.mod.go.th/Home.aspx และเว็บทีโอที http://www.tot.co.th ตามลำดับ รวมทั้งเว็บกองบัญชาการกองทัพไทย http://rtarf.mi.th/rtarf_inter/index_new.html  ก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน โดยปรากฏข้อความ "ขอระงับการใช้ชั่วคราว" (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)

 

เพจระดมกด F5 อ้างความสำเร็จหยุดเว็บการเงินของ บก.สส. 

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า เพจของกลุ่ม "พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall" ได้อ้างความสำเร็จว่า ในวันที่ 22 ต.ค. ระหว่างเวลา 10.00 น. - 13.15 น. ได้ทำให้ "ระบบบัญชีและการเงิน ของกรมการเงินทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ไม่สามารถทำงานได้ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง" และมีการนัดหมายเป้าหมายต่อไปในวันที่ 27 ต.ค. เวลา 13.00 น.

โดยระบุว่าเป็นการใช้ "มาตราการขั้นเบา" แบบ "เฉพาะเจาะจงเป้าหมาย เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด" ก่อนที่จะมีมาตรการหนักมากขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้เพจ "พลเมืองต่อต้าน  Single Gateway: Thailand Internet Firewall" เพิ่งคัดลอกและเผยแพร่ทวิตเตอร์ของ @LatestAnonNews เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 22 ต.ค. หรือ 20 ชั่วโมงภายหลังจากที่แถลงการณ์ถูกเผยแพร่ใน pastebin.com และ 16 ชั่วโมงภายหลังจากที่แถลงการณ์ถูกรีทวีตโดย @LatestAnonNews

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net