สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 26 ก.พ.-4 มี.ค. 2560

เตรียมแก้ กม.ให้แรงงานต่างด้าวกลับสงกรานต์มาทำงานใหม่ได้
 
โฆษกกระทรวงแรงงาน นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ บอกว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวได้หารือเรื่องการให้อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ถือบัตรสีชมพูสามารถเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ โดยไม่ถูกจับกุมและสามารถกลับเข้ามาทำงานใหม่ได้โดยขั้นตอนต่อไปต้องนำผลการประชุมเสนอคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง ชุดที่ 5 ที่มี พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาในวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยมีกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพในการนำเสนอก่อนนำข้อสรุป เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาประกาศใช้
 
 
ไทย – ลาว เตรียมเซ็น MOA ขับเคลื่อนการจ้างงานถูกกฎหมาย
 
โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานของกลุ่มประเทศ CLMV ว่า การดำเนินงานร่วมกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว จะมีการประชุมระดับวิชาการไทย –ลาว ณ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2560 โดยประเด็นสำคัญที่จะหารือกัน ได้แก่ การพิจารณาดำเนินการจัดส่งแรงงานเข้ามาทำงานตาม MOU ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น การแจ้งรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย การดำเนินการของศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสินสุดการจ้าง และการพิจารณาดำเนินการตรวจสัญชาติให้กับแรงงานลาวและผู้ติดตามให้แล้วเสร็จ
 
โดยในวันที่ 1 มีนาคม 2560 พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะเป็นประธานร่วมพิธีลงนามข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว เพื่อกำหนดหลักการความร่วมมือของภาคีเกี่ยวกับการดำเนินการด้านกฎหมาย หลักการและขั้นตอนในการจัดส่งและรับแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีประสิทธิภาพ การคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์บนพื้นฐานหลักการของความเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงการดำเนินการเพื่อสกัดกั้นและต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านการจ้างแรงงานด้วย
 
“ผลการทำ MOA ในกลุ่มประเทศ CLMV จะทำให้เกิดการส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติและขั้นตอนสำหรับการจ้างแรงงาน การอบรมแรงงานก่อนการเดินทาง แรงงานได้รับการคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์ การสกัดกั้นและต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลให้การจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลในกลุ่มประเทศ CLMV เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบยิ่งขึ้น นำไปสู่การตอบสนองต่อความต้องการ ด้านแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อไปในอนาคต” นายอนันต์ชัย กล่าว
 
ที่มา: กระทรวงแรงงาน, 26/2/2560
 
เตือนชายไทยระวังนายหน้าเถื่อนลวงไปทำงานนวดที่กาตาร์
 
นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ว่ามีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อผู้ใช้ว่า ชัยชาญ กระทำการโฆษณาชวนเชื่อให้บุคคลเข้าไปทำงาน ในตำแหน่งพนักงานนวดที่ประเทศกาตาร์ โดยใช้วีซ่าประเภทท่องเที่ยว ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้ามาในกาตาร์และขัดกับกฎหมายท้องถิ่น และมีการลงข้อความ รูปภาพและบัตรโดยสารเครื่องบินของคนไทยคนหนึ่ง ที่กำลังจะเดินทางไปประเทศกาตาร์ พร้อมทั้งให้หมายเลขติดต่อหากสนใจจะสมัครไปทำงาน
 
ซึ่งคนหางานบางรายได้รับวีซ่าประเภททำงาน (Work Yearly Resident) แต่เข้าไปทำงานโดยไม่มีสัญญาจ้างงานที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการของไทยและกาตาร์ อีกทั้งบางรายนายจ้างยังไม่ดำเนินการเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงานให้ หรือไม่ขอรับบัตรประจำตัวผู้อยู่อาศัยในกาตาร์ (Resident Permit - RP) ให้ และยังมีการให้บริการทางเพศแอบแฝงด้วย ซึ่งประเทศกาตาร์มีกฎหมายควบคุมการเดินทางออกนอกประเทศของคนต่างชาติที่เข้าไปทำงานเป็นลูกจ้าง ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศกาตาร์ได้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากนายจ้าง จึงส่งผลให้คนไทยหลายรายประสบปัญหาในการเดินทางออกนอกประเทศ จนต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ
 
