Skip to main content
sharethis
'ประยุทธ์' ใช้ ม.44 โอนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สนง.ปลัดกระทรวง ก.ศึกษาธิการ ให้ไปขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก.ศึกษาธิการ
 
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 8/2559 เรื่องการบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนพิเศษ 42 ง และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยคำสั่งดังกล่าวให้เหตุผลว่า เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการเกิดประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการรวมการบริหารจัดการสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
 
คำสั่งดังกล่าวมีทั้งสิ้น 8 ข้อ ซึ่งเนื้อหาที่สำคัญคือ การให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับการ ดำเนินงานโรงเรียนในระบบประเภทอาชีว ศึกษาตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และของข้าราชการ พนัก งานราชการ และลูกจ้างของ สช. ในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษาตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนไปเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ หรือของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แล้วแต่กรณี
 
นอกจากนั้นยังให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรา กำลังของ สช.ไปเป็นของ สอศ.ตามบัญชีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศ กำหนด ส่วนอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ สช. และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ สช.ในการอนุญาต การมอบหมาย หรือการปฏิบัติการอื่นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบประเภทอาชีวศึกษา ให้โอนไปเป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ สอศ.เช่นกัน
 
"บรรดาใบอนุญาตที่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบประเภทสามัญศึกษาหรืออาชีวศึกษา และได้รับอนุญาตให้จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการอาชีวศึกษา หรือหลักสูตรสามัญศึกษาแล้วแต่กรณีด้วย ให้ผู้รับใบอนุญาตมีสิทธิ์ดำเนินการต่อไปตามที่ได้รับอนุญาต และให้ สอศ. หรือ สช. แล้วแต่กรณี ดำเนินการออกใบอนุญาตให้ใหม่ตามที่จำเป็นโดยเร็ว" คำสั่งข้อ 5 ระบุ และในข้อ 6 ว่า บรรดาคำขออนุญาตหรือคำขออื่นใดในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษาที่ได้ยื่นไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับให้เป็นอันใช้ได้ และให้ สช.ส่งมอบให้เลขาธิการ สอศ.เพื่อดำเนินการต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net