ก.คลังสรุปแล้ว 'ยิ่งลักษณ์' ต้องจ่าย 3.5 หมื่นล้านบาท ค่าเสียหายจำนำข้าว

อธิบดีกรมบัญชีกลางเผยผลพิจารณาคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งกรณีเรียกร้องค่าเสียหายจำนำข้าว ระบุ 'ยิ่งลักษณ์' ต้องชดเชย 3.5 หมื่นล้านบาท คิดจากค่าเสียหาย 2 โครงการจำนำข้าว ฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2555/2556 และ 2556/2557 วงเงินความเสียหายรวม 1.78 แสนล้านบาท ใแต่นฐานะผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในสัดส่วน 20% ที่เหลือ 80% ผู้ทำให้เกิดความเสียหายรองลงมาต้องรับผิดชอบตามสัดส่วน
 
24 ก.ย. 2559 เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่านายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง เปิดเผยว่า ส่งข้อสรุปเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไปยัง น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมบัญชีกลางแล้ว กระบวนการหลังจากนี้จะส่งหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เสียหายจำนำข้าว คือ สำนักนายรัฐมนตรี ในฐานะต้นสังกัดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และส่งไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อให้ลงนามคำสั่งทางปกครองให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชอบค่าเสียหาย
 
นายมนัสกล่าวว่า ในส่วนค่าเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดเชยให้รัฐอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท เป็นการคิดจากค่าเสียหายใน 2 โครงการจำนำข้าวคือโครงการรับจำนำในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2555/2556 และฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2556/2557 วงเงินความเสียหายรวม 1.78 แสนล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในสัดส่วน 20% ที่เหลือ 80% ผู้ทำให้เกิดความเสียหายรองลงมาต้องรับผิดชอบตามสัดส่วน
 
นายมนัสกล่าวว่า ข้อสรุปครั้งนี้เรียกร้องค่าเสียหายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว เนื่องจากคณะกรรมการฯ ชุดนี้พิจารณาความผิดตามข้อสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย เป็นประธานส่งเรื่องมา และเป็นไปตามที่ป.ป.ช.ชี้มูลน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตามคณะรรมการชุดนายจิรชัยสรุปความเสียหายจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไว้ที่ 2.8 แสนล้านบาท โดยเป็นการคิดความเสียหายใน 4 ฤดูกาลตั้งแต่ปี 2554-2557 ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งได้นำสำนวนดังกล่าวมาพิจารณา ประชุมถึงเรื่องนี้ถึง 13 ครั้ง สรุปว่าควรคิดค่าเสียหายเพียง 2 ฤดูการผลิตหลัง
 
“แม้ว่าจะเกิดความเสียหายในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2554/2555 และข้าวนาปรัง 2555 วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท แต่พบว่าข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบต่างๆส่งมาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเพียงข้อเสนอแนะที่ให้ระวังเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรับจำนำว่ามีความเสี่ยงขาดทุน และให้มีการตรวจสอบป้องกันและแก้ไข ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้มีการส่งข้อเสนอแนะจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ป.ป.ช. สตง. ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับจำนำข้าวแล้ว ซึ่งเท่าที่ดูในข้อเท็จจริงพบว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะรับฟังได้ว่าได้ทราบอย่างแน่ชัดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงถือว่าไม่ได้จงใจละเมิดหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการทำโครงการรับจำนำใน 2 ฤดูกาลแรก”นายมนัสกล่าว
 
นายมนัสกล่าวต่อว่า มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายกับการดำเนินการในฐานะผู้บังคับบัญชา ถ้าพูดกันในเชิงนโยบายนั้นไม่ถือว่าเป็นการละเมิด นโยบายไม่ใช่การกระทำจึงไม่ใช่การละเมิด แต่สิ่งที่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งพิจารณาคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของรัฐบาลในขณะนั้น จงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าว หลังจากที่ทราบอย่างชัดเจนว่าเกิดความเสียหายขึ้นแล้ว ก็ไม่ได้สั่งชลอหรือทบทวนโครงการ
 
นายมนัส กล่าวว่า ส่วนความเสียหาย 80% ที่เหลือ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเสนอแนะไปว่า หน่วยงานที่เกิดความเสียหายต้องมีการสืบสวนและต้องเรียกความเสียหายดังกล่าว โดยมีระยะเวลาเรียกค่าเสียหายภายใน 10 ปีนับจากเกิดความเสียหาย ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น หากไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องค่าเสียหายตรงนี้ สามารถฟ้องศาลปกครอง เพื่อเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง หลังจากที่ได้รับคำสั่งทางปกครองแล้วได้ แต่ถ้าไม่คัดค้านจะเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์เพื่อชดใช้ความเสียหาย เชื่อว่าน.ส.ยิงลักษณ์ต้องฟ้องคัดค้านแน่ ไม่ได้กังวล เพราะถือเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร และยืนยันว่าการเมืองไม่ได้แทรกแซงการพิจารณาครั้งนี้
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท