Skip to main content
sharethis

เครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ระบุรัฐต้องรับฟังญาติ องค์กรประชาสังคมที่ญาติมีความไว้เนื้อเชื่อใจ หากรัฐตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อแสวงหาความจริงต้องมีกระบวนการที่สังคมและชาวบ้านไว้ใจ

7 ธ.ค. 2558 เครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ได้ออกแถลงการณ์กรณี เหตุการณ์ประชาชนเสียชีวิตในค่ายทหารจังหวัดปัตตานี

โดยระบุว่า สืบเนื่องจากตอนเช้าของวันที่ 4 ธ.ค. 2558 ได้เกิดเหตุการณ์ประชาชนที่ต้องสงสัยโดยหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ตามอำนาจกฎอัยการศึกและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เสียชีวิตในค่ายทหาร-ค่ายอิงคยุทธบริหารจังหวัดปัตตานี หลังจากนั้นประมาณเที่ยงของวันเดียวกัน พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ก็ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ดังนี้

"เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 เวลา 08.00 น. ได้รับแจ้งว่า นายอับดุลลายิ  ดอเลาะ อยู่ที่บ้านใหม่ ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้เสียชีวิตในค่ายทหาร

นายอับดุลลายิ   ดอเลาะ ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี และ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 เข้าติดตามจับกุม บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ หรือ เปาะซู เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับหัวหน้า kompi และผลการซักถามขั้นต้น นายอับดุลลายิบฯ ได้ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง เคยผ่านการซูมเปาะ ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำไปลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองจิก และทำการส่งตัว นายอับดุลลายิบฯ ดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ หน่วยข่าวกรองทางทหาร ส่วนหน้า จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งเสียชีวิตในระหว่างถูกควบคุมตัว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558

การเสียชีวิตของ นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ เจ้าหน้าที่ได้เชิญกำลัง 3 ฝ่าย ญาติผู้เสียชีวิต และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีเข้าทำการตรวจสอบ และแพทย์ในพื้นที่ไม่สามารถระบุสาเหตุของการเสียชีวิตได้

ในเมื่อไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อความสบายใจของญาติๆ และประชาชนทั่วไป ที่สำคัญเพื่อเป็นข้อกังขาให้กลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีนำประเด็นการเสียชีวิตของ นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ ไปหาผลประโยชน์ทำการขยายผล และบิดเบือนข้อเท็จจริง หรืออาจจะมีการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงได้ขออนุญาตจากภรรยา นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ นำศพไปทำการผ่าพิสูจน์ที่ โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ โดยทางญาติได้ให้คำยินยอมเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงเรียนมายังพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มเครือญาติผู้เสียชีวิต อย่าหลงตกเป็นเครื่องมือเชื่อข่าวลือใดๆ ของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีอันที่จะนำมาซึ่งสร้างแตกแยก ความเสื่อมเสีย และสร้างความเสียหายต่อหน่วยงานภาครัฐ ก่อนที่ความจริงจะปรากฏ รอผลจากการผ่าพิสูจน์ศพจากทางคณะแพทย์ จะมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป" (อ้างอิงจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000134138)

ทางเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ(คปส.)มีความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อบรรยากาศความมุ่งมั่นที่จะเห็นสันติภาพของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ดังต่อไปนี้

1.     รัฐต้องมีกระบวนการสำรวจรับฟังความคิดเห็นต่อแนวทางการคลี่คลายข้อกังขาใจของสังคม โดยรับฟังจากญาติและองค์กรประชาสังคมซึ่งญาติมีความไว้เนื้อเชื่อใจ

2.     หากรัฐเห็นควรจะต้องจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อแสวงหาความจริงนั้น ที่มาและลักษณะรูปแบบของคณะกรรมการดังกล่าวจะต้องมาจากผลของกระบวนการสำรวจรับฟังความคิดเห็นตามข้อ 1 เพราะ คปส. ได้ถอดบทเรียนจากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงในหลายๆชุดต่อหลายๆกรณี ที่ผ่านมานั้น ชาวบ้านและสังคมไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายก็ไม่เกิดการยอมรับในผลของการทำงานโดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว สาเหตุหลักเพราะที่มาของคณะกรรมการฯนั้นไม่ยึดโยงกับชาวบ้านและสังคมตั้งแต่แรก เมื่อไม่เกิดการยอมรับของสังคมส่วนใหญ่ ก็ส่งผลให้ให้เกิดบรรยากาศของกระแสสังคมไม่ไว้ใจรัฐ เมื่อสังคมไม่ไว้ใจรัฐก็ส่งผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพหรือสันติสนทนาโดยปริยาย

3.       ก่อนจะมีข้อสรุปใดๆต่อเหตุการณ์นี้ รัฐจะต้องดำเนินการตามข้อ 1 ให้ลุล่วงเสียก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net