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า ปัญหาดังกล่าวขณะนี้มักพบอยู่ในกลุ่มพนักงานนวดในร้านนวดชาย ที่ต้องการจ้างพนักงานเพศชายเท่านั้น เนื่องจากกาตาร์แบ่งร้านนวดสำหรับผู้ชายและผู้หญิง โดยพนักงานนวดและลูกค้าจะต้องเป็นเพศเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการลักลอบส่งคนไปทำงานโดยผิดกฎหมายซึ่งอาจมีการกระทำเป็นขบวนการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 
ดังนั้นขอเตือนผู้ที่กำลังหางานว่า อย่าหลงเชื่อบุคคลที่ชักชวนให้ไปทำงานดังกล่าว เพราะอาจต้องเสียเงินฟรีและยังมีความเสี่ยงในการทำงาน รวมทั้งไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือการดูแลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหากประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศขอให้ตรวจสอบข้อมูล หรือแจ้งเรื่องร้องทุกข์แจ้งเบาะแสการหลอกลวงคนหางานได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามผ่านสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694
 
 
กพร. จัด "ติดดาวแรงงาน" ปูพรมทั่วประเทศวันมาตรฐาน
 
นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า กพร. มีกำหนดจัดงาน "วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ" ประจำปี 2560 ในวันที่ 2 มีนาคม 2560 ณ ห้องประชุมพิบูลย์สงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ รวมทั้งเป็นการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย และให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ รวมถึงเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และมาตรฐานฝีมือแรงงานสู่สาธารณชน
 
สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย" แด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปี เป็น "วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ" และได้ลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงมีการจัดงานวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ในวันที่ 2 มีนาคมเป็นประจำต่อเนื่องมาทุกปี ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552
 
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และทรงพระปรีชาสามารถด้านการช่าง รวมทั้งทรงให้ความสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงานของช่างไทยให้มีความเป็นมาตรฐาน กพร.ได้จัดกิจกรรมวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2560 ประกอบด้วย การติดดาวให้กับแรงงานทั่วประเทศกว่า 3,000 คน การจัดงานในส่วนกลาง ณ กระทรวงแรงงาน และในส่วนภูมิภาค ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ สำหรับส่วนกลางดำเนินกิจกรรมอาทิ จัดพิธีถวายพระราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย โดยเชิญหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภายนอกกระทรวงแรงงานเข้าร่วมพิธี จำนวน 97 หน่วยงาน จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ จัดพิธีมอบป้ายเครื่องหมายศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 15 แห่ง และเครื่องหมายมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 5 แห่ง จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตร โครงการประกวดหนังสั้น 6 + 6 ลูกไม้ใต้ต้นกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และมอบทุนการศึกษาแลเงินทุนประกอบอาชีพให้แก่เยาวชนผู้เข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 11 จำนวน 34 ทุนๆ ละ 9,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมของสถาบันเทคโนโลยีชั้นสูงของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 12 แห่ง พร้อมกับการจัดนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน, กรมการจัดหางาน, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม
 
สำหรับการจัดงานในส่วนภูมิภาค จะมีพิธีถวายพระราชสักการะ และการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงจะมีการจัดพิธีติดเครื่องหมายดาวเงิน 6 แฉกให้กับแรงงานที่ผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงานด้วย
 
นอกจากนี้ในวันที่ 2 มีนาคม 2560 จะเริ่มดีเดย์ให้บริการประชาชนตรวจเช็คสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในโครงการ "สงกรานต์ปลอดภัย ด้วยใจกระทรวงแรงงาน ประจำปี 2560" แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงก่อนเทศการสงกรานต์ ให้บริการฝึกอบรมการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องยนต์เบื้องต้น การขับขี่อย่างปลอดภัย หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายตามความเหมาะสม พร้อมกับให้บริการตรวจสภาพรถ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ และช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้บริการตรวจสภาพ ซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ รถจักรยานยนต์ เฝ้าระวังอันตราย อาทิ การตรวจสอบน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า เปลี่ยนหลอดไฟสัญญาณ ไฟเลี้ยว เช็คลมยาง ใบปัดน้ำฝน และส่วนประกอบอื่นๆ ให้มีความพร้อมในการเดินทางอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในการซ่อมบำรุง โดยตั้งจุดบริการบนถนนสายหลักและสายรอง หรือบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่นหรือตามที่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2560
 
 
แรงงาน ลงพื้นที่ปากน้ำหนุนตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์แก้หนี้นอกระบบให้ลูกจ้าง
 
กระทรวงแรงงาน โดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ดึงสถานประกอบกิจการในพื้นที่กว่า ๙๐ แห่ง ร่วมเป็นเครือข่ายจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ส่งเสริมการออมปลดหนี้นอกระบบให้ลูกจ้าง พร้อมเสริมสร้างแรงงานสัมพันธ์ที่ดี
 
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายให้กสร.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมายให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและด้านการสหกรณ์มาใช้ในการจัดสวัสดิการด้านเศรษฐกิจให้กับ
ลูกจ้างสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งประโยชน์ในการสร้างเสริมวินัยในการใช้จ่ายและเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการออม
 
ซึ่งเป็นหลักประกันในอนาคตให้กับพนักงาน รวมถึงกรณีที่มีความขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถจะกู้ยืมเงินผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันและเสียดอกเบี้ยในอัตราถูกซึ่งจะเป็นหนทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบให้กับลูกจ้างได้อีกทางหนึ่ง
 
ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการที่จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์แล้ว ๕๔๐ แห่ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตั้งเป้าหมายจะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งอีก ๓๐ แห่ง ซึ่งมีสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ แจ้งความจำนงแล้ว ๘ แห่ง รวมถึงสถานประกอบกิจการอื่น ๆ ในจังหวัดที่ให้ความสนใจ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสถานประกอบกิจการที่แจ้งความจำนงและที่สนใจให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและมีแนวทางในการจัดตั้งและดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ได้ผลอย่างยั่งยืน กสร.ได้จัดประชุมภาคีแรงงาน โดยเชิญนายจ้างลูกจ้างจากสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน ๙๑ แห่ง เข้าร่วมประชุมเรื่อง การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงานขึ้น ในวันอังคารที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมศูนย์พัฒนาและส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ ชั้น ๒ อาคารศูนย์ความปลอดภัยในการทำงาน จังหวัดสมุทรปราการ
 
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจ้าง ลูกจ้าง ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว จะได้รับทราบข้อมูลทั้งในทางวิชาการและแนวทางปฏิบัติในการจัดตั้งและดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการให้ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมสวัสดิการที่ดีให้กับลูกจ้างแล้วความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างลูกจ้างในสถานประกอบกิจการอีกทางหนึ่งด้วย
 
 
"นิด้า" เผย 5 บริษัทดิจิทัลในไทยที่คนไทยอยากทำงานด้วย "LINE-Kaidee-Pantip-Wongnai-Tencent"
 
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ได้เปิดเผยผลสำรวจ 5 บริษัทธุรกิจดิจิทัลที่คนไทยอยากทำงานด้วยมากที่สุด ได้แก่ LINE, Kaidee, Pantip, Wongnai และ Tencent (ประเทศไทย) หรือชื่อเดิม Sanook โดยนิด้าได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 376 คน เป็นเพศชาย 57.71% และเพศหญิง 42.29% ครอบคลุมกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา และพนักงานสายไอที-เทคโนโลยี โดยคำถามหลักให้กลุ่มตัวอย่างบรรยายลักษณะที่ทำงาน "ในฝัน" และระบุชื่อองค์กรด้านเทคโนโลยีที่อยากทำงานด้วย โดยบริษัทนั้นต้องมีทีมวิศวกรพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอยู่ในไทยด้วย
 
ผลสำรวจระบุว่า LINE ประเทศไทย ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 ตามด้วย Kaiden patip Wongnai และ Tencent โดยทั้ง 5 บริษัทเป็นนายจ้างยอดนิยมจากบรรดาธุรกิจดิจิทัลที่สำรวจ 17 แห่ง
 
 
ราชกิจจาเผยแพร่ประกาศรายชื่อ หลายบริษัทดัง ยกเลิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
 
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สท. 6/2560 เรื่อง การเลิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ระบุว่าโดยที่มาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 กำหนดให้ นายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประกาศการเลิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในราชกิจจานุเบกษา เมื่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเลิกตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว นายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงประกาศการเลิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ ดังต่อไปนี้
 
1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นวนคร ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 383/2533 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559
2. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 44/2534 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท ไบโอกรุ๊ป ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 63/2538 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559
4. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานกลุ่มบริษัทบี.กริม ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 107/2541 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559
5. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานซิงเกอร์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 432/2533 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559
6. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท สยามเคมีคอลอินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 34/2539 ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559
7. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานบริษัทเครือโจตันในประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
ทะเบียนเลขที่ 71/2541 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559
8. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อยุธยาพันธบัตร 2 ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 10/2544 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559
9 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนชาติสินไพบูลย์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 3/2547 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559
10. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 65/2535 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานองค์การสุรา กรมสรรพสามิต ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 34/2540 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559
12 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท เจ เอส วิชั่น จำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 31/2539 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559
13 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียน เลขที่ 4/2554 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559
 
ประกาศ ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 รพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะนายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
 
 
แรงงานเพื่อนบ้านเฮ! ชง ครม.ไฟเขียวกลับบ้านสงกรานต์ เว้นค่าธรรมเนียมเข้า-ออก
 
เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 3/2560 ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 แรงงานต่างด้าวสามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมภูมิลำเนาได้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่ออนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้อำนาจผ่อนผันแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการเดินทางออกและกระบวนการเดินทางเข้า
 
 
ครม.อนุมัติลดภาษีนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ จูงใจทำงานในอุตฯ เป้าหมายโครงการอีอีซี
 
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ได้อนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ... มาตรการภาษีเพื่อจูงใจผู้มีความสามารถสูงระดับโลกให้มาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี) โดยเป็นมาตรการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิจัยที่ทำงานในบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบเกี่ยวกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่โครงการอีอีซี
 
สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิตามมาตรการดังกล่าวจะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% ของเงินได้พึงประเมิน จากอัตราภาษีก้าวหน้าสูงสุด 35% ซึ่ง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวรายได้ดี และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินและลอจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
 
“10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลคิดว่าจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตที่จำเป็นที่ต้องอาศัยการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการจูงใจให้คนที่มีความสามารถทั้งไทยและต่างประเทศมาทำงานในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยแรงจูงใจ คือค่าตอบแทนที่เพียงพอ มาตรการนี้ยังจะช่วยสนับสนุนอีอีซีและอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และทำให้ไทยออกจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้อีกด้วย” นายกอบศักดิ์กล่าว
สำหรับบุคคลที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดภาษีสำหรับเงินได้จากการจ้างแรงงาน เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และโบนัส จะต้องมี 3 คุณสมบัติ ได้แก่ 1. ต้องทำงานในบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3. บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องมีกิจการอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดในอีอีซีเท่านั้น
 
 
กระทรวงแรงงาน เตือนแรงงานไทยในไต้หวันและบาห์เรน
 
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (สาขาเมืองเกาสง) รายงานข้อมูลสถานการณ์ไข้หวัดนกในไต้หวัน รัฐบาลไต้หวันได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ H5N6 โดยได้จัดตั้งศูนย์รับมือภัยพิบัติไข้หวัดนกอย่างเป็นทางการ เพื่อติดตามและเฝ้าระวังผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อจำนวน 165 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่กำจัดไก่ติดเชื้อ และแรงงานชาวไต้หวันที่ประกอบอาชีพฆ่าไก่ จึงขอเตือนแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงาน และแรงงานไทยในไต้หวันเพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคสัตว์ปีกในช่วงนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N6 ขณะพำนักอยู่ในไต้หวัน ทั้งนี้ แรงงานไทยที่ทำงานในไต้หวันสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (สาขาเมืองเกาสง) โทร. 8867-392-7620
 
ด้านสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) แจ้งให้ทราบว่า ประเทศบาห์เรน ได้เพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายต่อคนไทยผู้กระทำผิดกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้มีคนไทยถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่จำนวน 126 คน ข้อหาอพำนักเกินกำหนดวีซ่าท่องเที่ยว มีค่าปรับรวมกันคิดเป็นเงิน 147,635 ดีนาร์ หรือเท่ากับประมาณ 14,025,325 บาท (ไม่รวมค่าบัตรโดยสารเครื่องบินกลับประเทศ) ทั้งนี้ ค่าปรับการอยู่เกินระยะเวลาตามวีซ่าเดือนละ 50 ดีนาร์บาร์เรน หรือเท่ากับ 4,750 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดีนาร์เท่ากับประมาณ 95 บาท) จึงขอเตือนคนไทยที่จะเดินทางเข้าบาร์เรนผ่านช่องทาง Visa on Arrival (มีสิทธิอยู่ได้ 14 วัน) แล้วลักลอบทำงานในประเทศบาร์เรนจะไม่มีการลดหย่อนทั้งโทษปรับและจำคุกเช่นที่ผ่านมา ผู้ที่ประสบปัญหาสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) โทร. 966-11-482-7977
 
