Skip to main content
sharethis
กรมป่าไม้นำร่องโครงการ "พลิกฟื้นผืนป่า ประชารัฐพิทักษ์ป่าน่าน" บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ อ.เวียงสา พื้นที่ 300 ไร่ โดยนำกล้าไม้ปลูกในพื้นที่ 100 ไร่ ส่วนพื้นที่สูงที่ไม่เหมาะกับการเดินขึ้นไปปลูกกล้าไม้จะใช้วิธีการโปรยเมล็ดพันธุ์ไม้โดยใช้อากาศยานขนาดเล็ก พารามอเตอร์ และยิงเมล็ดพันธุ์ด้วยหนังสติ๊ก
 
18 มิ.ย. 2559 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่าพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมนำร่องปลูกป่าในพื้นที่จังหวัดน่าน บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ภายใต้โครงการ "พลิกฟื้นผืนป่า ประชารัฐพิทักษ์ป่าน่าน" เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดน่านมีพื้นที่ทั้งหมด 7.6 ล้านไร่ เคยมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์กว่า 6 ล้านไร่ แต่ถูกบุกรุกพื้นที่ป่าไปแล้ว 1.4 ล้านไร่ ทำให้น่านเหลือผืนป่าเพียง 4.6 ล้านไร่ และมีแนวโน้มถูกบุกรุกเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมป่าไม้ ได้นำพื้นที่จังหวัดน่านบริเวณอำเภอเวียงสาที่มีสภาพเป็นภูเขาหัวโล้น 300 ไร่ เพื่อปลูกป่าฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมให้กลับคืนความสมบูรณ์ โดยใช้รูปแบบการนำกล้าไม้ชนิดพันธุ์ต่าง ๆ ปลูกในพื้นที่ 100 ไร่ ส่วนพื้นที่สูงที่ไม่เหมาะกับการเดินขึ้นไปปลูกกล้าไม้ จะใช้วิธีการโปรยเมล็ดพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ กว่า 200,000 เมล็ด โดยใช้อากาศยานขนาดเล็ก หรือเครื่องพารามอเตอร์ 40 ตัว บินขึ้นไปโปรยเมล็ดพันธุ์บนพื้นที่ภูเขาสูง การยิงเมล็ดพันธุ์ไม้ (Seed Balls) ด้วยหนังสติ๊ก ซึ่งใช้หลักวิชาการด้วยการนำดินมาหุ้มเมล็ดพันธุ์ไม้ให้มีน้ำหนักตกลงสู่พื้นดินไม่ติดค้างตามใบไม้ใบหญ้า ที่สำคัญดินที่นำมาหุ้มเมล็ดพันธุ์ต้องผสมกับปุ๋ยที่ละลายช้า เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ที่โปรยบนภูเขาหัวโล้นมีต้นทุนเจริญเติบโตต่อไปได้ เช่น มะค่าโมง ประดู่ สมอพิเภก มะขาม ไผ่บง ไผ่ซาง มะขามป้อม เสี้ยวบ้าน พฤกษ์ สีเสียดแก่น กระถินยักษ์ ขี้เหล็กบ้าน พะยูง แดง รวมทั้งขบวนจักรยานเสือภูเขา ร่วมปลูกฟื้นฟูป่าแนวกันชนเขตอนุรักษ์ของกรมอุทยานฯ การปลูกแฝกเพื่อลดการพังทลายของหน้าดินและดักตะกอนดิน การปลูกถั่วมะแฮะเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ดิน
 
ขณะที่ นายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า เขตป่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ถูกบุกรุกทำการเกษตรเพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อย จนสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศป่าไม้และแม่น้ำลำธารอย่างรุนแรง กระทบต่อการดำรงชีวิตกับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นราบ ถึงเวลาที่ต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าอย่างเฉียบขาด โดยเน้นเป้าหมายกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และใช้แนวปฏิบัติจากคำสั่งของ คสช. เพื่อนำป่าที่ถูกบุกรุกกลับมาปลูกป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศต้นน้ำในอนาคต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net