ที่มาภาพ เว็บไซต์แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
10 พ.ย. 2559 จากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายชนะ เตรียมขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ในปี 2560 รายงานจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย แจ้งว่าซาลิล เช็ตตี้ เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แถลงถึงผลการเลือกตั้งดังกล่าวว่า ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ปลุกปั่นให้เกิดความน่ากลัวอย่างมากหลายครั้งตลอดการหาเสียงของเขา ส่งผลให้เรากังวลอย่างมากและไม่รู้ว่าจะคาดหวังเกี่ยวกับความตั้งใจจริงด้านสิทธิมนุษยชนในอนาคตจากเขาได้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เขาต้องทิ้งเรื่องเหล่านี้ไว้ข้างหลัง ตลอดจนรับรองและปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ ทั้งในและต่างประเทศ
มาร์กาเรต หวง ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐฯ กล่าวว่า "ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง สหรัฐฯ ได้รับฟังคำปราศรัยที่น่ากวนใจและรุนแรงจากว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์และคนอื่นๆ คำพูดเหล่านั้นต้องไม่กลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาล การเหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ และคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอื่นๆ ของทรัมป์ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะรัฐบาล"
"ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องประกาศต่อสาธารณะว่าจะยึดถือในสิทธิมนุษยชนอันปราศจากการเลือกปฏิบัติ ตั้งแต่ค่ายกักกันไปจนถึงการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เราได้เห็นตัวอย่างหายนะของผู้นำที่เลือกจะละเมิดพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ มาแล้วมากมาย ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งทุกคนควรตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้บริหารระดับสูงหรือสมาชิกสภาเมือง" มาร์กาเรต หวงกล่าวเสริม