Skip to main content
sharethis

อนุ กสม.ถกปมดีเอสไอไม่รับคดี 'บิลลี่' หายตัวเป็นคดีพิเศษ 'อังคณา' ผิดหวังดีเอสไอแค่สืบสวน ยังไม่สอบสวน เชื่อหากทำเต็มที่ไม่เกินความสามารถ เล็งให้ 'แม่บิลลี่' ร้องใหม่ ตัดปัญหา 'เมียบิลลี่' ไม่ได้จดทะเบียนจึงเป็นผู้ร้องไม่ได้

อังคณา นีละไพจิตร และ พิณนภา พฤกษาพรรณ ที่มาภาพ เว็บไซต์ สนง.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.  ที่ผ่านมา รายงานข่าวจาก เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ ระบุว่า อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประชุมคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พิจารณากรณี พิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยาของ พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกระเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้ร้องเรียนว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่รับคดี บิลลี่หายตัวไปเมื่อปี 57 เป็นคดีพิเศษ โดยได้มีการเชิญภรรยาบิลลี่ ตัวแทนดีเอสไอ และผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าหารือ

อังคณา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ประเด็นดีเอสไอ ไม่รับเรื่องบิลลี่เป็นคดีพิเศษ ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ณ ห้องประชุม 709 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดย สื่อหลายสำนัก เช่น มติชนออนไลน์ ผู้จัดการออนไลน์ และไทยรัฐออนไลน์ รายงานตรงกันว่า  อังคณา กล่าวว่า พิณนภา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษ จากการสอบถามตัวแทนดีเอสไอให้เหตุผลว่าได้สืบสวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วไม่สามารถสรุปเรื่องได้ ทำให้มีผลต่อตัวชี้วัดของดีเอสไอ ประกอบกับ พิณนภา ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของบิลลี่ แต่หากพบตัวหรือศพ บิลลี่ ทางดีเอสไอจึงจะดำเนินคดีต่อได้

อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอก็จะส่งเอกสารเหตุผลที่ไม่รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษมาให้ทาง กสม.ก็จะได้นำมาศึกษาและสรุปเนื่องจากที่ผ่านมาอนุฯ ทำเรื่องการสูญหายมาหลายกรณี และเปรียบเทียบการทำคดีบุคคลสูญหายในต่างประเทศด้วย ซึ่งเห็นว่าตาม พ.ร.บ.คดีพิเศษ 2547 ดีเอสไอมีอำนาจมากพอสมควรที่จะสืบสวนสอบสวนได้มากกว่านี้ และหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษจะมีช่องทางที่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ จึงจะมีการทำหนังสือถึงดีเอสไอสอบถามว่าจะมีแนวทางที่จะทำคดีนี้อย่างไร
       
“วันนี้ดีเอสไอแค่สืบสวน แต่ไม่ได้สอบสวน ดังนั้น เราคิดว่าถ้าได้ทำงานอย่างเต็มที่ทั้งสืบสวนและสอบสวนก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของดีเอสไอ การที่ พิณนภา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสทำให้ดีเอสไอไม่รับเรื่องเพราะไม่มีภรรยาตามกฎหมายนั้น คิดว่าอาจจะให้มารดาบิลลี่มาเป็นผู้ยื่นร้องใหม่ หรือมอบอำนาจให้ภรรยาบิลลี่ดำเนินการจะให้ ซึ่งดีเอสไอก็น่าจะสอบสวนได้แล้วเพราะกฎหมายให้การรับรอง แต่ก็ยอมรับว่า การจะไปตามหาแม่บิลลี่ไม่ใช่เรื่องง่าย” อังคณากล่าว
       
พิณนภา กล่าวว่า หากดีเอสไอยื่นมือเข้ามาช่วยก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยได้ แต่พอทางดีเอสไอปฏิเสธรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษก็รู้สึกเสียใจ จากที่ตนได้พูดคุยกับทางดีเอสไอเมื่อครั้งที่ได้เข้ามาในพื้นที่ บอกว่าทางดีเอสไออยู่ไกลและไม่ได้อยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่ชำนาญในพื้นที่ ถ้าตำรวจติดตามคดีนี้ชำนาญในพื้นที่มากกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ คดีจะไม่มีความคืบหน้า 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net