Skip to main content
sharethis

ชาวเลราไวย์อีก 111 คนยังต้องสู้คดีต่อ เริ่มมีหวังหลังศาลภูเก็ตเพิ่งยกฟ้องไป 4 ราย มูลนิธิชุมชนไทเผยชาวบ้านชนะคดีเพราะมีหลักฐานอยู่มาก่อนเอกชนออกเอกสารสิทธิ์ ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-ขุดกระดูกบรรพบุรุษตรวจ DNA

<--break- />

ภาพ ชาวเลราไวย์ ชูป้ายขอบคุณผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560 (ที่มาเพจ ชุมชนชาวเลราไวย์)

2 ก.พ.2560 จากกรณีที่เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเก็ตยกฟ้องคดีพิพาทที่ดินที่บริษัท บารอนเวิลด์ เทรด จำกัดได้ยื่นฟ้องชาวเลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวม 4 รายในข้อหาบุกรุกที่ดินของบริษัท โดยศาลระบุเหตุผลหลักว่า  ชาวเลราไวย์อยู่มาก่อนการออกเอกสารสิทธิ์ ทั้งภาพถ่ายอากาศและการขุดกระดูกบรรพบุรุษตรวจ DNA คำพิพากษาดังกล่าวสร้างความดีใจให้กับชาวบ้านในชุมชนอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีชาวบ้านในพื้นที่เดียวกันนี้อีก 111 รายที่ตกเป็นจำเลยและต้องต่อสู้คดีพิพาทที่ดินกับเอกชนต่างๆ อีกรวม 40 คดี

นิรันดร์ หยังปาน แกนนำชาวเลราไวย์และเป็น 1 ในจำเลย 4 รายที่ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษายกฟ้องเปิดเผยว่า มีชาวเลราไวย์ในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตที่ถูกฟ้องข้อหาบุกรุกที่ดินจำนวนมาถึง 117 รายจากทั้งหมด40 คดี ยกฟ้องไปแล้ว 6 รายโดยข้อพิพาทด้านปัญหาที่อยู่อาศัยที่มีการฟ้องร้องกันนี้เป็นปัญหามานานกว่า 10 ปีระหว่างนายทุนเอกชนที่มีเอกสารสิทธิ์กับชาวบ้านในพื้นที่ที่อยู่มาก่อน

นอกจากนี้สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่า เพิ่มเติม โดย นิรันดร์ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า มีชาวบ้านนับร้อยมาร่วมลุ้นคำพิพากษา ตนรู้สึกโล่งใจที่ผลพิพากษาออกมาเช่นนี้ และทำให้สามารถมีชีวิตที่มีความหวังมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาชาวเลยังถูกเอาเปรียบโดยตลอด ในวันนี้(31 ม.ค. 60)จึงเป็นเหมือนทางสว่างเป็นคดีตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่าหากเรามีหลักฐานเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เชื่อว่าฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นนายทุนจะต้องมีการยื่นอุทธรณ์พยายามเอาชนะชาวบ้านให้ได้แต่ขณะนี้ตนและชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดียังคงมีความหวังอยู่เลยเชื่อว่าข้อเท็จจริงที่ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ จะนำความเป็นธรรมมาสู่ชุมชนชาวเลราไวย์

"ส่วนชาวเลราไวย์ 2 คนที่แพ้คดีไปก่อนหน้านี้ คนในชุมชนและองค์กรภาคประชาสังคมที่คอยช่วยเหลือจะมีการปรึกษากันว่า พอจะมีช่องทางอย่างไรในการกลับมาต่อสู้คดีอีกครั้ง" นิรันดร์ กล่าว

ปรีดา คงแป้น ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไทและเป็นตัวแทนองค์กรแก้ไขปัญหาชาวเล กล่าวว่า วันนี้(2 ก.พ.) ทางมูลนิธิฯได้นัดหมายกับชาวเลราไวย์เพื่อปรึกษาหารือกันด้านแนวทางการต่อสู้ต่อไป หลังจากที่ศาลจังหวัดภูเก็ตมีการยกฟ้องคดีพิพาทที่ดิน ขณะนี้สรุปผลข้อมูลเบื้องต้นมีศาลยกฟ้องชาวบ้านไปแล้วทั้งหมด  6 รายได้แก่ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2559 จำนวน 2 ราย และอีก 4 ราย ศาลเพิ่งยกฟ้องคดีไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560 ที่ผ่านมาและชาวบ้านในชุมชนต่างมีกำลังใจในการต่อสู้มากขึ้น

ปรีดา กล่าวถึงคดีที่เพิ่งยกฟ้องไปว่า ชาวเลราไวย์ได้นำหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พวกเขาอาศัยอยู่ก่อนการออก ส.ค.1 และโฉนดที่ดินของโจทก์ (เอกชน) ที่ยื่นฟ้องไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายทางอากาศในอดีต โครงกระดูกที่ขุดค้นพบที่พื้นที่พิพาท ซึ่งตรวจ DNA แล้วมีความสัมพันธ์กับบุคคลในชุมชนในลักษณะเครือญาติ โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ทำการขุดค้น นอกจากนี้ยังพบว่าทะเบียนนักเรียนเล่มแรกของโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต พบรายชื่อชาวเลราไวย์เข้ามาศึกษา เมื่อปี 2497 (ก่อนออก ส.ค.1)

สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ข้อมูลจากมูลนิธิชุมชนไท ระบกว่า เป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยหาอยู่หากินบริเวณทะเลอันดามันมาเป็นเวลานาน ประมาณ 300 ปี  ปัจจุบันมีชุมชนชาวเล 41 ชุมชนกระจายในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา สตูล ระนอง และกระบี่ ประชากรประมาณ 13,000 คน กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มมอแกน กลุ่มมอแกลน และกลุ่มอูรัคลาโวย โดยปัญหาที่สำคัญของชาวเล คือ ปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 25 ชุมชนที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดินและบางส่วนมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินกับเอกชน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net