Skip to main content
sharethis

โฆษกผู้ว่าฯ เผย กำลังหารือกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อที่จะฟ้องร้องกลับ ผู้ว่าฯ สตง. ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลัง แถลงชี้ กทม.ฮั้วประมูลไฟ 39 ล้าน จ่อชง ป.ป.ช.ฟัน 'ผู้ว่าฯ' 

4 พ.ค. 2559 ความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบโครงการติดตั้งไฟประดับบริเวณลานคนเมืองศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นั้น สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. รายงานว่า วสันต์ มีวงษ์ โฆษกประจำตัวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดย พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง. แถลงข่าวทำนองว่าผลสอบโครงการติดไฟประดับซุ้มอุโมงค์ไฟ LED 5 ล้านดวง ของกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงปีใหม่โดยใช้งบประมาณ 39.5 ล้านบาท พบว่ามีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ต้องรับผิดชอบด้วยนั้น กรณีนี้ถือว่าเป็นข้อมูลที่คลุมเครือไม่ชัดเจน เนื่องจาก ผู้ว่าฯ กทม. เป็นคนกำกับนโยบาย ไม่ใช่คนปฏิบัติ มีการมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องไปจัดการ ดังนั้น สตง. เหมารวมเช่นนี้ ก็คงไม่ถูกต้องมากนัก ซึ่งทาง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมที่จะต่อสู้ทางคดีหากถูกแจ้งข้อหาแน่นอน

นอกจากนี้ โฆษกผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ยังกล่าวอีกว่า กำลังหารือกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อที่จะฟ้องร้อง ผู้ว่าฯ สตง. ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ด้วย 
 

มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เวลา 11.10 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าวกรณีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชี้มูลตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ของสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กทม. วงเงิน 39.5 ล้านบาท เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) นั้นว่านโยบายการที่สร้างมหานครแห่งความสุข เป็นนโยบายที่ถูกต้อง และที่สำคัญในช่วงเวลาก่อนปีใหม่ปีก่อนได้เกิดปัญหาหลาย ๆ ด้าย รวมทั้งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ผมมองว่าสิ่งสำคัญต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ระดับรากหญ้า แต่จะทำอย่างไรกระบวนงบฯจะเสร็จสิ้นแล้ว ในปี 2558 งบประมาณการท่องเที่ยวถูกตัด เสนอไป 200 กว่าล้านบาท ได้มา 50 ล้านบาท คำถามในฐานะผู้บริหารจะทำอย่างไรในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ นี่จึงเป็นที่มาของโครงการ ไม่ใช่เพิ่งคิดอยากทำมาหลายปีแล้ว เนื่องจากงบฯ ไม่เพียงพอก็ใช้อำนาจตน

ถามว่านโยบายนี้สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ต้อไปถามคนอื่น แต่ขอบอกว่ามีคนเข้าชมงาน 1.6 ล้านกว่าคน และการใช้จ่าย 10 ล้านกว่าบาท อย่างไรก็ตามผมเชื่อมั่นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีการสรุปมานานแล้วกทม.ผิด เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก ผมไม่ทราบว่ามีวิธีปฏิบัติที่จะมาใช้กับ กทม.ผมไม่มีอะไรปิดบัง

"มติ คตง.เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่จะต้องดำเนินการต่อไป ยังไม่มีใครผิดใครถูก ใครเขียนแบบนี้ต้องระวังเรื่องกฎหมาย ใครบอกว่าผมผิด ผมฟ้อง กำลังปรึกษานักกฎหมายว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่ให้ความคุ้มครอง ผมมาอยู่ตรงนี้อัตราความเสี่ยงเป็นอย่างไร ผมเป็นห่วงลูกน้อง ลูกน้องจะต้องได้รับความเป็นธรรม ใครเขียนว่าลูกน้องผมจะให้ฟ้องทันที ขอความเป็นธรรมเถอะครับ และขอให้องค์กรตรวจสอบทุกองค์กรให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องผมด้วย เราพร้อมจะตรวจสอบ ที่ กทม.ก็มีตัวแทน สตง.นั่งอยู่แต่ไม่มีคำแนะนำว่าไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากที่สุดแล้วผลชี้มูลว่าผิดจริง จะพิจารณาลาออกหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่าให้ถึงเวลานั้นก่อน

คตง.ชี้ชัด กทม.ฮั้วประมูลไฟ 39 ล้าน จ่อชง ป.ป.ช.ฟัน 'ผู้ว่าฯ'

โดยวานนี้ (3 พ.ค.59) ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า สตง.ได้แถลงข่าว กรณีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) พิจารณารายงานผลการตรวจสอบโครงการดังกล่าว โดย พิศิษฐ์ ผู้ว่าฯ สตง. ระบุว่า ในการดำเนินการดังกล่าวพบว่า มีการนำงบฉุกเฉินมาใช้แทนงบปกติ เนื่องจากสภากรุงเทพมหานครไม่อนุมัติงบปกติให้ นอกจากนี้บริษัทที่เข้าร่วมซื้อซองและประกวดราคาอย่างน้อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด (ผู้ชนะการประกวดราคา) บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด (คู่เทียบการเสนอราคา) และบริษัท จิปาถะ ไอเดีย จำกัด (ร่วมซื้อซอง) ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน รวมถึงมีหญิงสาวรายหนึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจาก 3 บริษัท ไปแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์การทำธุรกิจไฟฟ้าประดับตกแต่ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร) ขณะเดียวกัน กทม. ได้สอบถามทีโออาร์จากบริษัท จิปาถะฯ ก่อนที่จะจัดทำทีโออาร์เสร็จภายในวันเดียว
 
นอกจากนี้ในทีโออาร์ระบุถึงเงื่อนไขเอกลักษณ์ความเป็นไทย แต่ไฟประดับที่จัดทำออกมาไม่มีเอกลักษณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันบริษัท คิวริโอฯ ที่ชนะการประกวดราคาก็สั่งซื้อของจากต่างประเทศมาเตรียมไว้ก่อนจะมีการประกวดราคาขึ้นอีกด้วย
 
ทั้งนี้ คตง.ได้พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ว่าฯ กทม. ธวัชชัย ผอ.กองการท่องเที่ยว ปราณี ผอ.สำนักวัฒนธรรม พร้อมกับคณะกรรมการที่กำหนด TOR รวม 9 ราย มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และน่าเชื่อว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินและทรัพย์สินของแผ่นดิน รวมถึงเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) จึงมีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด
 
เบื้องต้นแจ้งให้ รมว.มหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้บริหารสูงสุดของ กทม. รวมทั้งดำเนินการทางวินัยและอาญาแก่เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนนี้อาจเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย โดยภายในสัปดาห์นี้จะส่งสำนวนการไต่สวนให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาต่อไป
 
ขณะที่ความเสียหายนั้น ปัจจุบันคณะกรรมการตรวจรับการจ้าง ยังตรวจรับไม่เสร็จ เพราะจำนวนดวงไฟมีทั้งหมด 5 ล้านดวง กทม.จึงยังไม่ได้เบิกจ่ายงบประมาณจากงบฉุกเฉินมาจ่ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี สตง.ได้ให้ข้อแนะนำว่าไม่ควรเบิกจ่ายงบมาใช้ เนื่องจากหากพบว่า มีการฮั้วราคากันจริง หรือมีการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติ อาจจะทำให้ราชการเสียหายได้
 
ส่วนการจะดำเนินการส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอให้ใช้ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แต่ปัจจุบัน ศอตช. ยังไม่มีนโยบายให้รวบรวมรายชื่อข้าราชการหรือบุคคลที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์กระทำความผิด แต่หาก ศอตช.ส่งสัญญาณมา จะรวบรวมรายชื่อข้าราชการให้ตามขั้นตอน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net