Skip to main content
sharethis

<--break- />

8 ส.ค.2559  We Watch อาสาสมัครเยาวชนสังเกตการณ์ประชามติ แถลงผลการสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 1) ใช้ พ.ร.บ. ประชามติมาตรา 61 วรรค 2 จับกุมคนเห็นต่าง ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหนัก สร้างความกลัวให้กับประชาชนในการถกเถียง 2) ในวันออกเสียงประชามติ มีการรายงานการพบเห็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยออกเสียงที่ไม่เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ 3) มีการรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในหน่วยออกเสียงประชามติซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการตัดสินใจของประชาชน 4) การไม่อนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลต่อประชาชนโดยทั่วไปในเรื่องความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยออกเสียง 5) ด้วยจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่มีเพียง 27 ล้านคน และความสับสนของประชาชนระหว่างการออกเสียง ได้สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของประชาสัมพันธ์และการสร้างความเข้าใจที่ไม่เพียงพอ ทั้งในเรื่องการลงทะเบียนนอกเขตและต่อเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญและคำถามเพิ่มเติม

รายละเอียดมีดังนี้

แถลงผลการสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติ
เครือข่าย We Watch อาสาสมัครเยาวชนสังเกตการณ์ประชามติ

เครือข่าย We Watch อาสาสมัครเยาวชนสังเกตการณ์ประชามติได้มีการจัดการสังเกตการณ์การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย พุทธศักราช 2559 ในพื้นที่ 21 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 - วันที่ 7 สิงหาคม 2559 พบว่า ภาพรวมของการสังเกตการณ์การจดัการการออกเสียงประชามติไม่พบความรุนแรงจนทำให้ประชาชนไม่สามารถออกมาใช้สิทธิได้ และเจ้าหน้าที่สามารถจัดการลงประชามติในหน่วยออกเสียงไดจ้นเสร็จสิ้นกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตการณ์ของอาสาสมคัรพบว่า การจัดการการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ช่วงก่อนวันออกเสียงประชามติยังขาดเสรีภาพ ความโปร่งใส และความเป็นธรรม ซึ่งขัดต่อมาตรฐานสากลของการจัดการออกเสียงประชามติ โดยในช่วงก่อนวันออกเสียงประชามติได้เกิดสถานการณ์ 1) การบังคับใช้ พ.ร.บ. ประชามติมาตรา 61 วรรค 2 ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ มีการจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้แสดงออกด้วยการรณรงค์หรือผู้ที่แสดงความเห็นต่าง ขาดความเท่าเทียมในการแสดงความคิดเห็น และการรณรงค์ระหว่างผู้ที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนทั่วไปในการพูดคุย ถกเถียงในเรื่องการออกเสียงประชามติในพื้นที่สาธารณะ 2) ในวันออกเสียงประชามติ มีการรายงานการพบเห็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยออกเสียงที่ไม่เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ 3) มีการรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในหน่วยออกเสียงประชามติซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการตัดสินใจของประชาชน 4) การไม่อนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลต่อประชาชนโดยทั่วไปในเรื่องความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยออกเสียง 5) ด้วยจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่มีเพียง 27 ล้านคน และความสับสนของประชาชนระหว่างการออกเสียง ได้สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของประชาสัมพันธ์และการสร้างความเข้าใจที่ไม่เพียงพอ ทั้งในเรื่องการลงทะเบียนนอกเขตและต่อเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญและคำถามเพิ่มเติม

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการประกาศผลการออกเสียงประชามติอย่างเป็นทางการแล้ว ทางเครือข่ายมีข้อเสนอแนะต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ ดังนี้

1. หลังการออกเสียงประชามติเสร็จสิ้น ภายในสังคมอาจมีความเห็นแย้งของประชาชนดำรงอยู่ รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ควรเปิดพื้นที่ให้มีการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกเหล่านั้น โดยเสรีปราศจากการข่มขู่คุกคามหรือการจับกุมคุมขัง

2. คณะกรรมการการเลือกตั้งควรทบทวนในเรื่องบทบาทของตนเอง ความเป็นกลาง และการปฏิบัติงานอย่างอิสระโดยแท้จริง เพื่อให้กระบวนการจัดการการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากลของการจัดการการเลือกตั้ง รวมไปถึงการรณรงค์และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในกระบวนการการเลือกตั้งในอนาคตอย่างแท้จริง

3. ในการจัดการการเลือกตั้งในอนาคต คณะกรรมการการเลือกตั้งจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการจัดการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างรอบด้าน เพื่อให้กระบวนการจัดการการเลือกตั้งมีความโปร่งใสและเป็นธรรม

เครือข่าย We Watch อาสาสมัครเยาวชนสังเกตการณ์ประชามติ

8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net