สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แถลงออกทีนิวส์เตรียมยุติการออกอากาศช่องทีนิวส์ 1 ต.ค. นี้เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนหลัง คสช. ยึดอำนาจและสั่งปิด แต่ไม่ขอต่อว่าเพราะ 'พล.อ.ประยุทธ์' ทำเพื่อชาติ โดยหลังจากนี้ทีนิวส์จะผลิตรายการข่าวป้อนช่องดิจิทัล 'BrightTV' จันทร์-ศุกร์ 2 รายการ เสาร์ 1 รายการ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ กล่าวในรายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ดำเนินรายการโดย ยุคล วิเศษสังข์ โดยสนธิญาณชี้แจงว่าในวันที่ 1 ต.ค. นี้ จะยุติการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีนิวส์ ทีวี เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนและหนี้สิน 

ทั้งนี้สนธิญาณกล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์ หลังเข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ทำให้ชีวิตและธุรกิจถูกทำลาย มีหนี้สินเกือบ 70 ล้านบาท ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะปรับโครงสร้างองค์กร ทั้งการลดพนักงาน 40 คน ลดเงินเดือนผู้บริหาร เพิ่มเวลาทำงานและหน้าที่แก่พนักงาน รวมทั้งจัดกิจกรรมหารายได้ให้สถานี เช่น การจัดทัวร์ แต่ไม่เป็นผล

"ทั้งสิ้นทั้งปวงทำเพราะไม่มีใครทำ ทำเพราะไม่มีใครกล้า แต่ทีนิวส์กล้า ถามว่าใจหายไหมวันนี้ ใจหายไหมวันนี้ ใจหาย ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ยืนหยัดมา 6 ปี แต่ท่านผู้ชมก็ชัดเจนในตัวของท่าน ผมคิดว่าเวลาเกิดปัญหาหรือประเด็นขึ้น เสือไม่ร้อง มีแต่คำรามและสู้ จึงมีแต่หมาที่ร้อง และชีวิตผมเกิดมาไม่ใช่เพื่อเป็นหมา แต่เกิดมาเพื่อเป็นเสือ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าสู้ แต่จะสู้แบบไหนก็ว่ากันไป"

ยุคลถามในรายการว่า ทำไมจึงต้องปิด สนธิญาณตอบว่า "ปิด ก็เพราะเงินมันหมด ชัดเจนไหมครับ" ทั้งนี้สนธิญาณกล่าวว่าจะไม่รับเงินบริจาคจากใคร ไม่ว่าจะเป็นเงินเล็กเงินน้อย เหตุผลก็คือ หากทีนิวส์จะยืนอยู่ได้ ก็อยู่ด้วยตัวของมันเอง ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ขอให้ช่วยดูทีนิวส์ ดูกันให้มากแล้วเอเจนซี่จะมาซื้อโฆษณา นอกจากนี้สนธิญาณกล่าวด้วยว่า คนดูทีนิวส์เยอะ เดินไปที่ไหนก็มีแฟนข่าวที่นิวส์มาทักทาย

สนธิญาณกล่าวด้วยว่า ชีวิตผมไม่เคยร้องครวญครางหรือขอความเห็นใจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้ชมต้องเข้าใจว่าทีนิวส์ต้องปิดเพราะ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็มีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นว่ามีจิตวิญญาณการต่อสู้ต่างจากเสื้อแดง สนธิญาณกล่าวด้วยว่าตัวเขานั้น ทรัพย์สินเงินทองที่สะสมมาต้องหยิบมาใช้ เบิกมาใช้อยู่เรื่อยพนักงานทีนิวส์เงินเดือนน้อยกว่าที่อื่น ก็ต้องประคับประคองกันไป

สนธิญาณ กล่าวด้วยว่า ก่อนการยึดอำนาจ ทีนิวส์มีเรตติ้งอันดับ 1 เอเจนซี่แห่กันมาซื้อโฆษณา เปิดมา 3 ปี ขาดทุน 10-20 กว่าล้าน กำลังจะคืนทุน รายได้กำลังดี ทุกคนมีความสุขว่าเราจะรอดพ้นวิกฤต ปรากฏว่า คสช. สั่งปิด พล.อ.ประยุทธ์ เซ็นคำสั่งปิด บอกได้คำเดียวว่าท่านได้ทำลายทีนิวส์ลงแล้ว ท่านได้ทำลายชีวิตทำลายธุรกิจสนธิญาณเสียแล้ว แต่ไม่เคยไปพูดข้างนอก ไม่เคยต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังสนับสนุน และเป็นช่องที่สนับสนุน คสช. อย่างสุดตัว เป็นช่องที่ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และไม่เคยเดินไปขอเงิน หรือขอรายการจากกองทัพทำ

นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาการแข่งขันระหว่างทีวีดิจิตอล กับ ทีวีดาวเทียม และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้สั่งให้ทีวีดาวเทียมมีการเข้ารหัส ทำให้ดูทีวีดาวเทียมได้ยากขึ้น ลดเหลือเฉพาะผู้ชมจานดำพีเอสไอ 8 ล้านคน ขณะที่ต้นทุนการส่งสัญญาณยังสูง โดยยืนยันว่า สำนักข่าวทีนิวส์ และบริษัท ทีนิวส์ ทีวี ไม่ได้ปิดตัวลง ยังดูแลพนักงานที่เหลืออยู่ 140 คนเหมือนเดิม รวมทั้งผู้สื่อข่าวภูมิภาคและเครือข่าย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับสื่อขนาดใหญ่ ที่ทยอยลดพนักงานนับร้อยคน รวมทั้งการเกิดขึ้นของเฟซบุ๊กที่มาแทนทีวี

สนธิญาณ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. เพราะยอมเลือกที่จะให้ประเทศชาติยืนต่อไปได้ ในสถานการณ์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ คือทางรอดของประเทศ ไม่ใช่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ใช่ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่บรรดานักการเมือง นักเลือกตั้งทั้งหลายในสถานการณ์นี้ มีจุดอ่อนไหม พล.อ.ประยุทธ์ มี ก็ยังมีเหตุเกิดขึ้นจากคนข้างเคียง ภรรยาน้องชายวันก่อนเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่อง เพื่อนฝูงใน ครม. ก็มี ใครมีอำนาจก็มีเรื่องพรรคพวก แต่นักประชาธิปไตยมีอำนาจก็เข้าไปก็มีแต่หาเงินเข้ากระเป๋าใช้ในการเลือกตั้ง แต่ไม่คิดถึงประเทศชาติ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดถึงประเทศชาติมากกว่า

สนธิญาณ กล่าวด้วยว่า "กสทช. ขู่จะปิดทีนิวส์ ผมขอฟ้องประชาชน" และยังกล่าวด้วยว่า "กรรมการ กสทช. บางคนที่เป็นผู้หญิงน่ะ ชื่ออะไรนะ คุณสุภิญญาน่ะ ทำตัวเป็นคนรู้เรื่องข่าวสาร ติดตามข่าวสาร เป็นกรรมการ กสทช. กินเงินเดือนละกี่แสนบาทน่ะ บอกว่าทีนิวส์ไปขยายความเรื่องขบวนการล้มเจ้า อยากจะปิดเหลือเกิน นี่คือสิ่งที่เป็นอยู่ วันนี้อาจจะสมใจคุณแล้วก็ได้ แต่ผมไม่ตายหรอก"

ทั้งนี้สนธิญาณ ได้ประกาศด้วยว่า เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะยังคงทำงานต่อไป

ทีมงานของสำนักข่าวทีนิวส์ จะเข้าไปผลิตรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์ไบร์ท ทีวี ได้แก่ รายการ สด ลึก จริง ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 10.00 น., รายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 18.20 - 19.00 น. และวันศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. นอกจากนี้ ยังจะมีรายการ “ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ” ทุกวันเสาร์ เวลา 20.45 - 21.45 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559

สำหรับสถานีโทรทัศน์ไบร์ททีวี เป็นของบริษัท ไบร์ททีวี จำกัด (เดิมคือ บริษัท สามเอ มาร์เก็ตติง จำกัด) มี นายสมชาย และ นางเบญจวรรณ รังษีธนานนท์ เป็นผู้บริหาร เดิมเป็นบริษัทผู้ผลิตรายการข่าวหลายรายการให้กับสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ. 5)

ส่วนสำนักข่าวทีนิวส์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 โดยกรรมการอาทิ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ฉัตรชัย ภู่โคกหวาย และ ธัชพงศ์ ธรรมพุฒิพงศ์ หลังก่อนหน้านี้ นายสนธิญาณ ลาออกจากสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ซึ่งแต่เดิมทีนิวส์เป็นผู้ผลิตข่าวเอสเอ็มเอสผ่านผู้ให้บริการมือถือ ต่อมาได้เป็นผู้ผลิตรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึกทาง NBT ช่อง 11 และเมื่อช่อง 11 ไม่ต่อสัญญาให้ เดือนสิงหาคม 2554 จึงได้ขยายธุรกิจผ่านช่องทางทีวีดาวเทียม