Skip to main content
sharethis

ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล

11 พ.ย. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาช่วยชาวนาขายข้าวว่า เป็นเรื่องดี แต่อยากสร้างความเข้าใจว่าการรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงมาขายต่ออย่างที่ทำในขณะนี้ เป็นการขายข้าวได้เพียงร้อยละ 5 ของข้าวที่มีอยู่ในตลาด หากอยากช่วยเพิ่มต้องช่วยรับซื้อข้าวจากโรงสีด้วย ตนเห็นใจทุกฝ่ายแต่อย่านำตนไปเป็นคู่ขัดแย้งกับชาวนา ขอให้เข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่เกี่ยวกับการช่วยเหลือที่ทำให้ชาวนาเกิดความยั่งยืน ทั้งการลดพื้นที่ปลูกข้าวแต่ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพ และการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชตามคำแนะนำของรัฐบาล หากทำตามจะแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำได้อย่างยั่งยืน ขอให้ชาวนาเห็นใจรัฐบาลหากนำเอาราคามาเป็นตัวตั้งให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาเพียงอย่างเดียวก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาด้านอื่นๆ ตามมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือราคาข้าวเหนียวตกต่ำ ว่า ขณะนี้ราคาข้าวเหนียวยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผู้บริโภคหลักคือตลาดในประเทศ หากรัฐบาลทำให้ข้าวเหนียวมีราคาสูงขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทำให้คนในประเทศไม่ซื้อข้าวเหนียวมารับประทาน ดังนั้นราคาข้าวเหนียวจึงควรเป็นไปตามกลไกตลาด และราคาข้าวที่จะทำให้ชาวนาอยู่ได้ ควรมีกำไรส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับราคาข้าวอยู่ที่ 3,000 บาทต่อไร่ 

ต่อกรณีที่รัฐบาลแนะนำให้ชาวนารวมกลุ่มเพื่อรับการช่วยเหลือของภาครัฐนั้น  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแลว่าชาวนาจะสามารถรวมกลุ่มกันได้อย่างไร สิ่งนี้คือสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ หากรวมกลุ่มกันไม่ได้ก็จะเกิดการเรียกร้องแบบนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อเรียกแบบนี้เงินจะมีพอหรือไม่ แล้วส่วนอื่นรัฐไม่ต้องดูแลเขาหรืออย่างไร ตนเห็นใจทุกคน ขออย่าเอาไปตีกับชาวนาอีก 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาราคาข้าวในวันนี้มีทั้งปัญหาภายในที่มีต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งราคาต่างจากตลาดโลก ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องต้นทุน ฉะนั้นเราต้องปรับปรุง ความต่างต้นทุนการผลิตกับราคาข้าวต่างกันเท่าไร ถ้าต่างกัน 1 พันบาทอยู่ไม่ได้ ต้องต่างอย่างน้อย 3 พัน วันนี้แทบจะไม่ต่างหรือไม่ก็ขาดทุน เพราะต้นทุนการผลิตสูง อย่ามาเรียกร้องราคาข้าว จะเอาเงินที่ไหน ก็ต้องขึ้นภาษีหรืออย่างไร

ส่งออกหอมมะลิ 9 เดือนแรก สูงถึง 1.68 ล้านตัน

ขณะที่ อภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวหอมมะลิไทยว่า ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิเฉลี่ยปีละ 1.4 ล้านตัน โดยในช่วง  9 เดือนแรกของปี 2559 (ม.ค.-ก.ย.) ส่งออกข้าวหอมมะลิปริมาณ 1.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณส่งออก 1.40 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐ ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ และแคนาดา

อภิรดี  กล่าวว่า ไทยยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับหนึ่งในหลายประเทศ เช่น ฮ่องกงนำเข้าข้าวไทย ปี 2559 (ม.ค.-ก.ย.) ปริมาณ 150,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณ 141,000  ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.77 และมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ร้อยละ 59 ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด นอกจากนี้  ยังมีตลาดสหรัฐและสิงคโปร์ที่ข้าวไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งที่ร้อยละ 60 และร้อยละ 38 ตามลำดับ

 

ที่มา สำนักข่าวไทย 1, 2 และ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net