สงกรานต์โลกโซเชียลราคาแพง ตร.จับหนุ่มโพสต์คลิปเก่าล้วงนม RCA ถูกคดี พ.ร.บ.คอมฯ ประกันตัว 1 แสน เจ้าตัวแจงโพสต์เพื่อเตือนว่าการเมามันไม่ดี จับสาววัย 45 โพสต์ ‘สงกรานต์สีลมซกมก’ ตร.ชี้ทำตื่นตระหนกแก่ประชาชน
16 เม.ย. 2559 จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโองานสงกรานต์ย่านอาร์ซีเอ โดยในคลิปมีหญิงสาวสวมหมวกสีเหลือง เปลือยหน้าอก กำลังเต้นยั่วยวนพร้อมทั้งมีมือลวนลามบริเวณหน้าอก โดยวานนี้ (15 เม.ย. 59) ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน แจ้งว่าเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว เจมส์ (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) จากกรณีเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว เข้ามาทำการสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า และมีการกักตัวอยู่ภายในห้องดังกล่าวโดยไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน
กระทั่งเวลา 21.20 น. ทางพนักงานสอบสวนเดินทางไปขออนุมัติหมายศาล เพื่อทำการออกหมายจับในข้อหา นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 ต่อมา เวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่นำหมายจับมาแสดงต่อ เจมส์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 754/2559 ลงวันที่ 14 เม.ย. 59 ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน และที่มีลักษณะอันลามก และประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ จนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าตัวแจงโพสต์เพื่อเตือนว่าการเมามันไม่ดี
โดยวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เจมส์ ได้โพสต์ชี้แจงจุดประสงค์ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก '
เจมส์' ว่า เพื่อเตือนว่าการเมามันไม่ดี และการให้คนโชว์นมให้จับฟรีก็ไม่ดี ไม่ได้สนับสนุนแต่อย่างใด โดยขณะนั้น เขาระบุด้วยว่า กำลังไปพบตำรวจจาก สน. มักกะสันเพื่อให้ข้อมูลเพิ่ม
สำหรับวิดีโอคลิปนั้น เจมส์ ระบุว่า เป็นคลิปสงกรานต์ปีที่ผ่านมา โดยคลิปโดนทางเฟสบุ๊กลบเองนะครับหลังจากลงไป 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อนของตนเป็นทีมงานที่จัดงานย่านนั้น ซึ่งไม่มีใครสนับสนุนพฤติกรรมแบบนี้ ทางผู้จัดเองก็ห้ามปรามเรื่องนี้ตลอดอยู่แล้ว
น.1 แถลงจับหนุ่มโพสต์คลิปสาวเปลือยอกกลาง RCA อ้างเตือนเพื่อนไม่ให้ทำตาม
ไทยรัฐออนไลน์ ยังรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุม ผู้โพสต์คลิปดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "เจมส์" ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์สร้างความเสียหาย และขัดต่อคำสั่งของ คสช. ที่สั่งห้ามแต่งตัวล่อแหลม โป๊เปลือยในเทศกาลสงกรานต์
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า การเผยแพร่หรือส่งต่อคลิปที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่พยายามเร่งรัดจับกุมผู้เผยแพร่มาดำเนินคดี ผู้ที่จะโพสต์หรือส่งต่อข้อความใดๆ ควรตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ การกระทำของ เจมส์ ไม่ได้มีเจตนากระทำผิด แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยใช้หลักทรัพย์จำนวน 1 แสนบาท
ด้าน เจมส์ รับสารภาพว่า เป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าวจริง เนื่องจากเป็นคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ อ้างว่าต้องการบอกเพื่อนๆให้รู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ต้องการสนับสนุนให้กระทำตาม ซึ่งเพื่อนๆ รู้ว่าเป็นคลิปเก่า แต่มีผู้นำไปแชร์และมีการบิดเบือนข้อมูลว่าเป็นคลิปปีนี้ที่อาร์ซีเอ ทำให้เจ้าของงานเสียหาย ทั้งนี้ ขอให้เรื่องของตนเป็นอุทาหรณ์ การโพสต์หรือแชร์สิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชนในลักษณะอันลามกอนาจาร ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จับสาววัย 45 โพสต์ ‘สงกรานต์สีลมซกมก’ ตร.ชี้ทำตื่นตระหนก อาจกระทบความมั่นคง
นอกจานี้ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา
มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยด้วยว่า จากกรณีมีผู้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “สีลมซกมก! ประหยัดน้ำกันถึงขนาดเล่นวิธีสกปรก… มีหลายคนแพ้เป็นผื่น ตาแดง ตาบวมจากการถูกน้ำปัสสาวะ น้ำส้มสายชู และน้ำสกปรก มีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน” ได้ตรวจสอบจากโรงพักทั้ง 88 แห่งในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แล้วไม่พบว่ามีผู้ใดมาแจ้งความกรณีนี้แต่อย่างใด ตรวจสอบจากสาธารณสุขก็ไม่พบว่ามีผู้ใดมารักษาตาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เชื่อได้ว่าผู้โพสต์มีเจตนาไม่สุจริต ทั้งที่ควรสนับสนุนให้เล่นน้ำอย่างประหยัด แต่กลับนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน อาจกระทบความมั่นคง จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 จัดให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยด่วนให้จงได้
ต่อมา เวลาประมาณ 15.30 น. จึงได้นำตัว วรรณรัตน์ สมฤทธิ์ อายุ 45 ปี ชาวกทม. ผู้ต้องหาที่โพสต์เรื่องนี้มาดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าเป็นผู้โพสต์แต่ไม่รู้ว่าเป็นเท็จ อยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี
หมายเหตุ : เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2565 และวันที่ 19 ต.ค.2565 กองบรรณาธิการประชาไทได้รับการร้องขอจากเจมส์ บุคคลในข่าว ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ โดยเรียกร้องให้ลบเนื้อหาข่าวออกจากระบบอินเตอร์เน็ตและไม่เผยแพร่ซ้ำ โดยอ้างถึงเหตุผลว่า เพื่อเป็นการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวและเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ พร้อมทั้งส่งคำพิพากษามาให้ประกอบ
ทั้งนี้กองบรรณาธิการวิเคราะห์แล้ว สามารถถอดเอาชื่อ-นามสกุลจริง ของเจมส์ ออกได้ โดยไม่กระทบต่อสาระสำคัญของเรื่องที่เป็นเหตุการณ์การดำเนินคดี อีกทั้งเจมส์เองก็ระบุว่าตัวเองไม่มีเจตนา ด้วยเหตุนี้ทางกองบรรณาธิการประชาไทจึงยังคงเนื้อข่าวไว้ในฐานะที่เป็นเหตุการณ์ข่าวที่ยังเป็นประโยชน์สาธารณะ แต่ใช้ชื่อ 'เจมส์' แทน ชื่อ-นามสกุลจริง
ส่วนความคืบหน้าคดีนั้นเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2560 ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 3, 14 (1) (4) จำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำ1 ปี และปรับ 10,000 บาท พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน นิสัยและความประพฤติทั่วไปไม่ปรากฏข้อเสียหายรายแรง สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี แต่ให้คุมประพฤติจำเลยไว้
