ฝากขังผัดแรก 'ณัฐดนัย' ผู้ต้องหาแฮกเกอร์วัย 19 ปี ศาลไม่ให้ประกันตัว

แม่ยื่นหลักทรัพย์โฉนดที่ดิน 4 แสน ศาลไม่ให้ประกันระบุ มีลักษณะเป็นขบวนการก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 

28 ธ.ค.2559 ที่ศาลอาญา ร.ต.อ.ชลิต มณีพราว พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ควบคุมตัว นายณัฐดนัย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแฮกเกอร์เจาะระบบและเว็บไซต์หน่วยงานราชการมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.59 - 8 ม.ค.60 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจประวัติผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย ด้านมารดาของนายณัฐดนัยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวบุตรชายโดยวางหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 400,000 บาท ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยระบุว่า “พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นขบวนการก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน กรณีจึงยังไม่มีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน ยกคำร้อง คืนหลักประกัน” จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวนายณัฐดนัยไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

นายณัฐดนัยถูกเจ้าหน้าที่ทหารบุกจับกุมตัวที่บ้านพักย่านบางชันเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.และควบคุมตัวที่ มทบ. 11 เป็นเวลา 7 วัน จนกระทั่งวันที่ 26 ธ.ค.จึงส่งมอบตัวให้กับตำรวจและตำรวจนำตัวนายณัฐดนัยมาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่, ปลอมเอกสารและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรฐานป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, ร่วมกันล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ นำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวางหรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติได้, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 5,6,7,9,10, 14(1) พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7(5),26 วรรคแรก, 57, 76 วรรคแรก, 92, 102 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4(1),(2), 7,8, 72 วรรคแรก, 72 ทวิวรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,209,264,265 และ 268  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ระบุว่า ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ (รับบางส่วน ปฏิเสธบางส่วน) ไม่ใช่รับสารภาพดังที่มีการแถลงข่าว ส่วนรายละเอียดของกลางเอกสารระบุว่ามี ปืนพกสั้น 2 กระบอก, ปืนยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 19 นัด, โครงปืนจำนวน 2 อัน, กัญชาอัดแท่งมูลค่าประมาณ 200 บาท, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสีดำ 1 เครื่อง, เราท์เตอร์ไวไฟ 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบประกอบ (ไม่มียี่ห้อ) 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ Huawei สีขาว 1 เครื่อง สำหรับพฤติการณ์การจับกุมนั้นเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค.2559 ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาที่อาศัยอยู่กับมารดาเนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่าบ้านดังกล่าวมีการกระทำผิดกฎหมายประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะได้หมายค้นมา บุคคลที่กระทำความผิดอาจหลบหนีไปหรือทรัพย์สินที่ใช้กระทำความผิดอาจถูกโยกย้ายทำลาย พนักงานรักษาความสงบฯ จึงเข้าดำเนินการตรวจค้นจับกุม

ขณะที่เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานวันนี้ว่า ทหารเตรียมส่งแฮกเกอร์ให้ตำรวจดำเนินคดีอีก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมกลุ่มแฮกเกอร์ที่ทำการเจาะข้อมูลเว็บไซต์หน่วยงานราชการนั้น ทราบว่าเร็วๆ นี้เจ้าหน้าที่ทหารจะส่งมอบตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม แต่ขอไม่เปิดเผยว่ามีจำนวนกี่ราย โดยจะทยอยส่งมอบตัวให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ และให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ และหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจับกุม นายณัฐดนัย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาเจาะข้อมูลเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐ และเป็นสมาชิกเพจเฟซบุ๊กต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ ว่า อาจจับกุมผิดคนหรือเป็นแพะนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่ใช่แพะ เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกทั้งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ พร้อมมีพยานหลักฐานชัดเจนแน่นหนา ดังนั้นขอย้ำว่าไม่มีการจับแพะแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท