Skip to main content
sharethis

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อพัฒนากองทัพเขา ย้ำเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว ด้าน พล.อ.ประวิตร เผยจัดซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจี ผ่าน สนช. รอเสนอ ครม.เมื่อไหร่เท่านั้น 

7 มี.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนหนึ่งถึง เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่าต้อง ถามรองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
 
"เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลงบประมาณ พ.ร.บ.งบประมาณ ต่างๆ ที่ออกไปแล้ว การใช้จ่ายงบประมาณ มีการวางแผนการใช้จ่ายของทุกหน่วยงานทุกกระทรวง ทวบง กรม มันก็ต้องใส่บรรจุไว้ในแผนของเขา ในการพัฒนากองทัพเขา เป็นขั้นเป็นตอนของเขามีอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
ด้าน พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า เรื่องนี้อยู่ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณ ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่จะเสนอ ครม.เมื่อไหร่เท่านั้น เวลานี้อยู่ในขั้นตอนประสานงานกับประเทศที่เราจะซื้อแบบรัฐต่อรัฐ
       
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในการประชุม ครม.ช่วงแรกตนติดภารกิจเป็นประธานเปิดตลาดวิถีใต้ฯ ที่คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล แต่หลังจากนั้นตนได้เข้าร่วมประชุม ครม.ซึ่งไม่มีการพิจารณาวาระดังกล่าว ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากมีการพิจารณาจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมต้องเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว 

ตรวจอู่ซ่อมบำรุง ทร.-ดูแผนสร้างโรงซ่อมเรือดำน้ำ

ขณะที่วานนี้ (6 มี.ค.60) ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.อ. ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกองทัพเรือและสายงานด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ โดยมี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กองทัพเรือมีความก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของงานวิจัยและพัฒนาในหลายเรื่อง เพื่อพึ่งพาตัวเองต่อไปในอนาคต กองทัพเรือได้มีการจัดสร้างเรือหลวง (ร.ล.) กระบี่ น้ำหนัก 1,900 กว่าตัน เป็นเรือขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งเราพยายามทำเองทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินลาดตระเวนทางน้ำที่สร้างขึ้นเองจนสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในอนาคตจะมีการดำเนินการโดยเฉพาะเครื่องบินไร้คนขับ (ยูเอวี) ที่มีระยะบินไกล 400 กิโลเมตร ระดับความสูงที่ 2,000 เมตร ถือได้ว่ากองทัพเรือมีความก้าวหน้าและมีความสามารถเป็นอย่างยิ่ง

“ผมจะไปดูทุกเหล่าทัพ และจะให้รวบรวมว่าสิ่งใดที่เราทำได้มีการดำเนินการและมีความก้าวหน้า ให้กองทัพนั้นเป็นต้นแบบดำเนินการ ในส่วนของเหล่าทัพอื่นก็ต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น โดยการบูรณาการร่วมกันทุกเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อุดมเดชทำหน้าที่ดูแลการบูรณาการทั้งหมด เพื่อการพึ่งพาต่อไปในอนาคต ถือเป็นการปฏิรูปในเรื่องของยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในอนาคต 20 ปีข้างหน้าจะทำอะไร ส่วนต่อไปทุกเหล่าทัพจะมีโรงงานซ่อมสร้างเป็นของตัวเองหรือไม่นั้น คงไม่ใช่ เพราะต้องมาดูก่อน ว่าต้องเป็นโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ประเทศใดที่กองทัพมีประจำการอยู่ เช่น เราซื้อรถถังจีน vt-4 ก็น่าจะมีโรงงานซ่อมสร้าง เครื่องซ่อมบำรุงในการดำเนินการต่างๆ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังต้องพูดคุยกันอีก ถือเป็นความร่วมมือกันของจีนและไทยจะผลิตเองด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
 
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการสร้างอู่ซ่อมเรือดำน้ำว่า เป็นเพียงการกำหนดสถานที่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่อยากให้ไปถามล่วงหน้า ยังไม่อยากลงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่ความพร้อมที่จะรองรับเรือดำน้ำ กองทัพเรือมีความพร้อมมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อ เนื่องจากติดข้อท้วงติงในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเรือดำน้ำใช้ประโยชน์ไม่ได้ และทะเลของไทยมีความตื้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าเรือดำน้ำใช้ได้ ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปดู 200 ไมล์ทะเลทางด้านตะวันตกทะเลอันดามันว่าเรามีทรัพยากรธรรมชาติอะไรอยู่บ้าง แต่โดนโจมตีจนไม่ได้ซื้อทุกครั้ง ทุกเรื่องยืนยันว่าเราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและทำให้ประเทศ
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net