Skip to main content
sharethis

11 พ.ค.2559 เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า คณะผู้แทนไทยนำโดย ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้นำเสนอรายงานการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยภายใต้กระบวนการ Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ 2 ต่อที่ประชุมคณะทำงาน UPR สมัยที่ 25 ที่นครเจนีวา

ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถ้อยแถลงมีใจความสำคัญว่า ประเทศไทยยึดมั่นในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยได้นำข้อเสนอแนะของประเทศต่าง ๆ จากการนำเสนอรายงาน UPR รอบแรกเมื่อปี 2554 ไปปฏิบัติจนเกิดผลลัพธ์และมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการเข้าเป็นภาคีและการถอนข้อสงวนที่มีต่อตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ เช่น การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร สิทธิเด็ก การขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรี สิทธิคนพิการ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ตราและปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนหลายฉบับที่เกี่ยวกับความเท่าเทียมระหว่างเพศ กองทุนยุติธรรม การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง การคุ้มครองเด็กจากการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านสื่อลามกอนาจาร การต่อต้านการทุจริตและการค้ามนุษย์ ตลอดจนการปฏิรูประบบราชทัณฑ์ อีกทั้งอยู่ระหว่างการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศยิ่งขึ้น

คณะผู้แทนไทยได้รับฟังข้อเสนอแนะและตอบชี้แจงคำถามจากประเทศต่าง ๆ รวม 102 ประเทศ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสิทธิมนุษยชนที่หลากหลาย อาทิ การปราบปรามการค้ามนุษย์ สิทธิแรงงาน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก สตรี คนชรา คนต่างด้าว การบังคับใช้กฎหมายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสรีภาพในการแสดงความเห็นและการชุมนุม สิทธิในการรวมกลุ่ม สิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม การจัดการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ

ประเทศต่าง ๆ ได้แสดงความชื่นชมต่อพัฒนาการของการส่งเสริมสิทธิด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของไทยซึ่งส่งผลเป็นรูปธรรม อาทิ สิทธิของกลุ่มเฉพาะต่าง ๆ มาตรการต่อต้านการค้ามนุษย์ การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ การประกันสุขภาพถ้วนหน้า ความเท่าเทียมระหว่างเพศ แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 การปฏิรูปกฎหมาย และการให้สัตยาบันและการถอนข้อสงวนที่มีต่อตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีข้อห่วงกังวลที่สำคัญ คือ เสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการชุมนุม การพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร การกักตัวตามอำเภอใจ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญและการลงประชามติโดยที่ควรให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนความเห็นได้อย่างเสรี

คณะผู้แทนไทยจะพิจารณาแจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบถึงข้อเสนอแนะของประเทศต่างๆ ที่ไทยพร้อมตอบรับทันทีในวันศุกร์ที่ 13 พ.ค. นี้  และจะนำข้อเสนอแนะอื่นๆ ไปพิจารณาเพิ่มเติมโดยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ไทยสามารถแจ้งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติทราบถึงข้อเสนอแนะที่ตอบรับเพิ่มเติมดังกล่าวได้ก่อนเดือน ก.ย. 59

สำหรับกลไก UPR เป็นกลไกภายใต้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่เน้นการส่งเสริมให้แต่ละประเทศสามารถให้ข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนกับประเทศอื่นๆ อย่างสร้างสรรค์และเท่าเทียม ในลักษณะของเพื่อนแนะนำเพื่อน โดยข้อเสนอแนะต่างๆ ขยายรวมไปถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างทุกภาคส่วนของสังคม และระหว่างประเทศ

ยันสหรัฐฯ ไม่ได้ประณามเหตุจับกุม คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ

เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ยังรายงานด้วยว่า ตามที่สื่อต่างประเทศบางสำนักได้รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามประเทศไทย กรณีการจับกุมผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ นั้น
 
กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับฝ่ายสหรัฐฯ แล้ว ขอชี้แจง ดังนี้ 1. กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มิได้ออกแถลงการณ์ใด ๆ ในประเด็นดังกล่าว 2. ข้อความที่สื่อบางสำนักรายงานเป็นเพียงการตอบคำถามโดยเจ้าหน้าที่เวรข่าวของกรมเอเชียตะวันออกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มิใช่การตอบคำถามโดยโฆษกระดับกรมอย่างที่มีการรายงาน อีกทั้ง มิได้ใช้ถ้อยคำว่า “ประณาม” (condemn) ตามที่สื่อบางสำนักรายงานแต่อย่างใด
 
3. รัฐบาลขอยืนยันว่า ประเทศไทยเคารพหลักสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ดี ต้องคำนึงถึงการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันความแตกแยกในสังคม เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงของการปฏิรูปประเทศเพื่อนำสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคงและความสามัคคีภายในชาติ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net