Skip to main content
sharethis

ขณะที่รายได้สูงกว่า 3 หมื่นต่อปี แต่ไม่เกินแสน โอนเงินให้จำนวน 1,500 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส. โดย ครม. มีมติรับทราบการตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินภายใต้มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย

 

1 พ.ย. 2559 เมื่อเวลา 13.40 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบการตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินภายใต้มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย หรือ มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
 
โดยเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลได้สรุปสาระสำคัญของเรื่อง กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินใต้มาตรการเพิ่มรายได้ฯ ให้มีรายได้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต โดยมีรายละเอียด ดังนี้
 
1. คุณสมบัติของเกษตรกรตามมาตรการเพิ่มรายได้ฯ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินโอนตามมาตรการดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 15 ส.ค. 2559 ซึ่งต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับมาตรการเพิ่มรายได้เกษตรกรผู้ที่มีรายได้น้อย ดังนี้
 
1) คุณสมบัติพื้นฐาน ได้แก่ เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ 15 ส.ค. 2559 (วันสุดท้ายของการเปิดให้ลงทะเบียน) และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในปี 2558 โดยมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบขื้องต้นจากกรมสรรพากรและกรมการปกครองแล้ว
 
2) คุณสมบัติเฉพาะสำหรับมาตรการเพิ่มรายได้ฯ ต้องเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกรหรือเป็นสมาชิกในครัวเรือนของผู้ที่อยู่ในทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร หรือเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์ของกรมปศุสัตว์ หรือทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามข้อเสนอของ สศช. ทั้งนี้ในกรณีที่เกษตรกรที่ลงทะเบียนในโครงการนี้เป็นหัวหน้าครัวเรือนในทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร จะต้องปรากฏเป็นที่ประจักษ์ว่าครัวเรือนนี้มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินโอน ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะเป็นผู้ดำเนินการเทียบข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในข้อ 1
 

หลักเกณฑ์การโอนเงิน

1) หลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินที่โอนให้แก่เกษตรกรตามมาตรการเพิ่มรายได้ฯ หลักเกณฑ์ในการโอนเงินให้เกษตรกรจะใช้เส้นความยากจน (Poverty Line) ที่คำนวณโดย สศช. เป็นเกณฑ์ในการอ้างอิง โดยในปี 2257 เส้นความยากจนอยู่ที่ระดับประมาณ 30,000 บาทต่อปี ดังนั้น รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี เป็นมูลค่ามากกว่าเกษตรกร ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี เนื่องจากเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทางรายได้มากกว่า
 
2) อัตราเงินโอน 2.1) เกษตรกรที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โอนเงินให้จำนวน 3,000 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส. 2.2) เกษตรกรที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี โอนเงินให้จำนวน 1,500 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส.
 
3) วิธีการโอนเงิน กำหนดใน ธ.ก.ส. เป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรที่มีคุณสมบัติตามข้อ 3.1 โดยตรง ทั้งนี้ ในกรณีที่เกษตรกรดังกล่าวไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. นั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการประสานงานกับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเพื่อโอนเงินให้เกษตรกรต่อไป สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากใน 3 ธนาคารข้างต้น ให้ ธ.ก.ส. ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาแจ้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี และธนาคารที่ประสงค์จะให้โอนไปให้ได้ที่ ธ.ก.ส. ได้ทุกสาขา
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net