 
ก.ล.ต. ชี้แจง การยกเลิกกองทุนเงินสำรองเลี้ยงชีพของ 13 บริษัทชั้นนำ 
 
นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ชี้แจงกับทีมข่าววอยซ์ ทีวี ถึงกรณีการประกาศยกเลิกกองทุนเงินสำรองเลี้ยงชีพ หรือ PVD ของ 13 บริษัทชั้นนำ อาทิ กองทุนฯ ของบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) กองทุนฯ พนักงานกลุ่มบริษัทบี.กริม, กองทุนฯ บริษัท ทีทีแอนด์ที, กองทุนฯ กลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส ว่าเป็นการยกเลิก เพื่อโอนย้ายจากกองทุนนายจ้างเดียวที่มีนโยบายการลงทุนเพียงนโยบายเดียว ไปยังกองทุนใหม่ที่ร่วมกันหลายนายจ้างและมีหลายนโยบายในการลงทุน โดยยืนยัน ว่าสมาชิกกองทุนฯ จะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบ แต่จะได้รับผลประโยชน์ที่มากขึ้น เนื่องจากกองทุนแบบหลายนายจ้าง ตอบโจทย์ลูกจ้างที่มีความแตกต่างของช่วงวัยอายุ ให้มีทางเลือกที่หลากหลายในการลงทุน
 
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน ก.ล.ต. ยังระบุว่า ปัจจุบันมีแนวโน้มที่หลายบริษัท ต้องการโอนย้ายจากกองทุนนายจ้างเดียว ไปเป็นแบบกองทุนหลายนายจ้าง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่านายจ้างและสมาชิกมีการตื่นตัว และมีทางเลือกการออมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกจ้างในวัยเกษียณมากขึ้น โดยในปี 2559 มีการแจ้งยกเลิกกองทุนนายจ้างเดียว จำนวน 13 กองเพื่อโอนย้ายไปกองทุนหลายนายจ้าง ทำให้มีกองทุนหลายนายจ้างเพิ่มขึ้น เป็น 28 กอง จากปี 2554 ที่มี 17 กอง หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 จากกองทุนรวมที่จดทะเบียนทั้งหมด 401 กอง
 
ทั้งนี้ การออกประกาศลงราชกิจจานุเบกษาครั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอนของตามพระราชบัญญัติเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 ที่กำหนดให้ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนกองทุนเงินสำรองเลี้ยงชีพ เป็นผู้ประกาศ
 
 
LVT หยุดประกอบกิจการชั่วคราวและเลิกจ้างพนักงานหลังขาดสภาพคล่อง
 
บมจ.แอล.วี.เทคโนโลยี (LVT) แจ้งว่าบริษัทมีความจำเป็นต้องหยุดประกอบกิจการชั่วคราวและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด เว้นแต่กรรมการบริหาร ได้แก่ นายธนิก ศิริวัฒนประยูร นายวิชัย ตันติกุลานันท์ นายอุระ หวังอ้อมกลาง และนายสงวน สงวนรักศักดิ์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป เนื่องจากประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินมาก ไม่มีงานโครงการใหม่ และไม่สามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้ตามแผน ส่งผลให้ไม่มีรายได้เพื่อใช้จ่ายประจำและเป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งอยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
 
อย่างไรก็ตาม งานที่ยังไม่ได้ส่งมอบนั้น ทางบริษัทจะว่าจ้าง Outsource ตามความจำเป็นเพื่อติดตามงานดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบงานภายในเดือนเมษายน 2560 หากส่งมอบงานเรียบร้อยแล้วหรือมีความคืบหน้าใด ๆ จะประกาศให้ทราบต่อไป
 
ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายจึงเห็นควรลดวันทำงานให้เหมาะสมกับปริมาณงานในขณะนี้ โดยบริษัทจะหยุดทำการทุกวันจันทร์และวันศุกร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2560 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
 
 
สตม. บุกตรวจโกดังร้างย่านอ่อนนุช แหล่งซุกแรงงานต่างด้าวกว่า 60 ชีวิต
 
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พร้อมชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบโกดังร้างแห่งหนึ่ง ภายใ นซอยอ่อนนุช 70 หลังรับแจ้งเบาะแสว่าบริเวณโกดังร้าง เป็นแหล่งซุกซ่อนของแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย ที่ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย จากการตรวจสอบชุดสืบสวน พบแรงงานต่างด้าวชายหญิงสัญชาติกัมพูชา หลายคนพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหลังโกดังร้าง ชุดสืบสวนจึงไล่ติดตามจับกุมได้เกือบ 60 คน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้น
 
