Submitted on Wed, 2016-05-18 03:13
17 พ.ค. 2559 เมื่อเวลา 14.00 น. สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง เป็นประธานประชุมเพื่อชี้แจง และกำหนดหลักเกณท์การจัดสรรเวลาการออกเสียงประชามติ โดยมี อัชพร จารุจินดา ภัทระ คำพิทักษ์ ตัวแทนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สมชาย แสวงการ ตัวแทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ทีวี สถานีวิทยุ ตัวแทนมหาวิทยาลัย และตัวแทนจาก กสทช.
สมชัย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมร่วมกันในการดำเนินการประชามติ ที่กฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องจัดสรรเวลาในการออกอากาศ เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ คำถามพ่วง และกระบวนการออกเสียงประชามติ ร่วมทั้งใช้เวลาของสถานีโทรทัศน์ให้เกิดความเท่าเทียม ในการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย บนพื้นฐานของเหตุผลที่ไม่ก้าวร้าว รุนแรง และไม่ขัดต่อกฎหมายที่มีอยู่ รวมถึงจะมีแนวทางอย่างไรที่จะทำให้รายการดังกล่าวเกิดการแพร่กระจาย ซึ่งประเด็นที่จะมีการรีรันก็คงจะต้องมีการพูดคุยถึงแนวทางดังกล่าวด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนรายละเอียดที่ลึก เช่น จะมีบุคคลใดมาพูดหรือแสดงความคิดเห็นบ้าง ขอให้แต่ละช่องเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ
สมชัย แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุม ได้กำหนดรายละเอียด การจัดสรรเวลาออกอากาสทางสถานีโทรทัศน์ ในลักษณะทีวีพูล ซึ่งจะมีการออกอากาศในช่วงเวลา 18.20-18.50น. จำนวน 13 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เริ่มจากวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. ออกอากาศทุกวันจันทร์และวันพุธ จนถึงสัปดาห์สุดท้ายวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. โดย 2 ครั้งแรก จะเป็นการออกอากาศชี้แจงกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติของ กกต. อีก 3 ครั้งเป็นการชี้แจงของ กรธ. เกี่ยวกับสาระสำคัญในเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ และอีก 2 ครั้ง ของสนช.เป็นการอธิบายประเด็นคำถามพ่วง ส่วน 6 ครั้งที่เหลือ จะให้เป็นการจัดเสวนาวิชาการ ที่สถานีช่องต่าง ๆ สามารถหาพิธีกร ผู้ร่วมรายการ ซึ่งช่องไหนจะจัดวันไหน หัวข้ออะไร วิทยากรคนใด จะมีการตกลงกันอีกครั้งในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. เวลา 14.00 น.
สมชัย กล่าวว่า ในการออกอากาศนั้นจะออกอากาศพร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 25 ช่อง จะมีการพ่วงสัญญาณไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐ 616 สถานีทั่วประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่เสียสละอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศ เนื่องจากการออกอากาศต้องใช้งบมูลค่ามหาศาล และสิ่งที่ กรธ.และ สนช.จะให้ข้อเท็จจริงของร่างรัฐธรรมนูญต่อประชาชน กกต.จะไม่มีการเซ็นเซอร์ โดยให้อิสระต่อสถานีได้เชิญคนที่มีความเห็นต่างทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมแสดงความคิดเห็น กำชับในเรื่อง ไม่เป็นความเท็จ ไม่หยาบคาย และไม่เป็นการปลุกระดม
“ในการจัดเวทีเสวนาจะต้องมีผู้เข้าร่วมจำนวน 2 คนแบ่งเป็นฝ่ายเห็นด้วย หรือฝ่ายที่เห็นถึงข้อดี 1 คน ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย หรือฝ่ายที่เห็นถึงข้อเสีย 1 คนมาพูดคุยกัน บนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กกต.ก็ได้แนะว่าการเสวนาแต่ละครั้งควรจะมีการหารือในประเด็นเรื่อง สิทธิเสรีภาพ รัฐสภา องค์กรอิสระ ศาลและศาลรัฐธรรมนูญเป็นต้น ซึ่งจะทราบผังรายการได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น กกต.ก็จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ ว่าวันใด มีเนื้อหาอย่างไร และมีบุคคลใดเข้าร่วมรายการบ้าง ส่วนการรีรันซ้ำ กกต.ไม่มีข้อห้าม จะนำมาเผยแพร่ซ้ำกี่ครั้งก็ขึ้นอยู่กับทางสถานีและจะพ่วงไปที่เว็ปไซต์ หรือสถานีดาวเทียมใดจะเกี่ยวสัญญาณก็สามารถทำได้” สมชัยกล่าว
สมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ของสปท. ส่งข้อเสนอแนะให้ กกต.กำหนดรายละเอียด เรื่องที่ทำได้ ทำไม่ได้ช่วงการทำประชามติให้เกิดความชัดเจนนั้น ทางกกต.จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า ส่วนกรณีที่กลุ่มนักวิชาการยื่นคำร้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ กกต. เป็นดุลยพินิจของผู้ตรวจการแผ่นดิน หากเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เพราะการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว กกต.ได้ทำอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย
สมชัย เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ กกต.ได้เป็นเจ้าภาพเชิญ กรธ. สนช. ครม. และตัวแทนจาก 77 พรรคการเมืองเข้าร่วมรับฟัง ชี้แจงเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและกระบวนการประชามติ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต เวลา 14.00 น.
ที่มา สำนักข่าวไทย