เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา งดฉาย "สิ้นแสงฉาน" ด้วยเหตุผลเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ไทย-พม่า พร้อมงดฉายภาพยนตร์อีก 3 เรื่องที่เปิดเผยเรื่องราวเชิงลบในไทยได้แก่  Pattaya (2016) Happy Hour in Paradise (2015) และ Detective Chinatown (2016)

ภาพจากตัวอย่างภาพยนต์ "Twilight Over Burma" (ที่มา Dor-flim.com)

7 ก.ค. 2559 มีรายงานว่า ในเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 4 หรือ Thailand International Film Destination Festival 2016 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่าง 6 ถึง 12 กรกฎาคม 2559 ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน มีการถอดภาพยนตร์ "สิ้นแสงฉาน" หรือ "Twilight Over Burma" ออกจากโปรแกรมฉายแล้ว

ในกรณีงดฉายในประเทศไทย มติชนออนไลน์ รายงานสาเหตุการงดฉายว่า มาจากผู้จัดภาพยนตร์ที่เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมีเนื้อหาสุ่มเสี่ยงที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและพม่า จึงถอดภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวออกเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ยังมีอีก 3 เรื่องที่ถูกถอดจากโปรแกรมได้แก่ Pattaya (2016), Happy Hour in Paradise (2015) และ Detective Chinatown (2016)

โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์พม่า ก็ไม่อนุญาตให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ ในเทศกาลภาพยนตร์สิทธิมนุษยชนนานาชาติ (Human Rights Human Dignity International Film Festival) หรือ HDIF ประจำปี 2016 ขณะที่สำนักข่าวอิระวดีสัมภาษณ์คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์พม่า ซึ่งเปิดเผยสาเหตุการห้ามฉายว่าทำลายภาพลักษณ์ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างชาติพันธุ์ในพม่า

สำหรับภาพยนตร์ "สิ้นแสงฉาน" กำกับโดย ซาบีน เดอฟลิงเงอร์ ผู้กำกับหญิงชาวออสเตรีย นำแสดงโดย ทวีฤทธิ์ จุลทรัพย์ รับบทเป็นเจ้าจ่าแสง และ มาเรีย เอริค นักแสดงสาวชาวเยอรมัน และหลายฉากถ่ายทำในประเทศไทย เป็นภาพยนตร์สร้างจากหนังสือ Twilight Over Burma: My Life as a Shan Princess ชิวตรักระหว่างเจ้าจ่าแสง เจ้าฟ้าเมืองสีป้อ รัฐฉาน กับ อิงเง เซอร์เจน หญิงชาวออสเตรีย ที่พบรักกันระหว่างเจ้าจ่าแสงไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาและไม่ยอมเปิดเผยสถานะเจ้าฟ้าของตน จนกระทั่งพาอิงเง เซอร์เจน กลับมายังพม่า โดยอิงเง เซอร์เจน มีอีกชื่อหนึ่งว่า เจ้าหญิงสุจันติ ต่อมาหลังพม่าได้รับเอกราช เจ้าจ่าแสง มีตำแหน่งอยู่ในสภาสูงของพม่า ต่อมาหลังนายพลเนวินยึดอำนาจในปี 2505 เจ้าจ่าแสงเป็นหนึ่งในบรรดาเจ้าฟ้าที่ถูกจับและหายสาบสูญ

ต่อมาหลังครอบครัวของอิงเง เซอร์เจน การอพยพออกจากรัฐฉานไปอยู่ต่างประเทศ หลายปีต่อมา ในปี 2537 อิงเง เซอร์เจน ได้เขียนเผยแพร่หนังสือชื่อ “Twilight Over Burma” และอีกหนึ่งปีต่อมาได้ก่อตั้งองค์กรเบอร์มาร์ไลฟ์ไลน์ จัดหางบประมาณและให้การช่วยเหลือผู้อพยพตามแนวชายแดนไทย – พม่า

ในปี 2551 อิงเง เซอร์เจน ได้ก่อตั้งกองทุนรางวัลภาวะผู้นำเจ้าสุจันติ (Sao Thusandi Leadership Award) โดยมุ่งเน้นมอบรางวัลให้แก่เยาวชนจากรัฐฉาน  ที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานด้านประชาธิปไตย สันติภาพ การสร้างสรรค์สังคม และสิทธิมนุษยชน

อนึ่งก่อนหน้านี้มีการฉายภาพยนตร์สิ้นแสงฉานเมื่อ 26 พฤษภาคม ที่ห้องออดิทอเรียม หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร โดยเป็นการฉายรอบพิเศษ จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตออสเตรียประจําประเทศไทย มีการเชิญบุคคลสำคัญเข้าชม นอกจากนี้มีการนำไปฉายที่ จ.เชียงใหม่ ด้วย