รายงานข่าวจากชุดสืบสวน เปิดเผยว่าจุดที่เข้าตรวจสอบขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ใช้เป็นจุดพักแรงงานต่างด้าว ที่รอเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เพื่อทยอยส่งมอบแรงงานต่างด้าว หลังจากลักลอบเดินทางมาจากแนวชายแดนไทย หรือเป็นจุดพักของแรงงานต่างด้าว รอรถยนต์ตู้และรถยนต์กระบะมารับเพื่อลักลอบออกจากประเทศไทย ซึ่งขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว และคนในเครื่องแบบบางนายที่อาจมีส่วนรู้เห็น จะเรียกจุดพักแรงงานต่างด้าวตามสถานที่ต่างๆ โดยใช้คำว่า “ล้ง” ซึ่งเป็นคำพูดโดยมีความหมายรับรู้ในขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย
 
 
เตือนคนไทยลอบทำงาน-อยู่เกิน 90 วันในสิงคโปร์ระวังเจอโทษเฆี่ยน-จำคุก
 
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ ประกาศเตือนคนหางานว่า การเข้ามาทำงานในสถานบันเทิงประเทศสิงคโปร์ ตำแหน่งนักร้อง นางแบบ หรืออื่นๆ นายจ้างจะต้องขออนุญาตจ้างงานชาวต่างชาติ จากกระทรวงแรงงานสิงคโปร์ก่อน หากกระทรวงแรงงานสิงคโปร์อนุมัติการจ้างงาน แล้วจะออกใบอนุญาตการทำงานประเภท Work Permit ให้กับลูกจ้างในตำแหน่ง Performing Artiste โดยมีระยะเวลาจ้างงานไม่เกิน 6 เดือน จึงจะถือว่าเป็นการทำงานที่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งนายจ้างจะต้องส่งใบอนุญาตการทำงานโดยหลักการ (In-Principle Approval - IPA) ให้กับลูกจ้างก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ และลูกจ้างต้องดำเนินการขออนุญาตเดินทางออกมาทำงานต่างประเทศตามขั้นตอนของกรมการจัดหางานด้วย
 
กระทรวงแรงงาน เตือนคนไทยที่ลอบไปทำงานหรืออยู่เกิน 90 วันในสิงคโปร์ ระวังลงโทษจากการกระทำผิดที่รุนแรง มีทั้งโทษเฆี่ยนและจำคุก ทั้งนี้กระทรวงแรงงานขอเตือนผู้ที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ในฐานะนักท่องเที่ยวและลักลอบทำงานไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดก็ตามโดยไม่มีใบอนุญาตการทำงาน จะถือว่าเป็นการทำงานที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น และหากถูกจับกุมกรณีทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตการทำงานจะมีโทษปรับสูงสุด 20,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี และหากอยู่เกินกำหนดอนุญาต 90 วัน จะมีโทษกรณีอยู่พำนักเกินกำหนด โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนพร้อมเฆี่ยนไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง
 
 
สวัสดิการฯ ตรวจสอบหินหล่นทับนักธรณีดับ 2 ราย
 
น.ส.ปักษธร สมิทราปัญญา นักวิชาการแรงงานชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานตรวจสอบความปลอดภัย สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องเกิดหินในอุโมงค์ขนส่งเศษวัสดุก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำหล่นทับนักธรณีวิทยาเสียชีวิต2 รายได้เดินทางเข้ามาเพื่อตรวจสอบจุดเกิหิดเหตุว่าเกิดเหตุได้อย่างไร เกี่ยวข้องกับกฎหมายความปลอดภัยของการทำงานหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฏหมายความปลอดภัย จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
 
 
กพร. กระตุ้นเอกชนบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรม สมัครเข้าคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรมปี 2560
 
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2560 ของกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นเอกชนให้มีการบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ ด้านการผลิตที่มีคุณภาพ การรักษาสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย การประหยัดพลังงาน ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 กพร. จึงจัดให้มีการมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2560 จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ที่นำเนียบรัฐบาล พื่อเป็นกำลังใจและเป็นแบบอย่างแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมให้มีความคิดริเริ่ม และความวิริยะอุตสาหะ ในการสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ดังนั้น อยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเอกชนสมัครเข้าโครงการ โดยรางวัลประกอบด้วยรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล และอุตสาหกรรมดีเด่น 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1. ประเภทเพิ่มผลผลิต 2. ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3. ประเภทการบริหารความปลอดภัย 4. ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5. ประเภทการจัดการพลังงาน 6. ประเภทการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม และ 7. ประเภทการจัดการโลจิสติกส์ โดยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่มีความสนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันปิดรับสมัคร คือ วันที่ 28 เมษายน 2560
 
 
แรงงานวัยเก๋า ใช้บริการศูนย์ทะเบียนจัดหางานผู้สูงอายุ พบได้รับการบรรจุงานแล้วกว่า 140 ราย
 
กรมการจัดหางาน เผยยอดการให้บริการจัดหางานแก่ผู้สูงอายุของศูนย์ทะเบียนจัดหางานผู้สูงอายุพบได้รับการบรรจุงานแล้วกว่า 140 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานด้านการผลิต ขณะที่ตำแหน่งพนักงานทั่วไปและพนักงานธุรการได้รับความสนใจสูงสุด พร้อมเป็นหน่วยงานต้นแบบจ้างงานผู้สูงอายุสร้างรายได้แก่ผู้สูงอายุกว่าแสนบาทต่อปี
 
กระทรวงแรงงาน โดยนายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากการเปิดให้บริการของศูนย์จดทะเบียนจัดหางานผู้สูงอายุ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 จนถึงมกราคม 2560 มีผู้สูงอายุมาใช้บริการจัดหางานทั้งสิ้น 1,421 ราย มีตำแหน่งงานงานว่าง 758 อัตรา ได้รับการบรรจุงาน 141 ราย และบางรายได้ประกอบอาชีพอิสระ โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีผู้สูงอายุได้รับการบรรจุงานในตำแหน่งแรงงานด้านการผลิตมากที่สุด รองลงมาเป็นแม่บ้าน ผู้เพาะปลูกอ้อย นักแนะแนวและพนักงานบริการลูกค้าตามลำดับ ขณะที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการสมัครงานในตำแหน่งเสมียนพนักงานทั่วไปและพนักงานธุรการ ทั้งนี้ ภาครัฐมีการจ้างงานผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 55-75 ปี ให้บริการ ณ สำนักงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำ มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองและมีความสุข ในการทำงาน ทั้งยังเป็นต้นแบบในการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย โดยต้องมีคุณสมบัติจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา มีความรู้ประสบการณ์ด้านการแนะแนวหรือให้คำปรึกษากับผู้ที่หางานทำได้ยาก โดยจ้างงานผู้สูงอายุจำนวน 20 คน ระยะเวลาทำงาน 144 วัน ๆ ละ 3 ชั่วโมง ได้รับค่าจ้าง 250 บาท/ชั่วโมง หรือมีรายได้ถึง 108,000 บาท/คน
 
ด้านนายพรชัย เอกฤทัยเจริญสุข อายุ 61 ปี อดีตผู้จัดการธนาคาร กล่าวว่า ศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ จะเป็นศูนย์กลางในการจัดหางานที่ช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำ ถึงแม้จะเกษียณอายุแล้ว แต่ยังสามารถทำงานได้และการมาสมัครงานในวันนี้ก็ไม่ได้เรียกร้องเงินเดือนสูง แต่การที่ได้รับโอกาสได้งานทำในวัยเกษียณ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ซึ่งศูนย์แห่งนี้ดีช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้มาขึ้นทะเบียนหางาน ทำให้มีอาชีพ มีรายได้
 
ด้านนางศิริพร อิ่มทั่ว อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอีกผู้หนึ่งที่มาใช้บริการที่ศูนย์ทะเบียนจัดหางานผู้สูงอายุ กล่าวว่า ทราบข่าวกรมการจัดหางานเปิดรับสมัครผู้สูงอายุ จึงได้มาสมัครงาและได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ให้บริการจัดหางานแก่ผู้สูงอายุที่ศูนย์ทะเบียนจัดหางานผู้สูงอายุ รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ทำงานด้านบริการ เพราะชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งยังได้รับประสบการณ์ใหม่ๆและมีความสุขมากที่ได้เพื่อนร่วมงานที่ดี
 
นายวรานนท์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้สูงอายุใดต้องการหางานทำสามารถมาใช้บริการได้ที่ ศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart job Center) ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสมัครทางเว็บไซต์ www.doe.go.th/elderly สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
 
ที่มา: กรมการจัดหางาน, 4/3/2560

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท