Skip to main content
sharethis

30 ต.ค. 2559 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทางการรัฐนอร์ทดาโคตา สหรัฐฯ ใช้กำลังตำรวจติดอาวุธหนักปราบปรามและจับกุมผู้ชุมนุมต่อต้านท่อส่งน้ำมันดาโคตาแอคเซสไปป์ไลน์โดยมีคนถูกจับกุม 141 ราย เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตส่งจม.เปิดผนึกถึงประธานาธิบดีโอบามาเรียกร้องให้มีมาตรการคุ้มครองผู้ชุมนุมอย่างเหมาะสม

การประท้วงท่อส่งน้ำมันดาโคตาแอคเซสไปป์ไลน์ในรัฐนอร์ทดาโคตาถูกปราบปรามอย่างหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสื่อ Democracy Now! รายงานว่ากลุ่มตำรวจที่ติดอาวุธหนักแบบทหารบุกเข้าสลายค่ายผู้ชุมนุมที่ก่อตั้งโดยกลุ่มชนพื้นเมืองที่ต้องการปกป้องแหล่งน้ำของพวกเขาจากโครงการท่อส่งน้ำมันที่อาจจะทำให้แหล่งน้ำของพวกเขาปนเปื้อน

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ต.ค. มีกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลมากกว่า 100 นาย ติดอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติยืนเรียงแถวไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 1806 ของรัฐนอร์ทดาโคตา นอกจากนี้ยังมาพร้อมรถหุ้มเกราะขนกำลังพล เครื่องโจมตีด้วยคลื่นเสียง รถฮัมวีของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ รถบรรทุกหุ้มเกราะของตำรวจและรถแทรกเตอร์เกลี่ยดิน

ผู้ประท้วงเล่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และเครื่องมืออื่นๆ สลายการชุมนุมทำให้มีผู้ถูกจับกุม 141 ราย แกรนฟอร์ค เฮอรัลด์ สื่อท้องถิ่นของนอร์ทดาโคตารายงานว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนยังเล่าเรื่องที่เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธอย่างกระสุนยางและระเบิดสร้างแรงสะเทือน (Concussion Grenade) โจมตีใส่ผู้ชุมนุมด้วย โดยเบลค ฟินเลย์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าสภาพการสลายการชุมนุม "เหมือนกับอยู่ในเขตแดนสงคราม" ขณะที่เครือข่ายสิ่งแวดล้อมของกลุ่มชนพื้นเมืองเล่าว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมโดยนอกจากระเบิดแรงสะเทือนและกระสุนยางแล้วยังใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าโจมตีผู้ชุมนุมด้วยซึ่งมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งถูกช็อตเข้าที่ใต้ดวงตา

เดอะการ์เดียนรายงานว่าการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่จากเทศมณฑลมอร์ตันกับผู้ชุมนุมมีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่เผชิญหน้าอย่างตึงเครียดกันมาตลอดทั้งวันจากการที่ตำรวจผลักให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ก่อสร้างท่อส่งน้ำมันบีบให้นักกิจกรรมต้องล่าถอยไปที่ค่ายชุมนุม โดยที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างความชอบธรรมในการปราบปรามผู้ชุมนุมว่าพวกเขาจุดไฟเผาเครื่องมือก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและปิดถนนอย่างผิดกฎหมาย แกรนฟอร์ค เฮอรัลด์ รายงานว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าคนที่ถูกช็อตด้วยไฟฟ้านั้นเป็นคนที่ขว้างพริกไทยใส่หน้าเจ้าหน้าที่และพวกเขา "ใช้กำลังที่จำเป็นในการคลี่คลายสถานการณ์"

แต่ฝ่ายผู้ประท้วงอย่าง โรส สติฟฟาร์ม นักทำภาพยนตร์และหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มชนพื้นเมืองหกชาติของอเมริกันให้สัมภาษณ์ต่อเดอะการ์เดียนว่าการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่มีความรุนแรงเกินความจำเป็นรวมถึงยังพยายามใช้กำลังโจมตีโดยมีเป้าหมายเป็นสื่อด้วย

Democracy Now! รายงานว่าผู้ประท้วงนำรถที่ใช้แล้วมาปิดถนน มีการเผายางรถยนต์และกองฟาง ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธปืน มีบางคนปิดขังตัวเองอยู่ในรถบรรทุกกลางถนนเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ตำรวจรุกคืบได้ ในขณะที่มีการปราบปรามผู้ชุมนุมอยู่นั้นเครื่องมือของโครงการดาโคตาแอคเซสไปป์ไลน์อย่างปั้นจั่นและรถเกลี่ยหน้าดินก็ยังคงทำงานต่อไปเบื้องหลังแนวกั้นของตำรวจที่วางไว้บนพื้นที่เดียวกับที่กลุ่มชนพื้นเมืองใช้ทำพิธีฝังศพและเป็นพื้นที่เดียวกับที่เจ้าหน้าที่เคยปล่อยสุนัขเข้ากัดชนพื้นเมืองผู้ประท้วง

นักกิจกรรมต้านท่อส่งน้ำมันยังประกาศว่าจะต่อสู้ต่อไปถึงแม้ว่าจะมีผู้ประท้วงถูกจับกุม ดีน เด็ดแมน จูเนียร์ สมาชิกชนพื้นเมืองสแตนดิงร็อคฮังปาปาจากเซาท์ดาโคตาผู้ที่ใช้โดรนถ่ายทำการประท้วงและร่วมประท้วงมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วกล่าวว่า "ทุกคนยังยืนหยัดเข้มแข็ง พวกเรายังคงกุมพื้นที่ไว้อยู่" และบอกอีกว่าต่อให้เผชิญหน้ากับตำรวจจำนวนมากก็จะไม่ล่าถอย

ก่อนหน้าการจับกุมครั้งล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. สำนักงานนายอำเภอของมอร์ตันก็เคยทำการกวาดต้อนจับกุมผู้คนในพื้นที่ชุมนุมจำนวนมากรวม 127 ราย รวมถึงนักข่าวและคนทำภาพยนตร์ด้วย มีการตั้งข้อหาพวกเขาหลายข้อหาตั้งแต่ข้อหาบุกรุก ร่วมก่อการจลาจล และขัดขืนการจับกุม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดยังทำให้เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตที่เคยลงแข่งชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีบารัก โอบามา เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมาเรียกร้องให้มีการแทรกแซงเพื่อคุ้มครองผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติ

"ผมขอเรียกร้องให้คุณใช้มาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ประท้วงชนพื้นเมืองอเมริกันและผู้สนับสนุนพวกเขาที่ชุมนุมกันอย่างสันติในการต่อต้านการสร้างท่อส่งน้ำมัน" แซนเดอร์สระบุในจดหมายที่เขียนถึงโอบามา

ในจดหมายของแซนเดอร์สยังระบุอีกว่าโอบามาเคยแสดงออกอย่าง "อาจหาญ" และ "เป็นไปตามหลักการ" ในเรื่องการต่อต้านท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน แต่เหตุการณ์ที่มีตำรวจติดอาวุธแบบทหารเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมที่ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดเพราะมันแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯ เอาผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมน้ำมันมาก่อนข้อสนธิสัญญาและสิทธิในเขตแดนของชุมชนพื้นเมืองอเมริกัน

 

เรียบเรียงจาก

Sanders Calls on President to Intervene in Dakota Access Pipeline Dispute, Bernie Sanders, 28-10-2016
http://www.sanders.senate.gov/newsroom/press-releases/sanders-calls-on-president-to-intervene-in-dakota-access-pipeline-dispute

North Dakota pipeline: 141 arrests as protesters pushed back from site, The Guardian, 28-10-2016
https://www.theguardian.com/us-news/2016/oct/27/north-dakota-access-pipeline-protest-arrests-pepper-spray

North Dakota: Militarized Police Raid Anti-Pipeline Camp, Arrest 141, Democracy Now!, 28-10-2016
http://www.democracynow.org/2016/10/28/headlines/north_dakota_militarized_police_raid_anti_pipeline_camp_arrest_141

Officials report 9 vehicles torched, 2 officers injured in pipeline protest as tribal leaders, observers question officers' tactics, Grand Forks Herald, 28-10-2016
http://www.grandforksherald.com/news/north-dakota/4146976-clash-near-cannon-ball-subsides-protesters-law-enforcement-report

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net