ตร.เผย มีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันฯ 194 คดี

รองโฆษก สตช. เตือนปชช.อย่าส่งต่อข้อความที่มีลักษณะหมิ่นสถาบันฯ เผยขณะนี้มีผู้ผู้กระทำความผิด 194 คดี จับกุมแล้ว 10 คดี อยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 17 คดี เร่งติดตามตัวผู้หลบหนีต่างประเทศหากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน จะอาศัยความสัมพันธ์ทางการทูต ให้ตำรวจสากลประสานแล้ว รมว.ยุติธรรม เผยหลายประเทศร่วมมือไทย

<--break- />

ที่มาภาพ กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

9 พ.ย. 2559 พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการส่งต่อข้อความที่มีลักษณะหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ฝากเตือนประชาชนที่ได้รับข้อมูลลักษณะนี้ หากจะส่งต่อต้องใช้ดุลยพินิจ เนื่องจากผู้ที่ส่งต่ออาจตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ไม่หวังดี ผู้ส่งต่อจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ อีกทั้งการส่งต่อจะมีความผิดตามมาตรา 112 เช่นเดียวกัน และมีอายุความถึง 10 ปี การส่งต่อยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ด้วย ที่ผ่านมา มีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง 194 คดี จับกุมแล้ว 10 คดี อยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 17 คดี

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำผิดและหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เร่งติดตามตัว ซึ่งประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับต่างประเทศรวม 16 ประเทศ ส่วนประเทศที่ไม่มีให้อาศัยความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ตำรวจสากลประสานและให้ข้อมูลผู้ที่กระทำผิดแล้ว

รมว.ยุติธรรม เผยหลายประเทศร่วมมือไทย ลุยกลุ่มทำผิดม.112

ขณะที่วานนี้ (8 พ.ย.59) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการประสานขอความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่มีคนไทยทำผิดในคดีมาตรา 112 หลบหนีอยู่ว่า ได้พูดคุยกับทูตไทยในหลายๆ ประเทศ เขาให้ความร่วมมือดีขึ้น เข้าใจลึกซึ้งถึงความรู้สึก และทัศนคติของชาติไทยเรา

ต่อกรณีคำถามว่าประเทศเหล่านี้รับปากที่จะห้ามปราบการกระทำดังกล่าวหรือไม่นั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องหาวิธีการ เพราะบางเรื่องใช้กฎหมายไม่ได้ แต่บางเรื่องก็ใช้กฎหมู่ไม่ได้ จึงต้องใช้มาตรการขอความร่วมมือกัน

สำหรับแนวโน้มที่จะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ได้ขอร้องไปว่าการเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากอาจกระทบความสัมพันธ์ ความรู้สึกนึกคิด ความเป็นเพื่อน จึงต้องระมัดระวัง ซึ่งถ้าหวังว่าจะถึงขั้นส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

 

ที่มา สำนักข่าวไทยและกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท