ประมวลสถานการณ์คุมตัวคณะ ‘นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’

7 ธ.ค. 2558 ประมวลสถานการณ์การควบคุมตัวคณะกิจกรรม ‘นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’ ซึ่งจัดโดยกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวมลำดับเวลาเกิดเหตุไว้ดังนี้

06.30 น. ตำรวจ วางกำลังเข้มสถานีบางกอกน้อย ในเครื่องแบบ 20 คน นอกเครื่องแบบมากกว่า 10 คน สแกนกระเป๋าผู้โดยสาร EOD นำสุนัขตรวจวัตถุระเบิดบนรถไฟ

07.25 น. สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ถึงสถานีรถไฟ พร้อมนักศึกษา ที่ร่วมกิจกรรม จ่านิวเผยนั่งรถไฟขบวน 352 ราชบุรี-ธนบุรี มา ระหว่างทางถูกเจ้าหน้าที่กักขบวนให้หยุด จนเขาต้องนั่งแท็กซี่ต่อมา ประชาชนได้รับผลกระทบด้วย

07.40 น. รถไฟออกจากสถานีรถไฟธนบุรี เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการปิดกั้น ระหว่างทาง บริเวณชานชาลาทุกสถานี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 4-5 นาย ขณะมีรายงานว่าที่หน้าอุทยานราชภักดิ์ สารวัตรทหารได้ปิดทางเข้าออกแล้ว

09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารให้ขบวนรถไฟหยุดที่สถานีบ้านโป่ง และขอควบคุมตัวจ่านิว

09.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัว อานนท์ นำภา ทนายความ ที่ลงจากรถไฟมาอยู่บริเวณชานชาลา

09.45 น. เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจาก มทบ.16 ควบคุมตัว 'การ์ตูน' ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ และ 'หนุ่ย' อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ระบุ 'นาย'สั่งมา

09.50 น. เจ้าหน้าที่นำตัวทนายอานนท์- 2 สมาชิก NDM เข้าไปยังห้องประชุมสถานีบ้านโป่ง อ้างรอ “นาย” และผู้ว่าฯ ไม่อนุญาตให้ใครติดตามเข้า

10.00 น. เจ้าหน้าที่ตัดตู้รถไฟออกจากกัน โดยแยกตู้โบกี้ที่กลุ่มจ่านิวอยู่เพื่อพยายามควบคุมตัวจ่านิว ส่วนขบวนรถที่เหลือจะให้เดินทางต่อ

10.05 น. จนท.ทหารนำตัวชายคนหนึ่ง ยังไม่ทราบชื่อ-สกุล เข้าไปภายในห้องประชุมร่วมกับคนที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ด้วย

10.15 น. ทหารมีการควบคุมตัวสมาชิก NDM อีก 3 คน รวมทั้ง ณัทพัช อัคฮาด ด้วย

10.20 น. ขบวนรถไฟธนบุรี –หลังสวน เคลื่อนออกไปต่อ ขณะเดียวกันมีกลุ่มคน 4-5 คนมาแสดงความไม่พอใจต่อกิจกรรม

10.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัวจ่านิวลงจากตู้รถไฟ ขณะด้านนอกมีการเตรียมรถ ยังไม่ทราบเจ้าหน้าที่จะนำผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดไปที่ใด

10.38 น. ภายในห้องประชุมสถานีรถไฟ มีผู้ถูกควบคุมอยู่ประมาณ 40 คน และมีนายอำเภอบ้านโป่งเดินทางมาถึง รอบสถานีรถไฟมี เจ้าหน้าที่ชุดต่างๆ ตรึงกำลังอยู่มากกว่า 100 นาย ขณะด้านหลังสถานีมีการเตรียมรถบัสทหารไว้ ยังไม่ทราบการดำเนินการต่อไป

11.10 น. เจ้าหน้าที่มีการแยกผู้ถูกควบคุมตัวออกเป็นสองกลุ่ม แล้วนำกลุ่มหนึ่งจำนวน 16 คน ขึ้นรถบัสทหารที่มีกระดาษปิดป้ายชื่อแสดงสังกัด เดินทางออกจากสถานีรถไฟบ้านโป่ง บนรถมีเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบ 4 นาย นอกเครื่องแบบ 5 นาย คนขับไม่ทราบจะเดินทางไปไหน เพียงแต่ขับตามรถตำรวจ ทิศทางมุ่งเข้า กทม.

11.50 น. คนที่เหลืออยู่ที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้จัดกิจกรรม และกลุ่มนักศึกษา ยื่นคำขาดไม่ขึ้นรถเจ้าหน้าที่ โดยที่จะกลับกรุงเทพฯ ด้วยรถส่วนตัว

12.20 น. เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร-ตร. ใช้กำลังเข้าควบคุมตัวคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง รวม 19 คน บังคับขึ้นรถบัสทหารมุ่งหน้าเข้านครปฐม โดยมีรถตำรวจและรถฮัมวี่วิ่งนำหน้า ปิดท้ายด้วยฮัมวี่อีก 2 คัน

12.30 น. รถบัสทหารคันแรกนำผู้ถูกควบคุมตัวจำนวน 17 คน เดินทางไปถึง บก.ควบคุม พล.ร.9 ในอาคารสำนักงานพระพุทธมณฑล

13.30 น. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมาย คสช. และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ เดินทางมาที่ บก.ควบคุม พล.ร.9 สอบถามผู้ถูกคุมตัว เบื้องต้น แจ้งว่าจะทำบันทึกประวัติไว้ โดยยังไม่แจ้งข้อหา แต่ "แชมป์1984" ถูกแยกไปสอบในห้องเดี่ยว และไม่อนุญาตให้ใครติดตามไปด้วย

14.30 น. รถบัสคันที่สอง มาหยุดที่ บก.ควบคุม พล.ร.9 เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนักศึกษา ประชาชน เข้าไปรวมกันในห้องประชุม

14.30 น. ผู้ร่วมกิจกรรมไปอุทยานราชภักดิ์ทั้งหมด 36 คน ถูกควบคุมตัวรวมกันอยู่ที่กองบัญชาการควบคุม พล.ร.9 ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารสำนักงานพระพุทธมณฑล โดยในจำนวนนี้มีทนายความและอาสาสมัครของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนอยู่ด้วย ทั้งหมดถูกสอบประวัติ

15.47 น. เจ้าหน้าที่ทหารปฏิเสธทนายไม่ให้เข้าร่วมห้องที่ควบคุมตัวทั้ง17 คน แจ้งจะค้นโทรศัพท์ทุกคน

16.26 น. ทหารแยกกลุ่มย่อยสอบประวัติคนที่ถูกควบคุมตัวที่ บก.ควบคุมพล ร.9 ทีละ 2-3 คน

16.40 น. เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองมาร่วมสังเกตการณ์แต่ถูกทหารปฏิเสธไม่ให้เข้าไปในห้องเช่นกัน

17.40น.ทหารนำตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวส่วนหนึ่งขึ้นรถบัสและแจ้งว่าจะนำตัวไปปล่อยที่บางกอกน้อย (สถานีรถไฟธนบุรี) โดยผู้ได้รับการปล่อยตัวแจ้งว่ามีการให้เซ็นเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหว หากไม่เซ็นเจ้าหน้าที่จะไม่ปล่อยกลับ และยังมีการยึดเสื้อยืดด้วย

18.20 น. ตำรวจ สภ.พุทธมณฑลมาเชิญคนที่รออยู่ออกจากบริเวณลานจอดรถหน้าอาคาร อ้างระเบียบของพุทธมณฑลอยู่ได้ถึงเวลา18.00 น. 

19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้ผู้ที่ยังถูกควบคุมตัวที่ขณะนี้ยังเหลืออีก 19 คน 

เวลาประมาณ 19.15 น. เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่โดนจับกุมตัวนั้นมีทั้งหมด 38 คน แบ่งเป็นรถสองคัน คันแรกมีลุงๆ ป้าๆ ประชาชนทั่วไปรวม 18 คนในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนาย 1 คน และอีกคันที่มี จ่านิว อานนท์ นักศึกษา นักกิจกรรม ประชาชน รวมแล้ว 19 คน ในจำนวนนี้รวมทนายความและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทนายฯ 2 คนด้วย

เยาวลักษณ์ระบุว่า ในช่วงเย็นที่ผ่านมา ประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัยที่มาร่วมกิจกรรมนี้ได้รับการปล่อยตัวโดยต้องเซ็นเอกสารเงื่อนไขการปล่อยตัวที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถบัสทหารไปส่งยังสถานีรถไฟบางกอกน้อย หลายคนแจ้งว่ากลับถึงบ้านแล้ว ส่วนคันที่สองที่ส่วนใหญ่เป็นนักกิจกรรม นักศึกษา ขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่บนชั้นสองของอาคารสำนักพุทธศาสนาในบริเวณพุทธมณฑล โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ทนายความ อาจารย์ เข้าพบได้โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งผู้บังคับบัญชา ทั้งทนาย อาจารย์ และประชาชนทั่วไปที่มาเฝ้าติดตามสถานการณ์จึงจับกลุ่มรอบริเวณพุทธมณฑลจนถึงเวลานี้ ราว 40 คน ในจำนวนนี้มีโคทม อารียา จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ม.มหิดล เดินทางมาร่วมสมทบด้วยในช่วงเย็นที่ผ่านมา

เยาวลักษณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงก่อนค่ำ เจ้าหน้าที่ได้ให้ทนายความของศูนย์ทนายที่ถูกคุมตัวไว้ออกมาชี้แจงว่าจะปล่อยทุกคน แต่ขอทำบันทึกข้อตกลงไว้

“เราไม่แน่ใจว่า คนที่ถูกควบคุมตัวจะยอมเซ็นบันทึกข้อตกลงแบบชุดที่หนึ่งหรือเปล่า เลยทำให้สถานการณ์ล่าช้าถึงตอนนี้ แต่เราก็จะรอต่อไปจนกว่าจะปล่อยตัว” เยาวลักษณ์กล่าว

เวลาประมาณ 21.00 น. นักศึกษาและประชาชนทั้งหมดจำนวน 19 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังการปล่อยตัวทั้งหมดประกาศเจตนารมณ์จะสู้เพื่อเปิดโปงการทุจริตเกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์ต่อไป

อานนท์ นำภา ทนายความหนึ่งในผู้ถูกควบคุมตัวให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ให้เซ็นเอกสารประวัติต่างๆ และเอกสารรับรองว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย รวมถึงเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย แต่ผู้ถูกควบคุมตัวปฏิเสธที่จะเซ็นเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองดังกล่าว ในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ก็ยอมปล่อยตัวโดยไม่ต้องเซ็นเงื่อนไข

พรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะมีแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการจับกุมในวันนี้

‘ประชาธิปไตยใหม่-นักวิชาการสิทธิฯ’ ขอคสช ปล่อยผู้ถูกจับกุม โดยไม่มีเงื่อนไข

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ออกแถลงการณ์ ขอคสช. ปล่อยตัวผู้ร่วมกิจกรรม “นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” โดยไม่มีเงื่อนไข โดยนอกจากขบวนการประชาธิปไตยใหม่ แล้วยังมี กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา กลุ่มดาวดิน กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน (CCP) กลุ่มลูกชาวบ้าน กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ กลุ่มเสรีนนทรี และภาคีนักศึกษา นักกิจกรรม เพื่อสังคม รวมลงชื่อในแถลงการณ์ด้วย

"ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำดังกล่าวยิ่งเป็นการส่อให้เห็นว่ามีการทุจริตเบื้องหลังโครงการอุทยานราชภักดิ์จริง ยิ่งปิดกั้น ก็เท่ากับยิ่งเปิดเผยว่าเผด็จการทหารนั้นโกงกิน และที่อ้างว่ารัฐประหารเพื่อปราบคอร์รัปชันนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ กิจกรรมในครั้งนี้จึงไม่ได้ประสบความล้มเหลว หากแต่เป็นชัยชนะของประชาชนที่ได้ลอกคราบคนดี เปิดโปงธาตุแท้ของเผด็จการทหารให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้น" แถลงการณ์ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ระบุ

เช่นเดียวกับเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ได้ออกแถลงการณ์ ขอคสช.และรัฐบาล ปล่อยตัวผู้ร่วมกิจกรรมที่ถูกจับกุมดังกล่าว โดยไม่มีเงื่อนไข

“สุดท้ายนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องพลเมืองที่ถูกละเมิดสิทธิ และยินดีที่จะใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยให้ คสช. รัฐบาล นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ถกเถียงกันบนพื้นฐานของข้อมูลอย่างสันติ” เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ระบุท้ายแถลงการณ์

(อ่านรายละเอียดแถลงการณ์ทั้ง 2 ฉบับ)

 

ปิดแล้ววันนี้! เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอุทยานราชภักดิ์

บีบีซีไทย - BBC Thai รายงานว่า พล.ต.ต. กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ. ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวกับบีบีซีไทยว่า อุทยานราชภักดิ์ปิดชั่วคราวในวันนี้ และยังไม่ทราบว่าจะเปิดเมื่อไหร่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ปฏิบัติงานร่วมกัน ตรวจตราความเรียบร้อยและอาวุธบริเวณก่อนเข้าถึงตัวอุทยานทั้ง 2 ด้านเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงและการกระทบกระทั่งหลังจากทราบว่าจะมีกลุ่มนักศึกษาจะเดินทางมาทำกิจกรรมในบริเวณอุทยานฯ

วินธัย ชี้กลุ่มคนหน้าเดิม นักศึกษาอาจไม่มีความรู้ในการตรวจสอบที่เพียงพอ หวั่นขัดแย้งปชช.ในพื้นที่

มติชนออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะ โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีการดำเนินการกับกลุ่มนักศึกษาฯ ที่จะเดินทางไปเคลื่อนไหวที่อุทยานราชภักดิ์ดังกล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะ เจ้าหน้าที่เท่านั้น ที่ไม่ต้องการให้ใครมาใช้สถานที่นี้ผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างแรงยึดเหนี่ยวผูกพันสถาบันฯกับประเทศไทยหรือคนไทยเพื่อให้คนทั่วไปได้มาเคารพสักการะสถานที่แห่งนี้มีความหมายต่อคนไทยทั้งประเทศ เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนร่วมกับหน่วยงานรัฐจึงอาจไม่เหมาะสมที่จะมีกลุ่มหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดจะมาดำเนินกิจกรรมอะไรที่ผิดวัตถุประสงค์ ขณะนี้สังคมส่วนใหญ่มองว่าเริ่มมีความพยายามของคนบางกลุ่มจะใช้พื้นที่ของอุทยานฯมาเป็นเครื่องมือทางการแสดงออก โดยเฉพาะกรณีถ้ามีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวฯ มาแสดงออกถึงความขัดแย้งกันบนพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ยิ่งดูไม่เหมาะใหญ่

"เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุดกรณีการให้เหตุผลการไปอุทยานฯของกลุ่มนักศึกษายังดูไม่ตอบโจทย์ในผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงต้องใช้ดุลพินิจโดยละเอียดก่อนตัดสินใจดำเนินการโดยเฉพาะพยายามดูว่าเจตนาที่แท้จริงของกลุ่มนั้นเป็นอย่างไร ถ้าพิจารณาจากตัวบุคคลในกลุ่มส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวที่มีประวัติกับเจ้าหน้าที่มาแล้วทั้งนั้น ประกอบกับในหลายๆ องค์ประกอบแล้ว ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าอาจมีเป้าหมายอื่นแอบแฝงได้" โฆษก คสช.กล่าว 

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ยืนยันระบบและกระบวนการตรวจสอบในข้อกังวลสงสัยต่างๆ กำลังดำเนินไปแล้วอย่างเป็นระบบด้วยหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ถ้าต้องการข้อมูลข้อเท็จจริงมีช่องทางอื่นที่เหมาะสมกว่าและจะไม่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายอีกด้วยการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติอย่างสมดุลเหมาะสม เพื่อไม่ให้ใครหยิบไปใช้ขยายผลในมุมที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอนเพราะเชื่อว่ามีคนบางกลุ่มพยายามที่จะฉกฉวยโอกาสนี้ไปใช้ขยายผลตามมุมต่างๆที่ตัวเองต้องการ

สำนักข่าวไทย รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า พ.อ.วินธัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เป็นกลุ่มคนหน้าเดิม ที่เคยร่วมคณะไปก่อนหน้านี้ และเชื่อว่าเป็นความต้องการที่จะเดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์เท่านั้น แต่คงไม่ใช่วิธีการที่จะตรวจสอบ เรื่องการทุจริต โครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ได้ เนื่องจากนักศึกษาอาจไม่มีความรู้ในการตรวจสอบที่เพียงพอ โดยเฉพาะด้านงบประมาณ ดังนั้น ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้จะดีกว่า

“เจ้าหน้าที่ เป็นห่วงว่า หากปล่อยให้ไปถึงที่หมาย อาจมีภาพของความขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่ เพราะมีการข่าวแจ้งเตือนมาว่า มีประชาชนในพื้นที่บางส่วน ไม่พอใจ เพราะพวกเขามีความภาคภูมิใจในอุทยานราชภักดิ์มาก เนื่องจากได้มีประชาชนหลั่งไหล มาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก การเดินทางมาของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่อาจเป็นภาพที่ไม่สวยงาม และอาจสร้างความไม่พอใจหรืออาจขัดแย้งกับ นักศึกษาเหล่านี้ได้” พ.อ.วินธัย  กล่าว

ผบ.ทบ.สั่งไม่เอาผิด 
 
18.53 น. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าวจากกองทัพบกชี้แจงว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวแกนนำ และมวลชนนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตย มายัง บก.ควบคุมสถานการณ์ กองพลทหารราบที่ 9 ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยการให้แกนนำ และมวลชนทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นการป้องกันข้อครหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ทำลายร่างกายแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเมื่อดำเนินการเสร็จก็ได้ปล่อยตัวแกนนำ และมวลชนกลับบ้านทันทีรายงานแจ้งอีกว่า
 
สำหรับรายละเอียดในบันทึกข้อตกลง เป็นแบบฟอร์มของฝ่ายกฎหมาย คสช. คือ 1.ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง 2.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตย เคยทำผิดในลักษณะดังกล่าวมา 2-3 ครั้ง ซึ่งคสช.สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. แต่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส) สั่งการไม่ให้ดำเนินการใดๆ นอกจากว่ากล่าวตักเตือน

หมายเหตุ มีเพิ่มเติมข้อมูลสถานการณ์จนกระทั่งถูกปล่อยตัว (22.00 น.)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท