สนช. รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ. 'สถาบันภูมิราชธรรม' เป็นสถาบันอุดมศึกษาทางวิชาการ-วิชาชีพชั้นสูง

สนช. มีมติ 217 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม มีฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นนิติบุคคล ภายในกำกับรัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณด้านการศึกษาและศิลปวิทยาการ ทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ทุกแขนง

1 ธ.ค. 2559 รายงานข่าวจากรัฐสภา ระบุว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  มีมติ 217 เสียง รับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) สถาบันภูมิราชธรรม ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ โดยกำหนดแปรญัตติ 15 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อศึกษาร่าง พ.ร.บ. 21 คน  มีกรอบเวลาในการศึกษา 60 วัน

สำหรับร่าง พ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม ตราขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 9  มิ.ย. 2559 สมควรจัดตั้งสถาบันภูมิราชธรรมเป็นสถาบันอุดมศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณด้านการศึกษาและศิลปวิทยาการ ทั้งสายวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ทุกแขนงตลอดจนน้อมนำพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพที่ทรงมีอยู่เต็มเปี่ยมในความรู้ทุกด้าน และได้ยังให้เกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรมาช้านาน มาเป็นแบบอย่างในการจัดกระบวนการศึกษาเรียนรู้ อีกทั้งเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีอยู่เหนือเกล้าฯ ของประชาชาติไทยไปในอนาคตกาลโดยไม่มีเวลาสิ้นสูญ  

ทั้งนี้  สถาบันภูมิราชธรรม จะมีที่ตั้งอยู่บริเวณ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในพื้นที่ 436 ไร่ มีฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นนิติบุคคล อยู่ภายในกำกับของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยรายได้ของสถาบันมาจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลและทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีกองทุนภูมิราชธรรมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินกิจการของสถาบัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้  ส่วนการจัดการเรียนการสอนจะมีทั้งระดับปริญญาและการฝึกอบรม ผลิตทั้งนักวิชาการและนักวิชาชีพ ในหลักสูตรต่างๆ จะเป็นการเรียนการสอนที่เป็นสากลและประกอบด้วยแรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ศาสตร์พระราชา และคุณธรรมของพระราชา

สำหรับ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้สรุปไว้ดังนี้

1. กำหนดให้มีการจัดตั้ง “สถาบันภูมิราชธรรม” เป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ และอยู่ในอุปถัมภ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

2. กำหนดให้สถาบันเป็นสถาบันอุดมศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะบุกเบิก แสวงหา และเป็นคลังความรู้ ให้การศึกษา ส่งเสริม ประยุกต์และพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง สร้างบัณฑิต วิจัย เป็นแหล่งรวมสติปัญญาและบริการทางวิชาการแก่สังคม รวมทั้งสืบสานทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนของสังคมและประเทศชาติฯ

3. กำหนดรายได้ของสถาบัน ได้แก่ เงินที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบให้เพื่อจัดตั้งกองทุนหรือมอบสมทบภายหลัง และรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุนดังกล่าว เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปีเงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน เงินกองทุนที่สถาบันจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลประโยชน์จาก
กองทุนดังกล่าว เป็นต้น

4. กำหนดให้สภาสถาบันประกอบด้วยนายกสภาสถาบัน กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการ โดยตำแหน่ง สภาสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี

5. กำหนดให้มีกองทุนตั้งขึ้น โดยเงินที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบให้หรือมอบสมทบ

6. กำหนดให้อธิการบดีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (มาตรา 48)

7. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสถาบัน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสถาบันตามมาตรา 6 และให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับสถาบันเป็นการเฉพาะ

 

ที่มา เว็บไซต์วิทยุรัฐสภาและเว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท