ปม 'เด่น คำแหล้' นักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดิน หายตัว ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ตรวจบริเวณพบชิ้นส่วนรอยไฟไหม้ คาดไม่ใช่เถ้ากระดูกมนุษย์

21 พ.ค.2559 ความคืบหน้ากรณีการหารตัวไปของ เด่น คำแหล้ อายุ 65 ปี ประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ แกนนำการนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินบนผืนป่าโคกยาว ที่หายตัวไปตั้งแต่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังเดินทางเข้าป่าบริเวณสวนป่าโคกยาวรอยต่อระหว่างป่าสงวนหางชาติภูซำผักหนาม และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เพื่อเข้าไปหาเก็บหน่อไม้ ไปวางขายที่ตลาดทุ่งลุยลาย

วานนี้ (20 พ.ค.59) ศรายุทธ ฤทธิพิณ สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน รายงานว่า เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ประมาณ 10 คน พร้อมนำอุปกรณ์ลงตรวจสอบพื้นที่จุดไฟไหม้ ที่ทีมชาวบ้านค้นพบชิ้นส่วนรอยไฟไหม้ และคาดว่าอาจมีลักษณะคล้ายกระดูกถูกเผา บริเวณทั้งสิ้น 4 จุด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าหากเป็นกระดูกมนุษย์ อาจเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อมโยงไปสู่การหายตัวของ เด่น 

ทางด้าน นพ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและสัมผัสด้วยสายตาไม่ใช่เถ้ากระดูกของมนุษย์

นพ.สุรณรงค์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า ได้รับการประสานงานมาทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือถึงผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตนจึงได้รับมอบหมายเพื่อลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์จุดเกิดเหตุ เพื่อจะได้คลี่คลายคดีนี้เพิ่มเติม ตามที่ทีมชาวบ้านได้พบชิ้นส่วนกอไผ่ถูกไฟไหม้บริเวณ 3 จุด และบริเวณลำน้ำพรม อีก 1 จุด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายกระดูก

ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติมอีกว่า จากพื้นที่ที่ตรวจสอบร่องรอยกอไผ่ไฟไหม้ทั้ง 3 จุดนั้น ไม่พบวัตถุที่ต้องสงสัยใดเพิ่มเติม นอกจากชิ้นส่วนของไม้ไผ่ และเศษหินที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งจากการสัมผัสไม่ใช่เป็นเถ้ากระดูกของมนุษย์แต่อย่างใด ส่วนจุดที่ 4 บริเวณลำน้ำพรม แม้ปัจจุบันจะถูกน้ำท่วมไปแล้วนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพร่องรอยไฟไหม้ที่น้ำท่วมไม่ถึง เช่น กิ่งไม้ โคนต้นไม้ เพื่อนำไปพิสูจน์ร่องรอยของเขม่าควันไฟ เช่นเดียวกับอีก 3 จุด ที่ทางทีมงานได้บันทึกภาพ ทำแผนที่แต่ละจุดไว้แล้ว เพื่อจะนำไปประกอบการทำรายงานในการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

นอกจากนี้ นพ.สุรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากชาวบ้านได้พบร่องรอย เบาะแส ที่สงสัยให้แจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และทำหนังสือขอความร่วมมือมาทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หากได้รับการประสาน อีกในคราวหน้า พร้อมจะลงมายังพื้นที่อีกครั้ง

สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน รายงาน รายงานด้วยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ทีมค้นหาของสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน พบกอไผ่ถูกไฟไหม้บริเวณ 3 จุด ห่างจากบริเวณด้านหลังหน่วยพิทักษ์ป่าหนองไรไก่ ประมาณ 50 เมตร จึงร่วมกันใช้ไม้เขี่ยบนกองขี้เถ้าทั้ง 3 จุดดังกล่าว ปรากฏว่าพบชิ้นส่วนคล้ายกระดูก นอกจากนี้ห่างจากจุดกอไผ่ไปยังบริเวณลุ่มน้ำพรม ประมาณ 200 เมตร ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าอาจเป็น หลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อมโยงไปสู่การหายตัวของ เด่น