‘เหมือนใจมันจะขาด’ คุยกับแม่ผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ 10 เมษา 53

ครบรอบ 6 ปี การขอคืนพื้นที่วันที่ 10 เมษา 2553 กลุ่มเมล็ดพริก และกลุ่มญาติฯ ยังคงจัดกิจกรรมทวงถามความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต ประชาไทมีโอกาสพูดคุยสั้นๆ กับ ‘สุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์’ แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิต เธอระบุ “ทุกครั้งที่มาสี่แยกคอกวัว...ใจเราเหมือนมันจะขาดให้ได้”

00000

สุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์

"ทุกครั้งที่มาสี่แยกคอกวัว มันบอกไม่ถูก ใจเราเหมือนมันจะขาดให้ได้ ลูกเราตาย แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้รับความยุติธรรมซะที"

นั่นเป็นคำตอบเเรกที่เธอเอ่ยขึ้นหลังจากประโยคคำถามสิ้นสุด...

ท่ามกลางการจัดกิจกรรมของกลุ่มเมล็ดพริก และกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเหตุการณ์สลายการชุมนุมในค่ำคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 เหตุการณ์ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ศอฉ. เรียกปฏิบัติการณ์ในครั้งนั้นว่า 'การขอคืนพื้นที่'

ผ่านมาแล้ว 6 ปี ยังคงมีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตมาจุดเทียนรำลึกความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทวงถามหาความเป็นธรรม และตะโกนส่งเสียงร้องประโยคเดิมซ้ำๆ ว่า "ที่นี่มีคนตาย"

ขณะที่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเดินทางจากบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยามาถึง เสาป้ายบอกชื่อตรอกข้าวสารในถนนตะนาว สี่แยกคอกวัว พวกเขาก้มลงจุดเทียน สีแดง ดำ และขาว ปะปนกันไป ปักเทียนลงบนบริเวณที่คนในครอบครัวตนเองเสียชีวิต เราได้ยินเสียงร่ำไห้ สะอื้นเสียงหนึ่งดังมาจากกลางกลุ่มญาติฯ

เจ้าของเสียงนั้นคือ สุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์ แม่ของเทอดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ หนึ่งในผู้เสียชีวิตเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เขาเสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าที่หน้าอก มีรูกระสุนเข้าฝังทั้งหมด 5 นัด

เราได้พูดคุยกับเธอสั้นๆ เธอบอกว่า แม้เหตุการณ์วันนั้นจะผ่านมา 6 ปีแล้วก็ตาม แต่ความเจ็บปวดยังไม่เคยจางไป ยิ่งนึกถึงยิ่งเจ็บปวด เธอบอกอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีคนถูกยิงตาย แต่กลับไม่มีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบ ยิ่งปล่อยเวลาออกไปเนิ่นนานความเจ็บปวดยิ่งฝังลึก

"เราเป็นประชาชนคนธรรมดา แล้วถ้าคนที่ยิงลูกเราเป็นประชาชนธรรมดาป่านนี้คงติดคุกไปแล้ว แต่นี่เพราะอะไร ทำไมประเทศไทยถึงเป็นอย่างนี้" สุวิมลกล่าว

เธอบอกต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มญาติได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอให้อัยการฏีกาคดีการ สลายการชุมนุม ด้วยเหตุว่า ต้องการเห็นคนทำผิดได้รับการลงโทษ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ

"ความยุติธรรมมันบิดเบี้ยว กว่าจะเดินทางมาถึงเรามันนาน แต่กับอีกฝ่ายหนึ่งเขาไม่ต้องรออะไร ที่เราออกไปเรียกร้องอีก เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้หรือไม่ได้ ในใจเราก็รู้อยู่ว่ามันยาก แต่ก็ยังหวังลมๆ แล้งๆ" สุวิมลกล่าว

เธอเล่าต่อไปอีกว่า ในทุกๆ ปีพอใกล้ถึงวันที่ 10 เมษายน ทีไรจากที่ไม่ได้ร้องไห้มานาน ก็กลับมาน้ำตาไหลอีกครั้ง

"มันนึกถึงหน้าลูก คิดถึงเสียงเขา วันที่เขาจะเสีย ก่อนหน้านั้นก็ยังโทรมาหา บอกว่าเดี๋ยวเจอกันแม่ แต่วางจากเราไปไม่นานเขาก็ถูกยิง คนเป็นแม่น่ะ ทำใจไม่ได้ ถึงทุกวันนี้ก็ยังทำใจไม่ได้" สุวิมลกล่าวทั้งน้ำตา

00000

ภาพบรรยากาศกิจกรรมรำลึก 6 ปี 10 เมษา 2553

10 เมษา ผู้สูญเสียทุกฝ่ายทำบุญรำลึกผู้เสียชีวิต ปีนี้ทหารไม่ห้าม

กลุ่มญาติวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อ วันที่ 10 เมษายน 2553 นัดหมายกันเวลา 10.00 น. ที่วัดพลับพลาไชย เพื่อร่วมทำบุญเลี้ยงพระเพล เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ดวงวิญญาณผู้สูญเสียด้านแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

ขณะที่นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม หรือเสธ.เปา อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ได้จัดพิธีทำบุญครบรอบ 6 ปีการจากไปของ พล.อ.ร่มเกล้า ที่วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมกันนี้ยังทำบุญให้แก่ ร.อ.อนุพันธ์ หอมมาลี ร.ท.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ ร.ท.อนุพงษ์ เมืองอำพัน และร.ต.สิงหา อ่อนทรง นายทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันกับ พล.อ.ร่มเกล้า ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท