Skip to main content
sharethis
อดีตนักมวยควรใช้สิทธิของตนเองจาก 'กองทุนกีฬามวย' ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พบตั้งแต่ปี 2545-ต้นปี 2559 มีอดีตนักมวยได้รับความช่วยเหลือสวัสดิการสงเคราะห์ค่าอุปการะเลี้ยงดูรายเดือน 197 คน รวม 800,000 บาทต่อเดือน
 
 
ที่มาภาพประกอบ: flickr.com/gato-gato-gato/CC BY-NC-ND 2.0
 
7 พ.ย. 2559 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทยระบุว่า 'กองทุนกีฬามวย' จัดตั้งตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 หมวด 4 มาตรา 52 ซึ่งระบุไว้ว่า "มาตรา 52 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งเรียกว่า “กองทุนกีฬามวย” ในการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม คุ้มครอง และควบคุมการกีฬามวย" โดยกองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินดังต่อไปนี้ 1. เงินอุดหนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย 2. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ 3. ดอกผลและผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุน 4. เงินที่ได้จากค่าธรรมเนียมและค่าปรับตามพระราชบัญญัตินี้ 5. รายได้ที่เกิดจากการดำเนินการกองทุน และ 6. เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้
 
โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนและดำเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุนตามพระราชบัญญัตินี้ โดยจัดให้มีระบบการบัญชีที่เหมาะสมแก่กิจการทุกปีให้การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดทำงบดุลและบัญชีทำการของกองทุน ส่งผู้สอบบัญชี ตรวจสอบภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี และให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้ตรวจสอบของกองทุนแล้วทำรายงานผลการสอบบัญชีเสนอคณะกรรมการเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ต่อไป และให้คณะกรรมการเป็นผู้จัดการกองทุนการบริหาร การจัดหาประโยชน์ และการใช้จ่ายเงินกองทุน ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
 
สำหรับหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาให้สวัสดิการนั้น การใช้จ่ายกองทุนเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้  1. เพื่อใช้จ่ายสำหรับการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์ และเผยแพร่กีฬามวยทั้งในและนอกประเทศ 2. เพื่อจัดสวัสดิการรวมทั้งความช่วยเหลือแก่ นักมวย ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน หัวหน้าค่ายมวยที่เป็นบุคคลธรรมดา และบุคคลในวงการกีฬามวยอื่น ๆ ในกรณีประสบอุบัติเหตุเจ็บป่วยจากการแข่งขันกีฬามวย หรือกรณีอันควรแก่การสงเคราะห์อื่น 3. เพื่อกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬามวยตามที่คณะกรรมการมอบหมายและ 4. เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายการบริหารงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม คุ้มครองและควบคุมกีฬามวย ตามบทบัญญัติของกฎหมาย
 
ส่วนสิทธิประโยชน์จากกองทุนกีฬามวย นักมวย ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน หัวหน้าค่ายมวยที่เป็นบุคคลธรรมดา และบุคคลในวงการกีฬามวยอื่น ๆ สามารถขอรับสิทธิได้ตามกรณี ดังนี้ 1. ได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วยจากการแข่งขันกีฬามวยโดยตรง 2. ประสบอุบัติเหตุอันเนื่องจากการแข่งขันกีฬามวย 3. เสียชีวิต และ 4. กรณีอันควรแก่การสงเคราะห์อื่น
 
ทั้งนี้อดีตนักมวยที่ประสงค์จะขอรับสวัสดิการจากกองทุนสามารถติดต่อสอบถามขอรายละเอียดได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย 286 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 หมายเลขโทรศัพท์ 02-319 9653 โทรสาร 02-369 1478
 
อนึ่งจากการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 2/2559 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์เงินกองทุนกีฬามวย ณ วันที่ 31 มกราคม 2559 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 101,611,696.33 บาท โดยเป็นเงินทุนสำรอง จำนวน 28,630,056.84 บาท และเงินที่จัดสรรเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนกีฬามวย จำนวน 72,981,634.49 บาท จากนั้น ที่ประชุมรับทราบเรื่องการให้ความช่วยเหลือสวัสดิการสงเคราะห์แก่บุคคลในวงการกีฬามวย ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือค่าจัดการศพ กรณีเสียชีวิตแก่ครอบครัวของนักมวยและอดีตนักมวย เป็นเงิน 15,000 บาทต่อคน จำนวน 4 คน เป็นเงิน 60,000 บาท ประกอบด้วย นายสุเชาว์ สุขสาร (ศิษย์เอก ลูกเจ้าพระยา) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งลำไส้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2558, นายสุทศ วินิจฉัย (ก้องธรณี ส.สิงห์สุรินทร์) จังหวัดสุรินทร์ เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558, นายบัวพันธ์ จันทะบุตร (ปัจจัย ศรีจันโทภาส) กรุงเทพฯ เสียชีวิตเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2559, นายศตวรรษ ไตรรัตน์เกยูร (ทระนง ว.สุนทรนนท์) จังหวัดตรัง เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 และให้การสงเคราะห์เงินช่วยเหลือเพื่อการดำรงชีพเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูรายเดือนแก่อดีตนักมวย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2545 – เดือนมกราคม 2559 มีอดีตนักมวยได้รับความช่วยเหลือสวัสดิการสงเคราะห์ค่าอุปการะเลี้ยงดูรายเดือน จำนวน 197 คน รวมเป็นเงิน 800,000 บาทต่อเดือน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net