ประยุทธ์จ่อผุดหลักสูตรอบรม 3-30 วัน มีโควต้าสื่อด้วย ชี้กรณีโพสต์ ’ขันแดง’ เป็นภัยความมั่นคง

29 มี.ค.2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีแนวคิดการเปิดหลักสูตรเรียกบุคคลเข้าปรับทัศนคติ ว่า อย่าใช้คำว่าปรับทัศนคติ หลักสูตรของตนที่คิดขึ้นมาเป็นเพราะเห็นว่าความขัดแย้งสูงขึ้น ในเมื่อทุกคนเรียกร้องอยากจะมีเวทีพูดคุย ก็ควรจะพูดคุยในสาระที่ควรคุยกัน ตนก็จะให้เวลามาพูดคุยกันสัก 3 วัน 5 วัน 7 วัน 15 วัน 30 วัน อบรมเรื่องการเมือง ธรรมาภิบาล ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม เหมือนการเรียนหนังสือ สื่อมวลชนก็ด้วยมีโควต้าในการเข้าอบรม ตนไม่ได้พูดเล่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดหลักสูตรนี้จะสามารถช่วยอะไรได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ จะไปช่วยอะไรได้ คนสมองมันเป็นแบบนี้ แต่อย่างน้อย ก็ไม่ต้องฟังเขาพูดอยู่หลายวัน แต่เมื่อออกมาคงพูดใหม่อีก แต่พูดใหม่ก็เรียกมาอบรมใหม่ จะอบรม 3-4 รอบก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร ไม่ได้เอาไปขังคุกเสียเมื่อไหร่ ต้องเข้าใจว่ากฎหมายคือกฎหมาย และต้องเข้าใจว่าอะไรคือคำสั่งกฎหมายพิเศษ และเข้าใจว่าอะไรเป็นพ.ร.บ.ความมั่นคง เมื่อสถานการณ์ไม่ปกติก็ต้องมีกฎหมายขึ้นมา เพื่อแก้ไขให้สถานการณ์เกิดความสงบเรียบร้อย หรือว่าสื่อไม่ต้องการ ถ้าไม่ต้องการจะยกเลิกให้ ออกไปตีกันบนท้องถนนเอาอีกไหม แล้วรับผิดชอบนะ
 
เมื่อถามว่าคาดหวังอะไรกับหลักสูตรดังกล่าว นายกฯกล่าวว่า คาดหวังให้เขามาตอบคำถามกับครูของตน ว่าสิ่งที่พูดมาความหมายคืออะไร ถ้าเป็นสื่อก็ต้องถามว่าคอลัมน์ที่เขียนมาหมายความว่าอย่างไร และตนจะให้คนของตนอธิบายว่าสิ่งที่เขียนมามันไม่ถูก โดยจะบอกว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ถ้ายังไม่เข้าใจก็อบรมอีก เพราะตนพูดในสิ่งที่มันถูกเป็นข้อเท็จจริง ฉะนั้น อย่ามาบิดเบือน และตนจะเป็นคนกำหนดหลักสูตรเอง ทั้งเรื่องการเมือง คุณธรรม จริยธรรม สิ่งเหล่านี้ที่มันไม่มีกัน รวมถึงหลักสูตรการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทุกคนบอกว่าทหารทำไม่เป็น ซึ่งตนจะถามเขาว่าสิ่งที่ทำกันมามันถูกและผิดอย่างไร ตรงไหน
 
ยันโพสต์ภาพ ’ขันแดง’ ถือว่าผิดกม.-เป็นภัยความมั่นคง
 
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีความผิดต่อความมั่นคงผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กโดยเป็นภาพขันน้ำสีแดง พร้อมภาพถ่ายของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เห็นแล้ว ก็คงเป็นภัยต่อความมั่นคง เห็น คสช.พิจารณาที่จะเชิญมาพบแล้ว มันสมควรไหม ฉันถามเธอสมควรไหม ถ้าไม่สมควรจะมาถามฉันทำไม หรืออยากได้ ถ้าอยากได้เดี๋ยวให้เขาเอามาให้ ไม่มีขันสาดน้ำเอาไหม
 
ต่อกรณีคำถามว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผิดกฎหมายหรือเปล่า ไม่ใช่แค่มองว่าเป็นภัยความมั่นคงเพราะต้องมาอะไรกับ คสช. มาอะไรกับบ้านเมือง แต่ต้องดูว่ารูปที่เอามาติดเป็นคนที่ผิดกฎหมาย การสนับสนุนคนที่กระทำผิดกฎหมาย หลบหนีคดีอาญาผิดไหม ภัยความมั่นคงคือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐ นั้นคือความมั่นคง ไม่ใช่กฎหมายมีไว้เพื่อปกป้อง คสช. มันคิดอะไรกับแบบนี้ไม่เข้าใจ ตนไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ถ้ามีกฎหมายแล้วละเว้นไม่ทำแล้วผิดไหม เจ้าหน้าที่จะผิดไหม รัฐบาลที่แล้วผิดเยอะในเรื่องเหล่านี้เปล่า ไปถามเขาหลายเรื่องคดีไม่ตัดสิน คดีที่หลุดมาเนี่ย รถชน รถบ้าเกิดขึ้นในสมัยไหน ไปโทษตำรวจเขา แล้วตัวเองกำกับดูแลไหมล่ะ ไม่ว่าจะรถชน ไฟคลอกตนก็ต้องสั่ง เอาคดีมาสอบสวนให้ได้ ดำเนินคดีถ้าผิดก็ผิด ถ้าถูกก็ถูก ไม่ใช่ปล่อยตำรวจอยากจะทำอะไรก็ทำ ก็เป็นอยู่แบบเดิมแล้วก็ไปโทษตำรวจเขา ทำแบบตนทำแต่ท่านไม่ชอบหรอก เพราะชอบแบบครับ ค่ะ เดี๋ยวจะให้เงินไปอย่างนี้นะ ชอบแบบนี้ ถ้าพูดแบบตนไม่ชอบ
 
ระบุพอใจร่างรธน. แต่ยังมีบางส่วนไม่ตรงใจ
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เห็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับก่อนทำประชามติของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แล้ว ส่วนจะผ่านประชามติหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน หากไม่ผ่านก็ต้องหาวิธีดำเนินการต่อไป
 
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลสถานการณ์บ้านเมืองจากนี้จนถึงวันทำประชามติคือวันที่ 7 สิงหาคม เพราะมีกฎหมายดูแลอยู่ หากใครทำผิดก็ดำเนินการตามขั้นตอน หากต้องการเป็นประชาธิปไตย แต่ฝืนกฎหมาย ก็ไม่สามารถยอมได้ รัฐบาลไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับการรณรงค์การทำประชามติ เพราะชี้แจงมาโดยตลอดให้ทุกคนออกมาลงคะแนนประชามติ หากต้องการเป็นประชาธิปไตย แต่หากใครไม่ต้องการมาลงคะแนนก็ไม่บังคับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้เกียรติ กรธ. ในการร่างรัฐธรรมนูญ พอใจร่างรัฐธรรมนูญบางส่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับการเตรียมการแก้ปัญหาในอนาคต ทั้งเรื่องประชาธิปไตยและกฎหมายแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นและธรรมาภิบาล ส่วนรัฐธรรมนูญจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้หรือไม่ การจะแก้ปัญหาประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรนูญ แต่อยู่ที่คนทุกคนและสื่อมวลชนด้วย
 
“ผมพอใจไม่พอใจมันอยู่ในใจผมอยู่แล้ว หน้าที่ผม เมื่อทุกคนต้องการเลือกตั้ง ผมก็ทำให้ แต่ถามว่าผมพอใจหรือไม่ เรื่องของผม ก็พอใจในส่วนหนึ่งที่เขาสามารถเตรียมการแก้ปัญหาประชาธิปไตยที่ผิดพลาด เรื่องการทุจริต ผิดกฎหมาย เรื่องธรรมาภิบาล ผมดูแล้วก็โอเคนะ แม้จะไม่ตรงใจผมมากนักก็ตาม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
 
ส่วนเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับที่มาของวุฒิสมาชิก(ส.ว.) สรรหาว่าจะทำให้คสช.มีอำนาจชี้นำส.ว.ทั้งหมด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนต้องคิดว่าหากเป็นตนเอง จะได้อะไรจากการมีส.ว.สรรหา พร้อมย้อนถามว่าที่ผ่านมาทั้งส.ส.และส.ว.ฟังฝ่ายการเมืองหรือไม่ ยืนยันว่าที่เข้ามาทำหน้าที่ก็เพื่อประเทศชาติ ไม่ได้หวังอำนาจหรือผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
 
เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย และมติชนออนไลน์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท