จลาจลคุกปัตตานี ผู้ต้องขังไม่พอใจกฎระเบียบเข้มงวดจากปัญหายาเสพติด

หน่วยงานความมั่นคงใช้กว่า 7 ชม.เข้าควบคุมสถานการณ์ หลังผู้ต้องขังเกือบ 500 คน ก่อเหตุจลาจลเผาอาคารในเรือนจำหลายหลังตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ เหตุไม่พอใจเจ้าหน้าที่และกฎระเบียบเรือนจำที่เข้มงวดขึ้นมากจากปัญหายาเสพติด พร้อมเสนอข้อเรียกร้อง 11 ข้อ


ภาพจากเว็บไซต์ไทยพีบีเอส

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2559  เว็บไซต์ไทยพีบีเอส รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุจลาจลภายในเรือนจำกลางปัตตานี โดยกลุ่มผู้ต้องขังประมาณ 300-400 คน ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าและมีอาวุธเป็นท่อนไม้เดินเกาะกลุ่มทำลายข้าวของจนได้รับความเสียหาย พร้อมกับเผาอาคาร สร้างความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำสกัด ท่ามกลางผู้ต้องขังที่ปาก่อนหินใส่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นระยะ เนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่เรือนจำที่เข้มงวดเพื่อจัดการปัญหายาเสพติด

ขณะที่มีรายงานว่ามีต้องขังถูกทำร้ายเสียชีวิตบางคนและมีกลุ่มผู้ต้องขังบางส่วนที่อยู่ภายในเรือนนอน และไม่ได้เข้าร่วมก่อเหตุหลบอยู่ด้านหลังอาคาร เจ้าหน้าที่ต้องนำต้วผู้ต้องขังออกมาจากเรือนจำเพื่อความปลอดภัย ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ร่วมกันประชุมเพื่อวางมาตรการในการควบคุมสถานการณ์ หลังผู้ก่อเหตุยื่นข้อเรียกร้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการส่งทีมเจรจาในเรือนจำถึง 3 ครั้ง แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนเวลาประมาณ 22.00 น.ผู้บัญชาการเรือนจำปัตตานีตัดสินใช้อำนาจตามกฎหมาย ขอกำลังตำรวจชุดปราบจลาจลของจังหวัดปัตตานี และกำลังทหาร เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ

เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง ในการควบคุมเหตุจลาจลภายในเรือนจำกลางปัตตานี หลังผู้บัญชาการเรือนจำ ขอกำลังตำรวจชุดปราบจลาจล เข้าระงับสถานการณ์ การควบคุมสถานการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยางยิงเข้าไปในเรือนจำ เพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังอยู่กันเป็นกลุ่ม ก่อนจะนำกำลังเข้าควบคุมและนำตัวผู้ต้องขังบางส่วนแยกไปควบคุมไว้ที่สถานีตำรวจต่างๆ และในค่ายทหาร ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย

มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คนจากเหตุจลาจลดังกล่าว ได้แก่ น.ช.เกียรติศักดิ์ จันทร์ดวง น.ช.เสริม จันทร์สุนทร และ น.ช.สุอนันต์ ป้องเช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าชันสูตรศพ 2 ศพที่ยังอยู่ในภายเรือนจำ นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงและเจ้าหน้าที่เรือนจำอยู่ระหว่างเข้าสำรวจความเสียภายในเรือนจำ

สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้มีญาติผู้ต้องขังจำนวนมากมารอพบเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามข้อมูลของผู้ต้องขังหลังเกิดเหตุจลาจลเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ จนกระทั่งเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูรั้วให้ญาติเข้ามานั่งรอที่ศาลาในบริเวณเรือนจำ แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์จึงไม่มีการให้เยี่ยมผู้ต้องขัง อีกทั้งสัปดาห์หน้าเป็นวันหยุดยาว ญาติจึงได้แต่นั่งรอโดยไม่ทราบว่าจะได้พบผู้ต้องขังหรือไม่ บางคนนั่งร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ เรือนจำกลางปัตตานีมีผู้ต้องขังอยู่ประมาณ 1,700 คน ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเหตุจลาจลเมื่อคืนนี้ มีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังออกไปบางส่วน

นายมูหาหมัดซิดดิบ หะยีเต๊ะ พี่ชายของนายอันวาร์ หะยีเต๊ะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เป็นหนึ่งในกลุ่มญาติที่มานั่งรอ ซึ่งผู้คุมเรือนจำได้ออกมาพูดคุย โดยยืนยันกับพี่ชายของนายอันวาร์ว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจลาจลในเรือนจำตามที่มีรายงายไปก่อนหน้านี้

"อันวาร์ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้เลย เจ้าหน้าที่แค่ขอให้เขามาช่วยเป็นล่ามเท่านั้น" ผู้คุมเรือนจำกลางปัตตานีบอกกับพี่ชายของนายอันวาร์

ThaiPBS รายงานไทม์ไลน์

เวลาประมาณ 15.00 น. เกิดเหตุนักโทษก่อจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดปัตตานี

เวลา 16.00 น. ผู้ต้องขังได้เผาอาคาร 1 หลัง เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงแจ้งให้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปัตตานี เดินทางมาฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ พบว่าอาคารโรงครัว เสียหาย 1 หลัง ระหว่างนั้น ผู้ต้องขังได้ปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นระยะ

เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ปัตตานี กว่า 300 นาย สนธิกำลังเข้าไปนำตัวเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ติดอยู่ภายในเรือนจำออกมาเพื่อความปลอดภัย

สถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และอยู่ระหว่างการประชุมเพื่อหาแนวทางการเจรจากับกลุ่มนักโทษให้ยุติเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากผู้ต้องขังเรียกร้องขอพบนายสุริยะ อมรโรจน์วรกุล ผู้ว่าฯ ปัตตานี และเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดปัตตานี 3 คน ออกจากพื้นที่โดยด่วน

เวลา 21.00 น. ผู้ต้องขังเผาอาคารส่วนการศึกษา ภายในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านโทรโข่ง ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในเรือนนอน

เวลา 21.10 น. ผู้ต้องขังยื่นข้อเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ 11 ข้อ

1.ไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ต้องขังที่ผิดวินัยเกินกว่าเหตุ
2.ห้ามย้ายผู้ต้องขังทุกคน
3.ให้ย้าย ผอ.คนใหม่ออกจากเรือนจำพร้อมเจ้าหน้าที่ ดังนี้ นายสามารถ นายสวัสดิ์ นายวิสิทธิ์ นายธวัชชัย (หมอ) นายบัญชา นายโชคชัย นายอารีย์ ดาราสันต์
4.ขอหัวหน้าฝ่ายควบคุมคนเดิมกลับมา
5.ให้ช่วยเหลือหัวหน้ากองงานเป็นผู้ต้องขังมุสลิมทุกคน
6.ขอให้ผู้ต้องขังที่เป็นสามีและภรรยาเจอกันอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
7.ขอให้ของฝากจากญาติเยี่ยมเข้าไปตามปกติ
8.ขอให้ทางเรือนจำเปิดข่าวสารให้ผู้ต้องขังดูได้ตามปกติ
9.ขอให้เลื่อนขั้นผู้ต้องขัง 6 เดือนครั้ง และใส่ใจต่อผู้ต้องขัง
10.ให้นำอาหารขึ้นเรือนนอนได้
11.เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ให้เอาผิดกับผู้ต้องขังทุกคน

เวลา 21.30 น. สถานการณ์ในเรือนจำกลางปัตตานี ยังมีความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่เจรจาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล นายนพพร รัตนวัย ผบ.เรือนจำกลางปัตตานี มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าระงับเหตุการณ์ภายในเรือนจำได้

เวลา 21.57 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย ได้เข้าแถวเตรียมพร้อม และเดินเข้าไปในในเรือนจำ

เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ล่าถอยออกมาด้านนอก

เวลา 22.15 น.มีรายงานว่าผู้ต้องขังก่อเหตุเผาภายในเรือนจำแล้ว 7 จุด ขณะนี้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่

เวลา 22.18 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของเรือนจำได้ประกาศกับผู้ต้องขังที่อยู่ภายในว่า หากยังไม่หยุดการก่อเหตุภายในเรือนจำ ซึ่งมีการเผาไปแล้ว 7 จุด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้มาตราการขั้นเด็ดขาด และจะระงับเหตุให้ได้ภายในคืนนี้

เวลา 22.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอส. เข้าไปในเรือนจำแล้ว ทางประตูด้านหน้า ขณะที่ภายในเรือนจำมีการเผาอีกแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง และเจ้าหน้าที่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินส่องไฟ วนเหนือบริเวณเรือนจำตลอดเวลา

เวลา 22.22 น. มีเสียงคล้ายเสียงปืนดังออกมาจากภายในเรือนจำ เป็นชุดแรก และยังเปิดคลื่นความถี่สูงเพื่อรบกวนสัญญาณโทรศัพท์ด้วย

เวลา 22.30 น. มีเสียงดังคล้ายปืนขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่นำรถควบคุมผู้ต้องขัง จำนวน 2 คัน มาจอดไว้ที่ประตูเรือนจำ

เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอส. เข้าไปในเรือนจำแล้วทางประตูด้านหน้า มีเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้นหลายนัด นำรถคุมผู้ต้องขังนำรถมาจอดหน้าเรือนจำ

เวลา 22.33 น. เจ้าหน้าที่เตรียมชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ และเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย มาเตรียมพร้อมไว้ และยังมีรถของหน่วยกู้ภัยด้วย

เวลา 22.40 น. เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้สื่อข่าวออกนอกพื้นที่เรือนกลางปัตตานีทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่รายงานว่า ไม่มีการใช้กระสุนจริง

เวลา 22.51 น. เจ้าหน้าที่ระบุว่า ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว กำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากเรือนจำ

เวลา 22.53 น. เพลิงสงบลงแล้ว แต่ยังมีกลุ่มควัน

เวลา 23.03 น. รถควบคุมผู้ต้องขังแล่นออกมาจากภายในเรือนจำ 1 คัน แต่ไม่ทราบจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ภายใน

เวลา 23.09 น. หน้าเรือนจำ รถบรรทุกนักโทษของตร เข้าไปเพิ่ม

เวลา 23.13 น. รถบรรทุกนักโทษออกมา 1 คัน นักโทษเต็มรถ

เวลา 23.24 น. มีรถควบคุมผู้ต้องขังออกมาจากภายในเรือนจำ 1 คัน แต่ไม่ทราบจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ภายใน พร้อมทั้งเรียกรถกู้ภัยเข้าไปภายในเรือนจำเป็นระยะ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เวลา 23.30 น. รถผู้ต้องขังออกไปอีกคัน

เวลา 23.43 น. รถบรรทุกผู้ต้องขังออกไป 3 คัน มีผู้ต้องขังถูกย้ายออกไป 230 คน และยังไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุหรือไม่ หรือเป็นการย้ายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งรถบรรรทุกผู้ต้องขังมาจากเรือนจำกลางสงขลา เรือนจำจังหวัดนาทวี และเรือนจำกลางยะลา นอกจากนี้รถกู้ชีพยังลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาเป็นระยะ ในช่วง 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท