Skip to main content
sharethis

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ออกแถลงการณ์ ขอคสช. ปล่อยตัวผู้ร่วมกิจกรรม “นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” โดยไม่มีเงื่อนไข

7 ธ.ค.2558 จากกรณีที่กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาได้จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” โดยนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุว่าเพื่อเป็นตัวแทนภาคประชาชนร่วมตรวจสอบการทุจริตในการจัดสร้าง และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ตัดตู้รถไฟและปิดล้อมไว้เพื่อไม่ให้เดินทางต่อไปยังอุทยานราชภักดิ์ รวมถึงเข้าจับกุมประชาชนผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดไว้ และนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.09 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ New Democracy Movement – NDM’ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ ต่อกรณีการจับกุมตัวดังกล่าว โดยนอกจากมีกลุ่ม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ร่วมลงชื่อแล้ว ยังมีกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา กลุ่มดาวดิน กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน (CCP) กลุ่มลูกชาวบ้าน กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ กลุ่มเสรีนนทรี และภาคีนักศึกษา นักกิจกรรม เพื่อสังคม รวมลงชื่อในแถลงการณ์ด้วย

โดยระบุว่า ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีความเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ครั้งที่ระบอบเผด็จการทหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ละเมิดสิทธิลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ในครั้งนี้ ประชาชนได้ใช้สิทธิในการตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาล งบประมาณจากภาษีที่พวกเขายินยอมสละให้เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม มิใช่เพื่อเข้ากระเป๋าของคนเพียงบางกลุ่ม และเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นคือสิ่งที่พวกเขาได้รับจากรัฐบาล คสช.

ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำดังกล่าวยิ่งเป็นการส่อให้เห็นว่ามีการทุจริตเบื้องหลังโครงการอุทยานราชภักดิ์จริง ยิ่งปิดกั้น ก็เท่ากับยิ่งเปิดเผยว่าเผด็จการทหารนั้นโกงกิน และที่อ้างว่ารัฐประหารเพื่อปราบคอร์รัปชันนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ กิจกรรมในครั้งนี้จึงไม่ได้ประสบความล้มเหลว หากแต่เป็นชัยชนะของประชาชนที่ได้ลอกคราบคนดี เปิดโปงธาตุแท้ของเผด็จการทหารให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้น

“ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารปล่อยตัวประชาชนผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไขภายในวันนี้ หากไม่ยอมปฏิบัติตาม เราจะดำเนินมาตรการเพื่อกดดันให้ถึงที่สุดและเราจะไม่หยุดการตรวจสอบการทุจริตแต่เพียงเท่านี้ เราจะขอตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ต่อไป จนกว่าจะได้รู้ทุกข้อเท็จจริงที่เผด็จการทหารพยายามปิดบังจากสายตาประชาชน” แถลงการณ์ระบุ

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ขอคสช ปล่อยผู้ถูกจับกุม โดยไม่มีเงื่อนไข

ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ต่อกรณีดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า ขอแถลงข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ ดังนี้

1. ขอให้คสช.และรัฐบาล ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทุกคน โดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ตามหลักสิทธิและเสรีภาพที่พลเมืองไทยสามารถเดินทางในราชอาณาจักรไทยได้อย่างเสรี และการเดินทางโดยทางรถไฟของนักศึกษา ก็มิได้ละเมิดสิทธิของประชาชนผู้อื่นแต่อย่างใด ตรงกันข้าม การที่ตำรวจเข้าสกัดขบวนรถไฟและตัดตู้โดยสารต่างหากที่กระทบต่อการเดินทางของประชาชนคนอื่นๆ ในขบวนรถเดียวกัน

2. การจัดกิจกรรม "นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง" เป็นเพียงการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะตั้งข้อสงสัยต่อการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ ส่วนรัฐบาลและกองทัพบกมีหน้าที่ชี้แจงข้อสงสัยต่อประชาชน และสังคมจะได้ใช้วิจารญาณว่า คำชี้แจงและข้อมูลของรัฐบาลนั้นมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือเพียงใด เครือข่ายนักวิชาการฯ ขอให้ คสช. และรัฐบาลตระหนักว่า จะต้องเอาชนะความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ด้วยการข่มขู่ คุกคาม และใช้ความรุนแรง

3. เครือข่ายนักวิชาการฯ ตระหนักดีว่า ย่อมมีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมของนักศึกษา จึงขอเสนอแนะให้ได้โปรดแสดงออกอย่างสันติ ไม่ละเมิดสิทธิ ไม่ทำร้าย และไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่เห็นแตกต่าง เป็นเรื่องปกติที่ในสังคมย่อมมีผู้ที่เห็นแตกต่าง ดังนั้น การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นอย่างสันติ คือแนวทางของการอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ด้วยการใช้ความรุนแรง

“สุดท้ายนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องพลเมืองที่ถูกละเมิดสิทธิ และยินดีที่จะใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยให้ คสช. รัฐบาล นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ถกเถียงกันบนพื้นฐานของข้อมูลอย่างสันติ”  แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ระบุ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net