สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เข้ายื่นหนังสือ ขอให้ ’เตือนใจ’ เรียกทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออกแก้ปัญหาที่ดินชุมชนคลองไทรฯ หลัง ส.ป.ก. ยื่นคัดค้านการแสดงอำนาจพิเศษของสมาชิกชุมชน หวังให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2559 เวลา 12.00. ตัวแทนชุมชมคลองไทรพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) นำโดย ธีรเนตร ไชยสุวรรณ และตัวแทนตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ อีกจำนวน 6 คน ได้เดินทางไปที่จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมงานสังเกตการณ์การลงพื้นที่รับฟังปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา สงขลา ของเตือนใจ มีเทศน์ อนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีปัญหาที่ดินคลองไทรพัฒนา

ประทีป ระฆังทอง ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ได้พูดคุยและเสนอให้ กสม. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อร่วมกันหาทางออกกรณีที่ดินชุมชนคลองไทร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยได้มีการนำหมายบังคับคดีของบริษัทจิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด เข้ามาติดบริเวณชุมชน ในวันที่ 18 พ.ย. 2558 ข้อความในหมายบังคับคดี ได้แจ้งให้บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด พร้อมบริวารออกไปจากที่พิพาทและให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของจำเลย ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษ ภายใน 8 วัน นับจากวันปิดประกาศ

ต่อมาตัวแทนชุมชนและคณะทนายความสิทธิมนุษยชน จึงเดินทางไปยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาล ในวันที่ 25 พ.ย. 2558 ที่ศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อยืนยันว่าชุมชนไม่ใช่บริวารของ บริษัทฯ แต่เป็นเกษตรกรผู้ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองและเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และเป็นสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) มีวัตถุประสงค์เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐ และตามหลักสิทธิมนุษยชน

โดยหลังจากได้ยื่นคำร้องฯ ศาลได้นัดฟังคำไต่สวนใน วันที่ 29 ก.พ. 2559 เวลา 09.00 น. ตัวแทนชุมชนซึ่งเป็นผู้ร้องได้เดินทางไปตามนัดของศาลจังหวัดกระบี่ และได้ทราบว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2559 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดกระบี่ ได้ยื่นคัดค้านคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษ ของธีรเนตร ไชยสุวรรณ และพวกรวม 57 คน โดย มานะ วงศ์จันทร์ พนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ในฐานะทนายความโจทก์ (ส.ป.ก.) ยื่นคัดค้านว่าชุมชนคลองไทรฯ ไม่มีความชอบธรรมในการอยู่อาศัยใน โดยอ้างว่า ตามข้อตกลงเดิม ส.ป.ก. อนุญาติให้สมาชิกชุมชนคลองไหรอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้จนการการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะแล้วเสร็จ บัดนี้ได้มีการคดีความที่ ส.ป.ก. เป็นโจทย์ฟ้องขับไล่บริษัทนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อคดีสิ้นสุดลง ส.ป.ก. มีความจำเป็นต้องจัดการพื้นที่แปลงดังกล่าวเพื่อนำมาจัดสรรให้กับเกษตรกรที่มีคุณสมบัติ ตามกฎหมายกำหนดต่อไป

อ่านประเด็นปัญหาชุมชนคลองไทรพัฒนา ที่นี่

เสียงจากคลองไทรฯ: ชุมชนเกษตรกรไร้ที่ดิน เผยเหตุผลยึดที่รัฐคืนจากทุน