Skip to main content
sharethis

พระสงฆ์และกลุ่มชาวพุทธหัวอนุรักษ์ยื่นหนังสือ ผวจ.เชียงใหม่ ค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล อ้างเชียงใหม่เป็นที่สังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 8 ถ้ามีนิคมฮาลาล จะทำให้เชียงใหม่สูญเสียจิตวิญญาณและภาพลักษณ์ - ขณะที่สถิติปัจจุบันเชียงใหม่มียอดขายอาหารฮาลาลปีละ 8 พันล้านบาท มีผู้ประกอบการ 140 ราย ในจำนวนนี้เป็นมุสลิมเพียง 9 ราย

ที่มา: เพจปกป้องสังฆมณฑล

16 ก.พ. 2559 เพจปกป้องสังฆมณฑล รายงานว่า เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ที่วัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่ พระเทพปริยัติ ประธานศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมการหารือเกี่ยวกับประเด็นการคัดค้านความพยายามจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์เผยแพร่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ พุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ พร้อมด้วยตัวแทนจากสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงใหม่ สันนิบาตเทศบาลจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ภายหลังมีการออกข้อตกลง "ว่าด้วยความร่วมมือในการคัดค้านการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขององค์กร 12 องค์กร"

โดยเนื้อหาในเอกสารระบุเหตุในการคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลว่าเนื่องจากเชียงใหม่ "เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมและประเพณีที่งดงามแบบล้านนา มีผู้คนทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมสิ่งที่ดีงามของบ้านเมืองตามคำขวัญว่า "ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์" ทั้งเคยเป็นสถานที่ทำสังคายนาครั้งที่ 8 ของโลกเมื่อปีพุทธศักราช 2020 ณ วัดโพธาราม หรือวัดเจ็ดยอดพระอารามหลวงในปัจจุบัน และเป็นเมืองที่มีความสงบร่มเย็นประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกมาโดยตลอด 720 ปี จนกระทั่งได้มีกำหนดยุทธศาสตร์ยกระดับสินค้าเกษตรขึ้นสู่มาตรฐานฮาลาลและจะยกระดับจนมีการสร้างนิคมอุตสาหกรมขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการเกิดนิคมอุตสาหกรรมจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อวิถีชีวิตประเพณีสิ่งแวดล้อม เป็นความสูญเสียทางจิตวิญญาณและภาพลักษณ์ของนครที่มีความสง่างามทางวัฒนธรรมไปอย่างสิ้นเชิง"

ทั้งนี้มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ "1. ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถอนโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลออกจากแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่อย่างถาวร"

"2. ไม่ยอมให้หน่วยงาน องค์กรใดๆ จัดสร้างนิคมอุสาหกรรมฮาลาลขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยเด็ดขาด"

"3. หากหน่วยงาน หรือองค์กรใดยังพยายามจัดสร้างนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ องค์กรทั้ง 12 องค์กรจะมีการเคลื่อนไหวคัดค้านให้ถึงที่สุด"

"4. ในนามองค์กรทั้ง 12 องค์กร จะร่วมกันรณรงค์ชี้แจง ให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าใจถึงผลกระทบของการตั้งนิคมอุสาหกรรมอาหารฮาลาลอย่างทั่วถึง"

ในบรรดากลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน มีผู้ลงนามได้แก่ นายเต็งยูน ผายนาง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเวียงแห นายสุรดิษฏ์ เทพวงค์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอฝาง นายสมเกียรติ อยู่สิริ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอไชยปราการ นายสัญญา อิ่นแก้ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่สาย นายอุดม ไพทอง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสะเมิง นายศรีบุตร หน่อปัน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสารภี นายกมลศิษฐ์ โรจน์ธนวิภัช ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอหางดง นายวิศาล รินทร์จ้อย ประธานชมรมผู้ใหญ่บ้านอำเภอสันป่าตอง

นายอุ่นเรือน คำภิโล ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่วาง นายสิทธิชัย สันติชัยชาญ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอกัลยานิวัฒนา นายณัณฐณัฐช์ เกิดใหม่ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่แจ่ม นายสุทิน สุรินต๊ะ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอดอยหล่อ นายวรวิทย์ จิตต์อารี ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอจอมทอง นายสุคำ คำมูลใจ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอฮอด นายสาย ตาลี ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอดอยเต่า นายปิยพงศ์ ปิยพงศ์วิวัฒน์ ตัวแทนชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ข้อมูลในรายงานของสำนักข่าวประชาธรรม เรื่อง "อาหารฮาลาลกับมุสลิม" ระบุว่า ผู้ประกอบการอาหารฮาลาลในเชียงใหม่ปัจจุบันมี 140 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการที่เป็นชาวมุสลิมเพียง 9 ราย นอกจากนั้นยังมีผู้ประกอบการที่นับถือศาสนาพุทธด้วย โดยยอดขายอาหารฮาลาลในเชียงใหม่แต่ละปีมียอดขายไม่ต่ำกว่า 7,000-8,000 ล้านบาท และในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีการจัดงานฮาลาล อินเตอร์เนชั่นแนลแฟร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวฮาลาลในพื้นที่ภาคเหนือและลุ่มแม่น้ำโขง (GMS)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net