Skip to main content
sharethis

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ระบุ การสร้างความปรองดองสำเร็จแล้วครึ่งทาง ชี้บางเรื่องต้องคุยกันนอกรอบ เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าดีกว่านั่งคุยเรื่องในอดีต ด้านพรรคเพื่อไทยระบุ พร้อมเข้าพูดคุย ชูหลักสร้างปรองดอง 6 ประการ

ที่มาภาพจากสำนักข่าวไทย

21 ก.พ. 2560 พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์ถึง กระบวนการสร้างความปรองดอง ที่บางพรรคการเมืองระบุว่า ยังไม่ได้หนังสือเชิญ หรือบางกลุ่มจะเปิดเวทีคู่ขนานกับรัฐบาลว่า เท่าที่ทราบมีการเชิญทุกพรรคทุกกลุ่มตามตัวอักษร ส่วนการตอบรับเข้ามาแสดงความเห็น ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละฝ่าย และยังไม่ได้ข่าวว่าจะมีการเปิดเวทีคู่ขนาน แต่ได้ยินการออกมาแสดงความเห็น กำหนดกรอบเวลามากกว่า

“ผมมองว่าความปรองดองสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว เพราะหากตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมา แล้วไม่มีใครมาร่วม ถือว่าล้มเหลว แต่ขณะนี้ทุกคนทุกกลุ่ม อยากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น นี่คือความสำเร็จครึ่งหนึ่ง ส่วนครึ่งที่เหลือก็ไปต่อให้จบ คือทำความคิดเห็นทั้งหมดให้จบออกมาเป็นภาพรวม หากทุกคนมองประโยชน์ชาติเป็นส่วนรวม ยอมรับสัญญาประชาคม มันก็จะได้ข้อยุติ แม้ว่าในใจบางคนอาจมีอะไรติดอยู่บ้าง เพราะ 3 เดือนจะให้รักกันคงเป็นไปไม่ได้ หากอนาคตมีปัญหาก็ค่อยๆ แก้กันไป ซึ่งน่าจะยอมรับกันได้” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

พล.อ.เฉลิมชัยยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดกว้างให้กลุ่มที่ยังมีข้อสงสัยเข้ามาหารือกันอีกในขั้นตอนที่ 3 คือ ขั้นจัดทำข้อเสนอกระบวนการ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง กำลังมีการคิดกันอยู่ แต่ยังไม่ตกผลึกว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ขอดูข้อเสนอของทุกกลุ่มทุกฝ่ายก่อน ข้อเสนอในขณะนี้ยังไม่เสร็จ แต่เมื่อข้อเสนอเสร็จแล้วเรามาดูความต้องการ

“บางอย่างอาจจะต้องคุยกันนอกรอบเพื่อเคลียร์กันเสียก่อน ก่อนที่จะมาอยู่ร่วมกันก็จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ถ้าเรายินดีกับสิ่งที่ฝ่ายตัวเองได้รับ อยู่ในกรอบที่พอสมควร ไม่ใช่ตั้งเป้า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้บ้านเมืองถึงจะสงบ หากเป็นเช่นนั้นก็ไปด้วยกันไม่ได้ ต้องถอยกันคนละก้าว ผมประมวลข้อเสนอให้ทุกคนมาดูว่าได้สิ่งที่แต่ละฝ่ายเสนอมายอมรับกันได้หรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าในใจของทุกคนก็รักชาติบ้านเมืองก็ต้องยอมกันบ้าง เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้าดีกว่าจะมานั่งพูดคุยในสิ่งย้อนหลัง ก็ไม่มีวันจบ ประเทศอื่นก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ในขณะที่เราเองก็ยังโซเซ ขอให้ช่วยกันคนละไม้ละมือ” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

ด้านเพื่อไทยระบุ พร้อมส่งแกนนำพรรคคุยปรองดอง 8 มี.ค. ย้ำปัญหาจะคลี่คลายได้ รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจ พร้อมชู 6 หลักการสร้างความปรองดอง เน้นความเป็นกลาง ความเป็นอิสระ ข้อสรุปเรื่องปรองดองต้องเกิดจากการเห้นพ้อง ไม่ใช่การออกกฎหมายมาบังคับ

ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข้อหารือเบื้องต้นในการส่งตัวแทนพรรคฯ เข้าร่วมเวทีปรองดองของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

ภูมิธรรมกล่าวว่า เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้ประสานกับทางสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเพื่อเข้าร่วมพูดคุยและเสนอแนะแนวทางปรองดองในวันที่ 8 มีนาคม เวลา 09.00 -12.00 น. ในส่วนของบุคคลที่จะเข้าร่วม ประกอบด้วยคนที่พรรคแต่งตั้งขึ้นมาดูแลเรื่องปรองดอง และส่วนที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ปรึกษา อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค ปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค โภคิน พลกุล วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา ชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งตนเอง และชูศักดิ์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวันและตัวบุคคลอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบางส่วนอาจติดภารกิจอยู่ต่างประเทศหากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า มองว่าการระดมทุกฝ่ายมาพูดคุยจะเป็นประโยชน์ในการหาทางออกวิกฤตให้ประเทศ หากจะให้ปัญหาคลี่คลายขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ และต้องชัดเจนว่าจะเข้าสู่บรรยากาศปรองดอง และควรยอมรับความเห็นต่างในการหาทางออกความขัดแย้งอย่างสันติวิธี ไม่ใช่เปิดเวทีปรองดองแต่สังคมกลับมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่ และจากนี้ไปจะหารือในหมู่ผู้บริหารพรรคเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนหารือวงปรองดองหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จะขอหารือและประสานไปอีกครั้ง

ด้านชูศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของคำถาม 10 ข้อ ที่จะหารือในวงปรองดองนั้นสิ่งที่จะนำไปแสดงความเห็นในเวทีปรองดอง เช่น 1.ต้องมีหลักความเป็นกลาง 2.มีความเป็นอิสระ คณะทำงานที่มาพูดคุย 3.ความสามัคคีปรองดองจะเกิดได้ต้องค้นหาความจริงและเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ต้องหาความจริงของเหตุความขัดแย้งทั้งหมดและตีแผ่ให้สังคมรับทราบ 4.ความสามัคคีปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ต้องไม่มีการสร้างข้อจำกัดหรือตั้งเงื่อนไขในการพูดคุย 5.ไม่สร้างปัญหาความขัดแย้งให้เกิดขึ้นใหม่ 6.ผลสรุปของแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดองควรเป็นความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย มิใช่เกิดจากการออกคำสั่งหรือตรากฎหมายขึ้นบังคับ ซึ่งความเห็นนี้คงจะนำเสนอในเวทีพูดคุยต่อไป

 “พรรคเพื่อไทยจะไปแสดงจุดยืนว่า หลักการสร้างความปรองดองต้องมีหลักการ 6 ข้อ ประกอบด้วย ความเป็นกลาง ความเป็นอิสระของคณะกรรมการชุดต่างๆ การค้นหาความจริงและเยียวยาผู้เสียหาย ไม่ตั้งข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในการเจรจา   ต้องไม่สร้างปัญหาความขัดแย้งใหม่   ผลสรุปของการสร้างความสามัคคีปรองดอง ควรเป็นความตกลงเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย ไม่ใช่การออกคำสั่ง หรือการตรากฎหมายข้อบังคับ” ชูศักดิ์ กล่าว

เรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย 1, 2, มติชนออนไลน์ 1, 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net