เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ทางกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ) ระบุพบเอกสารสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญปลอมในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ต้องตรวจสอบเนื้อหา หากพบว่า มีการแสดงความเห็นหรือให้ข้อมูลที่บิดเบือน ก็ให้เร่งทำความเข้าใจ และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบุคคลผู้เกี่ยวข้อง ที่จะดำเนินการกับผู้ที่บิดเบือนดังกล่าว ส่วนความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ นั้น จนถึงขณะนี้ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยในการทำประชามติ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ อย่างมีนัยยะสำคัญของกลุ่มต่าง ๆ ที่จะสร้างสถานการณ์ การเฝ้าระวังเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ที่จะต้องร่วมกัน ตรวจสอบความเคลื่อนไหว
องอาจ แนะ กรธ.เคลียร์ปมร่างรธน.ปลอม หากผิดควรดำเนินคดีอย่างจริงจัง
“การพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญปลอมขึ้นมาและแจกจ่ายอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนไปจนถึงมือกรธ.ได้ น่าจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสลับซับซ้อนอะไรที่จะตรวจสอบว่ารัฐธรรมนูญปลอม ว่าพิมพ์ที่ไหน ใครเป็นผู้ว่าจ้าง จ่ายเงินค่าจัดพิมพ์ ในเมื่อทางกรธ.ยืนยันว่ามีหลักฐานจริง และชัดเจน ก็ควรเอาหลักฐานที่มีอยู่ไปแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ข้อเท็จจริงมากกว่าการกล่าวอ้างกันไปมาลอย ๆ เท่านั้น ไม่เช่นนนั้นจะทำให้ผู้คนในสังคมเคลือบแคลงสงสัยได้ว่ากรธ.ปูดประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญปลอมขึ้นมา โดยมีเจตนาแอบแฝงเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือไม่” องอาจ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนจะถึงวันลงประชามติ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองควรปล่อยให้การแสดงออกที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปตามธรรมชาติ การสร้างเงื่อนไขใด ๆ จากฝ่ายใดก็ตามที่ทำให้การแสดงออกเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามธรรมชาติจะทำให้ผลการทำประชามติขาดความชอบธรรม ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวมแต่อย่างใด
โฆษก กรธ.ปัดสร้างข่าวเรื่องเอกสารบิดเบือนร่าง รธน.
อมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวถึง กรณีดังกล่าวว่า กรธ.มีเจตนาแอบแฝง เพื่อหวังผลที่ไม่เป็นไปโดยสุจริต ว่า กรธ.ไม่ได้สร้างข่าวนี้ออกมา แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคนแจกเอกสารร่างรัฐธรรมนูญ อ้างว่าเป็นเอกสารของ กรธ. และมีการนำเสนอข่าวว่า มีการแจกจ่ายเอกสารปลอม