สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี: ความสัมพันธ์ไทย-พม่ายุคใหม่

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ไม่สำคัญว่าอองซานซูจีจะได้นั่งในตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยตนเองในเร็ววันนี้หรือไม่ แต่พัฒนาการใหม่ทางการเมืองของพม่าภายใต้การนำของเอ็นแอลดีน่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศไทยไม่น้อยด้วยเหตุผลดังนี้

1 ชัยชนะของเอ็นแอลดีทำธรรมชาติของรัฐบาลไทยและพม่าแตกต่างกันในลักษณะที่กลับหัวกลับหางกัน กล่าวคือ พม่ามีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่ยุคพลเรือนเป็นใหญ่ (civilian supremacy) มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ไทยยังปกครองด้วยทหารซึ่งทำท่าจะอยู่นาน แม้ว่ารัฐธรรมนูญพม่าจะยังให้ทหารมีบทบาทมากในการเมืองก็ตาม แต่พรรคเอ็นแอลดีไม่น่าจะยอมเลิกราพันธกิจในการลดพื้นที่ทางการเมืองของทหารลงไปง่ายๆ เชื่อว่าตลอดสมัยของเอ็นแอลดีน่าจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่เปิดทางให้อองซานซูจีนั่งตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น หากแต่ยังจะลดบทบาททหารอีกด้วย ในขณะที่ของไทยนั้น "ระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปี" ไม่ใช่มโนของพลเอกประยุทธ์แน่นอน แต่เป็นเป้าหมายหลักเลยทีเดียว
พัฒนาการแบบนี้มองจากมุมของการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีพัฒนาการเมืองถดถอย ในขณะที่พม่าซึ่งเคยเป็นภาระ (พวกที่เชียร์รัฐประหารไทยทุกวันนี้เคยเรียกว่า"ตุ้มถ่วง") แห่งอาเซียนกลายเป็นประเทศที่โดดเด่น ส่วนไทยนั้นโดนกดดันสารพัด ตอนนี้อาเซียนทั้งหลายชอบไทยมาก เพราะว่าทำให้พวกเขาดูดีขึ้นมาอย่างมากในสายตาตะวันตก

2 ทหารไทยคิดเหมือนทหารพม่าคือเชื่อว่าอำนาจทหารจะไม่มีวันเสื่อมคลายลงไป และความสัมพันธ์ระหว่างทหารต่อทหารด้วยกันนั้นจะพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-พม่าให้แน่นแฟ้นได้ แม้ว่ากองทัพทั้งสองจะเคยปะทะกันบ้างตามแนวชายแดน แต่ผู้นำเหล่าทัพของทั้งสองฝ่ายรู้จักกันดี พลเอกอาวุโสมินอ่องหล่ายซึ่งจะได้รับการต่ออายุหลังจากเกษียณในปีนี้ ฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมพลเอกเปรมเอาไว้แล้ว แปลว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะแน่นแฟ้น ปัญหาคือทหารพม่าคงจำเป็นจะต้องลดบทบาทไปในที่สุด และทหารไทยก็คงไม่อยู่คงทนเช่นกัน แต่จะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ของรัฐต่อรัฐที่นับวันแต่จะต้องเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ (นอกเหนือจากกองทัพ) เข้ามาอีกมากมาย

3 ผลมาจากข้อสองทหารไทยไม่ยอมสร้างความสัมพันธ์ใดๆกับเอ็นแอลดีเลยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มบุคคลที่สร้างสัมพันธ์แบบเงียบๆกับเอ็นแอลดีนั้นปรากฎว่าเคยเป็นทหาร แต่ผู้มีอำนาจยุคปัจจุบันไม่เรียกใช้งาน ในขณะที่กองทัพไทยเหินห่างเอ็นแอลดีเพราะไม่เคยคิดว่าอองซานซูจีจะได้เป็นใหญ่ และความเชื่อฝังหัวที่ว่า"ทหารย่อมเข้าใจทหารด้วยกัน" นักการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์กลับไม่เคยทิ้งเอ็นแอลดีเลย ยิ่งลักษณ์ไปพบอองซานซูจีในการเยือนพม่าครั้งแรกตอนนั้นอองซานซูจีก็เป็นฝ่ายค้าน อองซานซูจีมาเยือนเมืองไทยแบบอึกทึกก็ระหว่างที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายก ในทำนองเดียวกันอภิสิทธิและสมาชิกประชาธิปัตย์หลายคนไปมาหาสู่กับอองซานซูจีและเอ็นแอลดีเหมือนญาติมิตร แม้ในคราวที่เธอตกต่ำพวกเขาก็ยังไปเยี่ยมเยือนอยู่เรื่อยๆ

4 ประเทศไทยและพม่ามีปัญหาที่จะต้องจัดการร่วมกันมากมาย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนและการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในกรอบอาเซียนและกรอบทวิภาคี แน่นอนทหารพม่ายังดูแลหลายประเด็นอยู่โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงชายแดน การลักลอบค้าอาวุธ ยาเสพติพ กลุ่มชาติพันธ์ุที่ติดอาวุธ ฯลฯ แต่ปัญหาตอนนี้คือ เอ็นแอลดีเป็นคนออกและกำกับนโยบาย ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดนักว่าซูจีจะเอาอย่างไรกับแผนสันติภาพ กลุ่มชาติพันธ์ุรบกับกองทัพพม่าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไว้ใจเอ็นแอลดี ที่สำคัญเอ็นแอลดีไม่ค่อยประทับใจทหารไทยสักเท่าไหร่ต่อบทบาทในช่วงที่พวกเขาตกทุกข์ได้ยาก ทั้งหมดนั้นทำให้ปัญหามันดูซับซ้อนกันหลายอย่าง อาจจะยุ่งเยิงเกินกว่าจะรับมือได้

ภาพประกอบ: ประชาชนในเขตรัฐฉานอพยพหนีการปะทะกันเมื่อเร็วๆนี้ ผู้เขียนได้รับภาพแบบนี้จำนวนหนึ่่งจากแหล่งข่าวในรัฐฉาน ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณในหรือเมื่อใดอย่างชัดเจน Irrawaddy รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจาก The Ta’ang National Liberation Army (TNLA) ว่ากองกำลังนี้ปะทะกับกองทัพพม่าถึง 16 ครั้งในเขตรัฐฉานตอนเหนือห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตาอั้งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้ลงนามสงบศึกกับทางการพม่า

เผยแพร่ครั้งแรกใน: Facebook Supalak.Ganjanakhundee

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท